'ออนไลน์ข้ามชาติ' ชิงดีมานด์ในประเทศ
การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เป้าหมายคือ ต้องการเพิ่มรายได้ของผู้คน
ให้กลับมาหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไทย ผลักดันการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) บนความคาดหวังที่ว่า เมื่อผู้คนมีฐานะดีขึ้น ย่อมต้องการ“ยกระดับ”คุณภาพชีวิต อาทิ ท่องเที่ยว เพิ่มการจับจ่ายใช้สอย ซึ่งผลประโยชน์จากธุรกรรมเหล่านี้มักจะตกอยู่กับผู้ประกอบการสินค้าในประเทศ เป็นหลัก
ทว่า สมมติฐานดังกล่าว เริ่มมี “ตัวแปรแทรก” กับการเกิดขึ้นของธุรกิจ “ออนไลน์ข้ามชาติ” ที่เข้ามาปั่นป่วนธุรกิจในประเทศ เพราะผู้บริโภคนั่งอยู่ที่บ้านก็สั่งซื้อสินค้าได้จากทั่วโลก กับการเกิดขึ้นของเว็บไซด์อีคอมเมิร์ซ แอพพลิเคชั่น เฟสบุ๊ค ขายสินค้าออนไลน์มากมายในไทย อาทิ เว็บไซด์อาลีบาบา ยักษ์ออนไลน์จากจีน ,ลาซาด้า ธุรกิจออนไลน์เครือข่ายใหญ่ในอาเซียน รวมถึงแอพขายสินค้าหลายสัญชาติ กำลังทำให้เหล่าผู้ประกอบการไทย ต้องกุมขมับ
เมื่อผู้บริโภคมีแนวโน้มจะหันมาสั่งซื้อสินค้าหน้าจอคอมพิวเตอร์ และสมาร์ทโฟน ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีสัดส่วนมากขึ้นในอนาคต เป็นไปตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี แทนการเดินไปหน้าร้านการค้า (ออฟไลน์) ในประเทศ
คู่แข่งของผู้ประกอบการไทย จึงไม่ได้นับหัวได้เฉพาะผู้ประกอบการในประเทศด้วยกันเองเท่านั้น แต่หมายถึงการเข้ารุมทึ้งดีมานด์ (ความต้องการ) ในประเทศ จากคู่แข่งขันทั่วโลก
สิ่งที่เห็นในขณะนี้คือการแก้เกม“โดด”เข้าสู่สังเวียนออนไลน์ ของผู้ประกอบการไทย เป็นไปเพื่อรักษาการเติบโตรายได้จากการขาย พร้อมกับการพลิกกลยุทธหน้าร้านการค้าเสริมประสบการณ์ใหม่ๆ จูงใจผู้บริโภคให้ออกมาจับจ่ายให้สอย
อาจกล่าวได้ว่า นอกจากยุคนี้จะเป็นยุคของการปฏิวัติเทคโนโลยี แล้ว ยังเป็นยุคของการ “ปฏิวัติรูปแบบการค้า” กับปฏิบัติการช้อปข้ามโลกเพียงปลายนิ้ว
หันมามองผลกระทบใน “ระดับประเทศ” สิ่งที่น่ากังวลคือ ภาวะเงินไหลออกนอกประเทศไปให้กับผู้ประกอบการต่างชาติ ซึ่งอาจมีสัดส่วนเพิ่มมากขึ้นต่อจากนี้ จากความง่ายในการเข้าถึงสินค้าและบริการ ดังนั้นเป้าหมายที่รัฐจะกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอาจยากขึ้น ในสถานการณ์การค้าเสรีที่ถูกขับเคลื่อนด้วยความไวของเทคโนโลยี
ขณะเดียวกัน ในแง่ของการ “จัดเก็บภาษี” จากผู้ประกอบการต่างชาติผ่านโลกออนไลน์ ยังเป็นประเด็นที่รัฐยังไม่ตกผลึกถึงวิธีการจัดเก็บภาษีที่เหมาะสม
ภาวะอยู่ยาก กับความง่าย จึงเกิดขึ้น !
แล้วทำอย่างไรให้ผู้บริโภคคนไทยบางส่วน หันกลับมาช้อปสินค้าไทย
คำตอบน่าจะขึ้นอยู่ที่ว่า “สินค้านั้นเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดหรือไม่?”
ตลาดในเวลานี้จึงเป็นของผู้บริโภค โดยแท้..!