โอกาสกับอากาศ

โอกาสกับอากาศ

ผมอ่านหนังสือชื่อ ร็อก-ฐ-ศาสตร์ ของพี่นิคแห่งจีนี่เรคคอร์ดส สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือคำว่า “โอกาสกับอากาศ” พี่นิคเล่าว่า..

วันที่พี่เต๋อ เรวัต พุฒินันทน์ จากแกรมมี่ไป แกรมมี่ก็เลยต้องแยกค่ายออกมาเป็น“ค่ายเล็กๆ”เพื่อดูแลศิลปิน นักแต่งเพลง 

อัสนีแยกเป็น More Music ,พี่ดี้ นิติพงษ์ ห่อนาค เป็น Grammy Grand ,พี่เล็กเป็น Green Bean แต่ละคนก็ได้ศิลปินนักแต่งเพลงที่เคยทำงานกันอยู่ไปเป็นพื้นฐานของค่ายตัวเอง 

ส่วนพี่นิคเขาได้โอกาสในการทำค่ายเพลงของตัวเอง แต่สิ่งที่เขาไม่ได้จากโอกาสครั้งนั้น คือ “ไม่มีอะไรให้มาเป็นจุดเริ่มต้นเลย” ตั้งแต่ไม่มีนักร้องที่เคยประสบความสำเร็จมาก่อน ไม่มีนักแต่งเพลงในค่าย มีแต่ความว่างเปล่า

เขาเลยบอกว่า โอกาสก็เหมือนกับอากาศคือมีแค่ความว่างเปล่าที่ได้มา แต่ความว่างเปล่าที่ได้มานั้น ทำให้มีโอกาสที่จะหลุดออกจากกรอบเดิมๆ ได้มองหาสิ่งใหม่ๆสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการ แล้วพี่เขาก็สร้างไท ธนาวุฒิ บูโดกัน บอดี้สแลม และอื่นๆอีกมากมาย 

ประเด็นที่ผมอยากจะบอกคือ คนไทยวันนี้ยังมีโอกาสอีกมากมายในประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างประเทศเมียนมา ลาว กัมพูชา เวียดนามแต่ถ้าจะบอกว่า โอกาสในประเทศเหล่านี้ก็เหมือนความว่างเปล่าล่ะครับ เพราะถ้าเราทำธุรกิจในไทยความยากมันคงไม่เท่ากับที่เราต้องไปทำธุรกิจต่างบ้านต่างเมือง แต่โอกาสที่เขาจะเติบโตต่อนี่สิครับน่าสนใจ 

วันนี้คนเวียดนามเขาก็ยังมองว่าประเทศเขากับเราอยู่ติดกัน แต่ความเจริญทำไมห่างกันแบบนี้ เขายังมีมุมมองที่ดีๆกับสินค้าไทย น่าจะเป็นการออกแบบ Packaging การนำสินค้าเกษตรมาแปรรูปทำให้ได้มูลค่าเพิ่มด้วยวิธีการต่างๆ งานด้านการออกแบบ ความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยก็ยังเป็นสิ่งที่คนต่างชาติชื่นชมเสมอ 

ผมเองเพิ่งเป็นวิทยากรให้คนไทยที่สนใจไปลงทุนต่างประเทศ ซึ่งเป็นคนที่มาจากบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยเฉพาะ เงินทุนเพียบ ผมยังเน้นแล้วเน้นอีกเลยว่า วันนี้มาลงทุนในเมียนมาก็ถือว่าเริ่มช้าแล้วเพราะเราไม่ใช่ชาติเดียวที่เข้ามา แต่มากันทั้งโลกเพื่อที่จะมาแย่งชิงสาวสวยที่ชื่อเมียนมา

มีนักธุรกิจท่านหนึ่งถามผมว่า ในประเทศไทยเราควรทำธุรกิจอะไรดีที่จะทำเงินต่อไปได้ในอนาคต ผมตอบแบบเร็วๆว่า ธุรกิจสุขภาพ ธุรกิจท่องเที่ยว ธุรกิจการศึกษา และธุรกิจที่เกี่ยวกับพัฒนาบุคคลากร โดยเฉพาะอย่างหลังผมเชื่อว่าคนในภูมิภาคนี้มีความต้องการในการพัฒนาตัวเองเพื่อเพิ่มศักยภาพ และคนไทยน่าจะเป็นคนที่สามารถนำธุรกิจนี้เข้าไปสู่ภูมิภาคนี้ได้ไม่ยาก 

ผมเห็นสายตาของคนในภูมิภาคนี้เขาชื่นชมคนไทย ชื่นชมสิ่งที่เราทำกันอยู่ แต่เรากลับไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการทำมาหากินต่อยอดออกไปเท่าไหร่ เรามักจะพอใจกับความสำเร็จในบ้านเป็นหลัก ทั้งๆที่โอกาสมันรออยู่นอกบ้านเพียบเลย 

ผมเชื่อว่าตลาดใน CLMV (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) คือตลาดที่ยังเป็นโอกาสของคนไทยที่สามารถนำพาธุรกิจของเราขยายต่อออกไปได้ เราจะปล่อยให้โอกาสลอยไปกลายเป็นอากาศก็ได้นะครับ ทุกอย่างอยู่ที่ท่านตัดสินใจเอง 

วันนี้ท่านจะบุกไปในประเทศต่างๆคงแตกต่างจากพี่นิค ที่มีแค่โอกาสที่ว่างเปล่า แต่คุณมีทุกอย่างพร้อมความสำเร็จจากสิ่งที่คุณทำอยู่ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Know-how และเทคโนโลยี 

เรียกว่ามีทุกอย่างแล้ว อยู่ที่ใจของคุณเองว่าจะพร้อมที่จะไปบุกหรือไม่เท่านั้นเอง