AstroTech

ในยุค Great Depression ความสำเร็จและสูตรลับที่สร้างความร่ำรวยของเขา กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนอยากได้จวบจนทุกวันนี้

50 ล้านดอลลาร์คือความมั่งคั่งสุทธิของแกนน์เมื่อเสียชีวิต ตัวเลขนี้สูงมาก แต่ถ้าเทียบกับชาติกำเนิดของเขาแล้ว มันเป็นตัวเลขมหัศจรรย์เลยทีเดียว แกนน์เกิดในครอบครัวชาวไร่ฝ้ายที่ยากจน เป็นพี่ใหญ่ของน้อง 10 คน ไม่ได้เรียนหนังสือจริงจัง ที่น่าทึ่งที่สุดคือ การสะสมความมั่งคั่งของเขานั้น ต้องผ่านช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 รวมถึงวิกฤติเศรษฐกิจที่ร้ายแรงสุดในรอบ 100 ปี คนยากไร้ที่ไม่มีชาติตระกูลยิ่งใหญ่หนุนหลัง คงมีแค่ 1 ในล้านที่ทำได้อย่างแกนน์

แกนน์เข้าวงการหุ้นเมื่ออายุ 25 เพียง 5 ปีก็ค้นพบสูตรลับของความร่ำรวย กุญแจของมันอยู่ที่การทำนายตลาด แกนน์เปิดเผยว่า เทคนิคของเขาอยู่บนพื้นฐานของตัวเลข เรขาคณิตโบราณ และโหราศาสตร์ เขาทำนายเมื่อพฤศจิกายน 1928 ว่า ตลาดหุ้นขึ้นสูงสุด 3 กันยายน 1929 จากนั้น ตลาดจะพังทลาย คำทำนายของแกนน์เป็นจริงเมื่อตลาดเริ่มตกหนักวันที่ 24 ตุลาคม เขาทำเงินมหาศาลจากงานนี้ แกนน์ยังทำนายจุดต่ำสุดในปี 1932 และทำเงินได้มากมายอีกครั้ง

ไม่ใช่แค่ตลาดหุ้น แกนน์เทรดสินค้าโภคภัณฑ์ด้วย ปี 1935 เขาเทรดฝ้าย ข้าว และยาง 98 ครั้ง ได้กำไรถึง 83 ครั้ง แกนน์ชอบพนันม้าแข่งและล็อตเตอร์รี่ด้วย เมื่อตอนไม่มีทุน เขาสร้างชื่อเสียงด้วยการทำนายตลาด เมื่อมีทุนเพียงพอแล้ว เขาสร้างความร่ำรวยด้วยการเป็นเทรดเดอร์

คนจำนวนมากติดตามผลงานของแกนน์ แน่นอนใคร ๆ ก็อยากรวย แกนน์เขียนหนังสือไว้หลายเล่มที่บอกถึงเทคนิคของเขา เช่น Gann Angles, Square of 9, Circle of 360 ฯลฯ มันเข้าใจง่าย แต่ยากที่จะนำไปใช้งานจริง เป็นไปได้สูงที่แกนน์ปกปิดส่วนสำคัญที่สุดเอาไว้ สูตรลับที่สร้างความร่ำรวยมหาศาลเช่นนี้ ใครจะบอกกันง่าย ๆ คนที่รู้จริงย่อมเก็บไว้กับตัวเองเท่านั้น

สูตรลับความรวยไม่ใช่เพิ่งมีในยุคของแกนน์ โหราจารย์ในอดีตใช้โหราศาสตร์พยากรณ์ปรากฏการณ์ธรรมชาติ เช่น ปริมาณน้ำฝน พายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง โรคระบาด ฯลฯ และเภทภัยจากมนุษย์ เช่น สงคราม แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นไปทำนายราคาผลิตภัณฑ์เกษตร (Soft Commodity) เช่น ข้าว เนื้อสัตว์ ผ้าฝ้าย ฯลฯ หลายท่านเก็งกำไรเองจนมั่งคั่งร่ำรวย แต่ส่วนใหญ่ทำงานให้กับกษัตริย์ เจ้าศักดินา พ่อค้าใหญ่

เรื่องราวทำนองนี้มีมาตั้งแต่ยุคนีโอบาบิโลเนีย-เปอร์เซีย-กรีก-โรมัน องค์ความรู้ก็ถูกพัฒนาให้เฉพาะเจาะจงและถูกต้องแม่นยำยิ่งขึ้น เท่าที่ผู้เขียนทราบมา การทำนายตลาดมี 4 แนวทางสำคัญ ซึ่งแต่ละทางต่างก็มีจุดอ่อนจุดแข็งทั้งสิ้น

เทคนิคของแกนน์คือแนวทางแรก มันเป็นโหราศาสตร์เร้นลับ (Esoteric Astrology) ที่อยู่บนพื้นฐานของคณิตศาสตร์และเรขาคณิต ศาสตร์นี้มีรากเหง้าจากอียิปต์ พวกเขาใช้มันสร้างปิรามิด ความรู้ถูกสืบทอดต่อไปยังกรีกโรมัน ตัวอย่างสำคัญได้แก่ Golden Ratio และFibonacci Sequence

เพราะเป็นแนวเร้นลับ จุดอ่อนอยู่ที่การเรียนรู้และทำความเข้าใจ ตำรามีน้อยเพราะไม่ใช่กระแสหลัก ทั้งใจความสำคัญก็ถูกถ่ายทอดแบบมุขปาฐะ (ผู้สอนกับผู้เรียนด้วยวาจาเท่านั้น) มันจึงแทบสาบสูญไปแล้ว ปี 1875 มีการก่อตั้งสมาคมฯที่นิวยอร์ค แกนน์อาจเรียนรู้ศาสตร์นี้ในวัยหนุ่มขณะที่ทำงานในบริษัทโบรกเกอร์ที่นั่น มฤตยูที่กุมจันทร์และลัคน์สนิท ชี้ถึงพรสวรรค์ด้านโหราศาสตร์

แนวทางที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือทำนายจากพื้นดวงเดิมและดาวจร โหราจารย์ในอดีตไม่ใช้วิธีนี้ เพราะไม่มีใครทราบวันเวลากำเนิดที่แน่นอน แต่นักโหราศาสตร์ปัจจุบันชอบใช้ อาจเพราะข้อมูลสำคัญ ๆ ถูกบันทึก ตรวจสอบ และแพร่หลายไปทั่ว

ถ้าข้อมูลดวงกำเนิดถูกต้อง ความยากจะเหลือเพียงอย่างเดียว คือการทำนายอิทธิพลของดาวต่าง ๆ ที่กระทบในพื้นดวง แต่ดาวมีทั้งให้คุณและให้โทษ ขั้นตอนสำคัญที่สุดเป็นการผสมผสานอิทธิพลดาว เพื่อให้ได้ภาพที่แท้จริงเพียงภาพเดียว นั่นคือการเคลื่อนไหวของตลาด

ความถูกต้องแม่นยำของแนวทางนี้อยู่ที่ (1) ดาวจรที่ใช้ (2) ภพ / เรือนชะตา ปัญหาคือโหราศาสตร์แต่ละสายใช้ปัจจัยเหล่านี้แตกต่างกัน โหราศาสตร์ไทยมีข้อจำกัดเยอะสุด เพราะไม่ใช้เนปจูนพลูโต เรือนชะตาก็เป็นแบบเหมารวมราศี (Whole-sign Chart) โหราศาสตร์สากลแม้แบ่งเรือนชะตาชัดเจน แต่ก็ไม่ให้ความสำคัญกับราหูจรและคราส หลายคนใช้โหราศาสตร์ยูเรเนียนที่มี “ดาวทิพย์” เพิ่มอีก 8 ดวงเพื่อให้ได้ข้อมูลมากสุด อย่างไรก็ตาม มากไปก็ซับซ้อนและหาจุดตัดสินใจได้ยากขึ้นเช่นกัน

แต่เรื่องใหญ่ที่สุดกลับเป็นจักรราศี จักรราศีมี 2 ระบบ คือ คงที่ (Sidereal) ของไทยอินเดีย และเคลื่อนที่ (Tropical) ของสากลยูเรเนียน ปัจจุบันทั้งคู่ห่างกัน 24 องศา ดาวที่เข้มแข็งในระบบหนึ่ง อาจอ่อนแอในอีกระบบหนึ่ง (หรือกลับกัน) ผลคือการให้คุณให้โทษของดาวจะตรงข้ามกัน การทำนายย่อมมีโอกาสพลาดตามไปด้วย

ไม่ว่าโหราศาสตร์แนวทางไหน การทำนายตลาดเป็นสิ่งที่ทำได้แน่นอน การเก็งกำไรโภคภัณฑ์ในอดีต เราทำนายในกรอบเวลาที่ใหญ่ แต่การเทรดหุ้นปัจจุบันต้องมองกรอบเวลาที่แคบกว่า จึงต้องใช้ปัจจัยที่มากกว่าและละเอียดกว่าด้วย ซึ่งถ้าคำนวณโดยมนุษย์ จะกินเวลามากและมีโอกาสผิดพลาดได้

ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นักโหราศาสตร์ด้านการลงทุนจึงพัฒนาซอฟท์แวร์ทำนายตลาดหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ขึ้น ในอเมริกาก็มีหลายสำนัก บ้างก็ทำงานให้กับบริษัทการเงินขนาดใหญ่ บ้างก็จับกลุ่มลูกค้ารายย่อย ยังมีวิศวกรคอมพิวเตอร์ชาวอินเดียในซิลิกอนวัลเลย์ที่เขียนซอฟท์แวร์ให้กับเฮดจ์ฟันด์ ในเมืองไทย มีหลายกลุ่มที่ซุ่มพัฒนากันอยู่ ทั้งไทยสากลยูเรเนียน บางกลุ่มมาไกลเกินครึ่งทางแล้ว

ซอฟท์แวร์ AstroTech จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างและบริหารความมั่งคั่งให้กับกลุ่มธุรกิจและบุคคลทั้งหลาย

ภูมิปัญญากว่า 7,000 ปีของมนุษยชาติจะเปล่งประกายเรืองรองอีกครั้ง