4ผู้สมัครดีดี ผ่านคุณสมบัติ แค่'เกมส์โชว์'

 จากผู้สมัครเดิมที 9 คน ออกกลางคัน 1 คนเหลือ 8 คน ในจำนวน 4 คนที่ผ่านคุณสมบัติก็ดูเหมือน “กระท่อนกระแท่น” เหลือเกินบางคนมีปัญหาถูกเลิกจ้างจากที่เดิม บางคนก็สมัครไปทุกเวทีที่เปิดรับ บางคนก็ไม่ขอร่วมวงในการสัมภาษณ์ที่เกิดขึ้น

ฉะนั้นทั้ง 4 คนที่ผ่านคุณสมับติบอกได้เลย “ไม่ผ่าน” ที่จะเข้ามารับหน้าที่ดีดีการบินไทย การผ่านคุณสมบัติคงเป็นเพียง“พิธีกรรม”เท่านั้น เพราะอย่างไรเสียทั้ง 4 คนไม่ใช่ตัวเลือกที่แท้จริง เชื่อเถอะความจริงเดือนพ.ค.นี้ก็จะปรากฏ 

   วันนี้ทั้ง 4 คนดูเหมือนจะรู้ชะตากรรมว่า ยังไงคงไม่ได้รับเลือกเป็นดีดีการบินไทยในยุคนี้ จริงๆถ้าไม่มีใครเหมาะสมกับเก้าอี้ดีดีการบินไทย คณะกรรมการสรรหาก็ไม่สมควรที่จะทอดเวลาสร้างความหวังกับผู้สมัคร น่าที่จะล้มไปให้รู้แล้วรู้รอด การบินไทยไม่สมควรเป็นสนามทดสอบ หากไม่มีผู้ที่เหมาะสมกับองค์กรแห่งนี้ก็ควรจะล้มสรรหาไปเสียดีกว่า

การยื้อสรรหาดีดีเท่ากับเป็นการใช้รักษาการดีดีการบินไทยบริหารไปแค่นั้นหรือ จริงๆองค์กรแห่งนี้ทั้งฝ่ายบริหารและพนักงาน เขาคงอยากจะได้ตัวจริงเสียงจริง เข้ามาบริหารมากกว่า แต่สถานการณ์ตอนนี้กลับมี “มือที่มองไม่เห็น” เหนี่ยวรั้งเก้าอี้ตัวนี้ไว้เพื่อใคร? 

เฉกเช่นเดียวกับรักษาการดีดีการบินไทย อุษณีย์ แสงสิงแก้ว ตอนนี้กำลังโดนพายุพัดใส่หนัก บางจังหวะเวลาดูเหมือนจะถูกบีบกับการบริหารงานอยู่ไม่น้อยทีเดียว บางครั้งถึงขั้นมีผู้หวังดีแต่อาจจะประสงค์ร้ายหรืออย่างไรไม่ทราบ ถึงขั้นกระซิบกระซาบห่วงใยทำนอง“ไหวไหม..ไม่ไหวก็เปลี่ยนได้นะ” ดูเหมือนเป็นคำถามที่ถูกถามอยู่บ่อยครั้ง แบบนี้ไม่ต่างอะไรกับ“บีบให้ลาออก”สักเท่าไหร่

หลายคนคงไม่ปลื้มที่จะให้ อุษณีย์ แสงสิงแก้ว นั่งชูหน้าชูคอในการประชุม เพราะดูเหมือนเรื่องราว ที่เสนอเข้าที่ประชุมไม่ค่อยจะคล้อยตาม อย่างที่ใครอยากจะได้สักเท่าไหร่ 

แม้วาระของ อุษณีย์ แสงสิงแก้ว จะถูกวางไว้ 3 เดือน มีสิทธิ์ที่จะต่อหรือไม่ต่อรักษาการดีดีอีกก็เป็นได้ แต่ที่แน่ๆตอนนี้เริ่มมีเสียงเล็ดลอดออกมาทำนอง มีตัวสำรองที่จะขึ้นมารักษาการดีดีการบินไทยซะแล้ว หากการสรรหาดีดีไม่สำเร็จ

เขาคนนั้นก็คือผู้ที่ผ่านคุณสมบัติสมัครดีดีนั่นเอง