ผู้ตามในยุคดิจิทัล

ผู้ตามในยุคดิจิทัล

การพูดถึงอะไรก็ตามที่เป็นดิจิทัล ทำให้ดูว่าคนนั้นเป็นคนทันสมัย เป็นคนสี่จุดศูนย์

 ใครที่เป็นผู้นำ หรืออย่างน้อยคิดว่าตนเองเป็นผู้นำ จึงกล่าวถึงดิจิทัลกันอยู่เป็นประจำ ส่วนใหญ่มักบอกว่าตนเองเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัล ผู้นำในยุคดิจิทัลจึงหาง่าย แต่ที่หายากคือผู้ตามในยุคดิจิทัล ผู้ตามในยุคสี่จุดศูนย์ทำตัวกันไม่ค่อยถูก เพราะดิจิทัลเกี่ยวข้องไปแทบทุกเรื่องในหน้าที่การงาน ขาดสมาร์ทโฟนสักวัน การงานก็ไม่ราบรื่นแล้ว ที่ผู้ตามไม่รู้ว่าจะทำอะไรกันแน่นั้น เพราะการก้าวสู่การเป็นดิจิทัล เหมือนกับการย้ายบ้านพร้อมกับย้ายที่ทำงาน พร้อมกับเปลี่ยนวิธีการเดิน เปลี่ยนหนทางการจับจ่ายใช้สอย การแปลงสู่ดิจิทัลนั้นมีขอบเขตที่กว้างขวางกว่าการแปลงในอดีตที่ผ่านมา จึงยากที่ใครที่เป็นผู้นำจะบอกกล่าวให้ผู้ตามรู้เรื่องว่าจะแปลงอะไร ตรงไหน อย่างไร

ไม่ว่าผู้นำจะแปลงองค์กรไปสู่ดิจิทัลแบบใดก็ตาม จะแปลงเป็นสี่จุดศูนย์ หรือล้านจุดศูนย์ ก็มีสิ่งที่เหมือนกันอยู่หลายอย่างสำหรับคนที่เป็นผู้ตาม ดังนั้นขอให้ระลึกไว้เสมอว่าในการแปลงไปสู่ดิจิทัลนั้น คนนำกับคนตามจริงๆ แล้วรู้ต่างกันไม่เท่าไร ดิจิทัลเป็นของใหม่ทั้งผู้นำ และผู้ตาม ถ้าผู้นำค่อนข้างจะอาวุโส ผู้ตามอาจรู้เรื่องดิจิทัล อาจใช้ดิจิทัลอยู่แล้วมากกว่าผู้นำใช้ก็เป็นได้ ผู้ตามดิจิทัลนั่นแหละคือตัวจริงที่ทำให้การเปลี่ยนแปลงไปสู่ดิจิทัลกลายเป็นความจริงได้ บทบาทแรกของผู้ตามดิจิทัล ที่ต้องเดินตามผู้นำดิจิทัล คือใช้ดิจิทัลเหมือนที่เคยใช้มา เคยใช้แท็ปเล็ตอย่างไร ใช้สมาร์ทโฟนอย่างไร ก็ให้ใช้ต่อไป เคยใช้อูเบอร์ก็ใช้ต่อไป โดยอย่าไปกังวลกับคำประกาศยาก ๆเกี่ยวกับดิจิทัล จากผู้นำที่ชอบคุยเรื่องดิจิทัล แต่ไม่ค่อยชอบใช้ เพราะผู้นำที่ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญดิจิทัล รู้ไม่ต่างไปจากที่ผู้ตามรู้เท่าใดนัก

ตามตำราการแปลงสู่ดิจิทัลมักบอกว่าต้องส่งเสริมให้มีนวัตกรรม ต้องส่งเสริมให้มีการเสี่ยงอย่างชาญฉลาด จึงเป็นโอกาสอันดีที่จะเสี่ยงทำอะไรเกี่ยวกับดิจิทัลที่อยากลองทำในตอนนี้ ทำแล้วไม่ได้ผลดังใจ ก็แก้ตัวไปได้ว่าเป็นการเสี่ยงทำดูตามยุคดิจิทัล ถ้าอยากได้เงินทองสนับสนุนใด ๆเกี่ยวกับงานดิจิทัล ก็ให้รีบหาเสียในตอนนี้ ลองแต่งชื่อโครงการให้ดูเป็นสี่จุดศูนย์ เป็นห้าจุดศูนย์สักหน่อย โอกาสได้เงินทองสนับสนุนก็มีมาก ถ้าไม่มีผู้ตามดิจิทัลเป็นแขนเป็นขาให้ผู้นำ การแปลงไปเป็นดิจิทัลก็เป็นไปไม่ได้

ผู้นำในยุคดิจิทัลไม่จำเป็นต้องก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำด้วยการสะสมประสบการณ์ เหมือนกับแต่ก่อนที่ผู้นำต้องเคยทำการงานนั้นมายาวนาน จนสะสมประสบการณ์ได้ถึงระดับที่เชื่อว่าจะบริหารการงานนั้นได้ วันนี้คนที่คิดอะไรใหม่ ๆได้เก่งๆ ก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำได้ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์มากน้อยเพียงใด ดังนั้นผู้ตามดิจิทัลต้องคอยติดตามการเปลี่ยนแปลง ให้ตนเองทันสมัยเท่าทันการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นทุกวันนี้ ใครที่เก่งในการเติมเต็มความสามารถของเพื่อร่วมทีม ก็ควรเติมเต็มความเก่งนี้ให้กับผู้คนได้พบเห็นให้กว้างขว้างขึ้น เร่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหา และการคิดสร้างสรรค์ให้มากขึ้น มองรอบตัวแล้วตั้งคำถามว่าจะเอาดิจิทัลไปช่วยทำอะไรได้บ้าง การนำในยุคดิจิทัลคือการนำด้วยความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ร่วมงานกันเป็นทีม ในลักษณะที่เป็นโครงการ ไม่ได้นำด้วยการจัดการตามลำดับขั้น จัดการต่อเนื่องกันเป็นขั้นๆ ในรูปแบบที่มีการกำหนดหน่วยงานไว้แล้ว เน้นบริหารหน่วยงานมากว่าบริหารโปรเจค คนเล็กเสนอคนใหญ่เป็นขั้น ๆไปตามลำดับ โดยที่แต่ละลำดับแค่เป็นทางผ่านไปสู่การตัดสินใจของผู้นำเท่านั้น

ผู้นำดิจิทัลต้องแปลงความคิด แปลงความรู้สึก แปลงพฤติกรรม และแปลงการโต้ตอบต่างๆ ให้สอดคล้องกับแต่ละบริบท ถ้าอยู่กับผู้นำที่ช่างพูดเรื่องดิจิทัล ให้เติมเต็มทักษะของยุคดิจิทัลไว้โดยทั่วหน้า เพราะไม่แน่ว่าวันหนึ่งอาจจะกลายเป็นผู้นำดิจิทัลโดยไม่รู้ล่วงหน้า