ราชนีติ : วิถีพระราชามรรคาผู้นำ (4)

ราชนีติ : วิถีพระราชามรรคาผู้นำ (4)

ตอนที่แล้วได้กล่าวถึงคาถาบทที่ 2-9 ซึ่งเสนอแนวทางกว้างๆ ถึงคุณสมบัติ

ของคนที่จะมาเป็นข้าเฝ้าหรือคนทำงานของพระราชา ฉบับนี้ จะเสนอคุณสมบัติของผู้ที่สมควรทำงานในตำแหน่งต่างๆ ที่พระราชาต้องทรงเสาะหามาประจำการในราชสำนัก เพื่อทำงานบริหารราชการแผ่นดินให้เป็นไปด้วยดี ได้แก่

คาถาบทที่ 10 กล่าวว่า ข้าเฝ้าผู้มีคุณสมบัติ คือ มีตระกูลและศีลาจารวัตร มีสัตย์ มีธรรม มีปัญญาดี มีศีลดี มีหลักดี เป้นคนขยัน พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งบุคคลเช่นนี้ไว้ในตำแหน่งผู้พิพากษา

คาถาบทที่ 11 กล่าวว่า ข้าเฝ้าผู้เกิดในตระกูลซื่อตรง ฝึกฝนชำนิชำนาญการเงิน รู้จักรัตนะทุกชนิด มีกรรมสะอาด ไม่เคยพลั้งพลาด เป็นผู้ดี พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งข้าเฝ้าเช่นนี้เป็นนายคลัง

คาถาบทที่ 12 กล่าวว่า ข้าเฝ้าผู้รู้จักคนเก่าคนใหม่ มีกำลังใจ ใครเห็นใครชม มีกรรมสะอาด อดทนความลำบากได้ เอาใจใส่การงาน พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งข้าเฝ้าเช่นนี้เป็นนายประตู

คาถาบทที่ 13 กล่าวว่า ข้าเฝ้าผู้มีปัญญา รู้จักพูด แกล้วกล้า รู้ใจผู้อื่น มีอัธยาศัยละเมียดละมัย รู้พูดที่ควรไม่ควร พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งข้าเฝ้าเช่นนี้เป็นทูต

คาถาบทที่ 14 กล่าวว่า ข้าเฝ้าที่กำหนดจำคำของคนอื่นได้ในคราวเดียว จดได้ไว ลายมืองาม มีความเฉียบแหลม ฉลาดพูด ขยัน พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งข้าเฝ้าเช่นนี้เป็นอาลักษณ์หรือเลขา

คาถาบทที่ 15-16 กล่าวว่า ข้าเฝ้าผู้มีปัญญารอบรู้ในการขยายอาณาเขต รู้ชัดเจนในภูมิสาสตร์ ยอมสละชีพในคราวอันตราย ทนทุกข์ทนสุขได้ รู้ตำราพิชัยสงคราม รู้จักผ่อนปรนพาหนะมิให้ลำบาก มีความแกล้วกล้าอาจหาญ พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งข้าเฝ้าเช่นนี้ให้เป็นแม่ทัพ

คาถาบทที่ 17 กล่าวว่า คนครัวสืบตระกูลมาแต่ชั้นทวด เป็นคนขยัน รู้ตำราทำกับข้าว ปรุงอาหารได้พอเหมาะ ทำครัวอยู่เสมอ รู้จักจับจ่าย พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งข้าเฝ้าเช่นนี้เป็นวิเศษเครื่องต้น

คาถาบทที่ 18 กล่าวว่า ผู้ใดรู้คัมภีร์อายุรเวท มีความขยัน ชำนาญศัลยกรรม น่ารักน่านิยม ทรงคุณจรรยาแพทย์อย่างดี พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งข้าเฝ้าเช่นนี้เป็นแพทย์

คาถาบทที่ 19 กล่าวว่า ผู้ที่รู้จักใจคน มีการงานสะอาด ขยัน ตั้งอยู่ในธรรม รู้วิชามาก ไม่มักได้ ระมัดระวังรอบคอบ ข้าเฝ้าเช่นนี้ควรโปรดให้อยู่ใกล้ชิดพระองค์ได้

คาถาบทที่ 20 กล่าวว่า ผู้รู้คัมภีร์เวทและเวทางคศาสตร์ ขวนขวายในมนตรา ทำพิธีบูชาบวงสรวง มีเมตตา สูงอายุ พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งให้เป็นปุโรหิต

คาถาบทที่ 21 กล่าวว่า ผู้รักษาอินทรีย์สภาพดี ฉลาดในภาษาต่างๆ ยินดีแต่สิ่งที่ชอบ คอยรับใช้เฉพาะพระพักตร์ แตกฉานในศิลปะต่างๆ สมบูรณ์ด้วยตระกูลและมารยาท มีความเกรงกลัว พระเจ้าอยู่หัวควรทรงตั้งข้าเฝ้าเช่นนี้ไว้ในพระราชมณเฑียร

เมื่อไล่เรียงแนวคิดจากคาถาทั้งหมดข้างต้น จะเห็นได้ว่า หลักการเมื่อนับพันปีก่อนในราชนีติ ก็ไม่ต่างจากหลักการในปัจจุบันเลย นั่นคือ การบริหารงานใดๆ ย่อมต้องใช้คนที่มีความสามารถตรงกับตำแหน่งงานที่ตนรับผิดชอบ ฝรั่งว่า put the right man on the right job หรือภาษาไทยว่า ใช้คนให้ถูกกับงาน นั่นเอง ไม่ว่าหลักการบริหารงานของฝรั่ง จีน แขก ไทย ก็ล้วนแต่มีหลักใหญ่ใจความเป็นไปตามหลักการนี้ ต่างกันแต่รายละเอียดปลีกย่อยที่สอดคล้องกับลักษณะสังคมของแต่ละแห่งเท่านั้นเอง

ในหลักการของราชินีติ จะเห็นได้ว่า ทุกตำแหน่งล้วนแต่ต้องใช้คนที่มีความซื่อสัตย์ ไม่ว่าจะเป็นผู้มี มีสัตย์ มีธรรม มีศีลดี ในคาถาที่ 10 มีกรรมสะอาด ในคาถาบทที่ 11 และ 12 ทรงคุณจรรยา ในคาถาบทที่ 18 ตั้งอยู่ในธรรม ในคาถาบทที่ 19 ก็ล้วนแต่กำหนดไว้เพื่อต้องการคนที่มีความซื่อสัตย์ ทั้งสิ้น เพราะหากไม่มีความซื่อสัตย์ย่อมตามมาด้วยความเสื่อมเป็นแน่แท้

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเน้นย้ำเรื่องความซื่อสัตย์ คุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ในการทำงานและดำเนินชีวิต ดังปรากฏในพระบรมราโชวาทและพระราชดำรัสเนื่องในวโรกาสต่างๆ ที่ชัดเจนที่สุดก็คือ พระบรมราโชวาทเรื่องให้คนดีปกครองบ้านเมือง ดังที่ยกมาประกอบบทความตอนที่แล้วนั่นเอง