สนั่นโซเซียล กฎเหล็กคสช.
กลายเป็น“ทอล์ค ออฟเดอะทาวน์”ในโลกโซเซียลเวลานี้ มีทั้ง เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
มีทั้งกระแหนะกระแหน ภาพล้อเลียน ภาพตัดต่อสารพัด ถูกถ่ายทอดบนโซเซียล เรียกว่ามาจากทุกกลุ่มวิชาชีพ ที่ดูเหมือนจะไม่เห็นด้วยแม้แต่ตำรวจเอง
จากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ใช้อำนาจตามมาตรา 44 ออกคำสั่งเพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่ใช้รถ กำหนดให้ผู้โดยสาร คนขับรถต้องรัดเข็มขัดนิรภัยทุกที่นั่ง ในรถทุกประเภท ที่จดทะเบียนกับกรมขนส่งทางบก
การที่ทำอะไรให้ถูกต้องตามกฎหมายมันเป็นเรื่องที่ดีอยู่แล้ว แต่ที่แย่หนักคนไทยมักไม่สนใจ เจ้าหน้าที่ก็ชอบ อะลุ่มอล่วย พอจะเอาจริงก็เป็นอย่างนี้แหละ อันที่จริงการ“รัดเข็มขัดนิรภัย” ถือเป็นสิ่งที่ดี
แต่ที่ถกเถียงกันมากเห็นทีจะเป็น ห้ามรถกระบะมีแคปบรรทุกคนเด็ดขาด จริงๆรถกระบะแคป จดทะเบียนเป็นรถกระบะบรรทุกส่วนบุคคลไม่เกิน 7 นั่งป้ายทะเบียนกำกับประเภทรถ เป็นป้ายสีขาวตัวอักษรสีเขียว แต่ใช้บรรทุกคนจนเคยชิน กระบะแคปไม่มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของผู้ที่นั่งไม่ได้ออกแบบให้คนนั่ง แต่ออกแบบวางสิ่งของ ฉะนั้นใครที่ถูกจับ ไม่ใช่ข้อหาไม่รัดเข็มขัดนิรภัย แต่เป็นข้อหาใช้รถยนต์ผิดประเภท
ส่วนชาวบ้านร้องจ๊าก..ขึ้นมา เพราะอีกไม่กี่วันเป็นช่วงสงกรานต์ผู้คนส่วนใหญ่ต้องกลับบ้านต่างจังหวัด คำถามที่ตามมาคนเหล่านี้เขาจะทำอย่างไร นั่งกระบะท้ายก็ไม่ได้ นั่งรถกระบะแคป ก็ไม่ได้ แต่ที่บ้านดันมีรถอย่างนี้ มีสมาชิกในครอบครัว 4-5 คน ทำยังไงดี
วันนี้แม้กฎหมายจะแยกคนจนคนรวยไม่ได้ก็จริงอยู่ แต่สิ่งที่กำลังปรากฏวันนี้ คนรวยเรียกว่า“ไม่เดือดร้อน” คงไม่มีเศรษฐีคนไหน นึกสนุกขอไปนั่งท้ายรถกระบะหรือนั่งรถกระบะแคปเดินทางไปต่างจังหวัดแน่นอน แต่ที่เลี่ยงไม่ได้เห็นทีผู้มีรายได้น้อยนั่นเอง
เห็นพล.ต.ท.วิทยา ประยงค์พันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.บอกทำนองตอนนี้ยังไม่มีกำหนดเวลาชัดเจนว่า จะเริ่มจับปรับผู้ทำผิดจริงจังเมื่อไหร่ เบื้องต้นได้ขยายไปหลังสงกรานต์ อย่างนี้น่าจะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนในการเดินทางช่วงเทศกาลสงกรานต์ได้ระดับหนึ่ง
อันที่จริงตำรวจน่าจะหันไปเข้มงวดการใช้ความเร็ว เมาแล้วขับ การฝ่าฝืนกฎจราจรแบบนี้ก็น่าจะได้ผลดีกว่าไหม