เรียนโหรไปเล่นหุ้น (2)

เรียนโหรไปเล่นหุ้น (2)

กฎสำคัญที่สุดของความมั่งคั่งร่ำรวยคือ ถูกคน ถูกที่ ถูกเวลา ถูกคนคือคนนั้นมีดวงร่ำรวยหรือไม่ ถูกที่คือรวยจากอะไรและที่ไหน

 ถูกเวลาคือจังหวะในการเข้าและออกจากตลาด (Market Timing) จะเป็นมหาเศรษฐีต้องมีครบทั้ง 3 อย่าง

ดวงชะตาบุคคลคือจุดเริ่มต้นเสมอ ถ้าภพ 5 ไม่เข้มแข็ง โอกาสรวยจากตลาดหุ้นก็เป็นไปได้ยาก เจ้าของกิจการอย่างบิล เกตส์ นักลงทุนอย่างวอร์เรน บัฟเฟต์ ผู้จัดการกองทุนอย่างปีเตอร์ ลินช์ ราชาจั๊งค์บอนด์อย่างไมเคิล มิลเคนส์ สตาร์ทอัพอย่างปิแอร์ โอมิดยาร์แห่งอีเบย์ ฯลฯ พวกเขาทำเงินมหาศาลจากตลาดหุ้นด้วยวิธีที่ต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ภพ 5 ในดวงชะตาเข้มแข็งโดดเด่นมาก

ประเด็นต่อมาคือรวยจากอะไรและที่ไหน เรื่องนี้ถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้วในดวง มนุษย์เปลี่ยนแปลงไม่ได้ บิล เกตส์มีมฤตยูกุมลัคน์ เขาร่ำรวยจากเทคโนโลยีใหม่ วอร์เรน บัฟเฟต์มีเสาร์กุมลัคน์ เขาชอบธุรกิจที่จับต้องได้ง่าย ช้าแต่ชัวร์ และทุกคนต้องใช้ สถานที่ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ ปิแอร์ โอมิดยาร์มีเชื้อสายเลบานอน เกิดในปารีส-ฝรั่งเศส แต่ไปร่ำรวยที่นิวยอร์ค-อเมริกา ถ้าดูในดวงชะตา จะเห็นเงื่อนไขเหล่านี้อย่างชัดเจน

การเข้าและออกจากตลาดในจังหวะเวลาที่เหมาะสม คือสิ่งเดียวที่ไม่เกี่ยวกับดวง มันจึงเป็นสุดยอดความรู้ที่ทุกคนต้องการ ซื้อถูกขายแพงในตลาดขาขึ้น ขายแพงซื้อถูกในตลาดขาลง ขอเพียงได้รู้ ก็จะแสวงหาผลตอบแทนที่ดีได้ ไม่ว่ามีดวงหรือไม่ก็ตาม ยิ่งถ้าไม่มีดวง ยิ่งต้องการมากขึ้นไปอีก

Market Timing คือกุญแจสำคัญที่สุดในการสร้างผลตอบแทนที่สูงกว่า คอนเซ็ปต์ของมันก็เหมือนดั่งคำกล่าวของวอร์เรน บัฟเฟต์ที่ว่า “จงกลัวในเวลาที่ทุกคนกล้า จงกล้าในเวลาที่ทุกคนกลัว” จังหวะในการเข้าออกตลาดคือหัวใจของการวิเคราะห์ทางเทคนิค มันช่วยเติมเต็มการวิเคราะห์พื้นฐานให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ถ้าเป็นมิติเรื่องราวเกี่ยวกับเวลา โหราศาสตร์ให้คำตอบได้เสมอ เพราะกาลเวลาสัมพันธ์กับดวงดาว พฤหัสคือผู้ควบคุมปี อาทิตย์คือผู้ควบคุมเดือน จันทร์คือผู้ควบคุมวัน ดาวตรีเทพทั้ง 3 และดาวอื่น ๆ จะไขความลับของเหตุการณ์ต่าง ๆ บนโลก ดังนั้น ถ้าเราเข้าถึงแก่นแท้ของโหราศาสตร์ การค้นหาจังหวะเข้าออกตลาดย่อมเป็นสิ่งที่ทำได้อย่างแน่นอน

เพราะดวงดาวโคจรเป็นวัฏจักร มันจึงมีกำหนดเวลาชัดเจนตายตัว เมื่อผสมวัฏจักรของดาวเข้าด้วยกัน ก็จะได้แบบแผน (Pattern) อันหนึ่ง ถ้านำแบบแผนนี้ไปประกบกับพื้นดวงเดิม เช่น ดวงตลาด ดวงหุ้น เราสามารถมองเห็นจังหวะการเคลื่อนไหว-ขึ้นลง-ช้าเร็วของสิ่งนั้นได้ เมื่อมองเห็นแล้ว ย่อมรู้ถึงจังหวะเข้าออกตลาดได้อย่างถูกต้อง

กระบวนการวิเคราะห์ทำนายทางโหราศาสตร์ เริ่มต้นจากภาพใหญ่ไปหาภาพย่อยเสมอ (Top-down Analysis) อิทธิพลดาวใหญ่อย่างพฤหัส เสาร์ ราหู มฤตยู เนปจูน และพลูโต เปรียบเสมือนเข็มสั้นที่บอกชั่วโมง ดาวรอบในอย่างพุธ ศุกร์ และอังคาร เปรียบได้กับเข็มยาวที่บอกนาที ส่วนจันทร์ที่โคจรใกล้โลกที่สุด ก็คือเข็มวินาที การแปลความหมายและทำนายช่วงเวลาต่าง ๆ ต้องทำจากนอกเข้าหาใน จากใหญ่ไปหาเล็ก

จะทำนายตลาดหุ้น จึงต้องเริ่มจากภาพรวมเศรษฐกิจ ในอดีต วิเคราะห์เศรษฐกิจไทยอย่างเดียวก็พอ แต่ปัจจุบัน เศรษฐกิจโลกเชื่อมโยงถึงกันหมดและส่งผลกระทบไปทั่วอย่างรวดเร็ว เราต้องเริ่มที่เศรษฐกิจโลกและประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย เช่น อเมริกา จีน อียู ญี่ปุ่น ฯลฯ

เศรษฐกิจโลกทำนายอย่างไร ? ไม่มีใครรู้ดวงชะตาโลก โหราจารย์ในอดีตจึงกำหนดให้ราศีเมษเป็นลัคนาโลก ไม่ได้หมายความว่ามันอยู่ตรงนี้จริง ๆ แต่เมษคือจุดเริ่มต้นจักรราศี พลังงานที่ก่อให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ เกิดขึ้นที่นี่ ท่านจึงอนุมานว่าเป็นลัคนาโลก เมื่อมีดาวใหญ่จรในเมษ มักเกิดเหตุการณ์ใหญ่ มฤตยูเข้าเมษตั้งแต่ 8 เมษายน 2560 มฤตยูคือการเปลี่ยนแปลง พลังที่ผลักดันการเปลี่ยนแปลงระดับโลกจะเคลื่อนไหว เศรษฐกิจโลกย่อมเปลี่ยนตาม

วิธีที่ดีกว่าในการทำนายเศรษฐกิจโลกคือวัฏจักรดาว (Planetary Cycle) มีหลายวัฏจักรที่นิยมใช้กัน (แล้วแต่วัตถุประสงค์) เช่น 18, 20, 30, 45 ปี วัฏจักรที่ทรงอิทธิพลในปัจจุบันคือ ขาลงของวัฏจักรเสาร์มฤตยูที่ก่อให้เกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ปี 2551 และขาลงของวัฏจักรพฤหัสเนปจูนที่ก่อให้เกิด QE และกดดอกเบี้ยต่ำไปทั่วโลกในปี 2552

ภาวะเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจช่วยให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น นักโหราศาสตร์ต้องวิเคราะห์ดวงเมืองพวกเขาด้วย แต่ปัญหาอยู่ที่ดวงกำเนิด มหาอำนาจทั้งหลายมีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลายครั้ง ดวงเมืองอเมริกามีถึง 26 แบบ ครั้งไหนแบบไหนที่ถือเป็นดวงเมืองที่แท้จริง

ขั้นต่อไปคือวิเคราะห์ดวงเมืองไทย ดวงโลกและมหาอำนาจเราไม่รู้ แต่ดวงเมืองไทยรู้วันเวลาแน่นอน ขั้นตอนนี้จึงห้ามพลาด ดวงเมืองอาจไม่ชี้ถึงตลาดหุ้นตรง ๆ แต่บอกถึงผลกระทบทางอ้อม ปี 2560 – 2561 เสาร์จรเป็นเกณฑ์กับศุกร์เดิม ศุกร์คือดาวการเงิน เสาร์คือความขาดแคลน ฟันด์โฟลว์ไหลออก สภาพคล่องลดลง ตลาดหุ้นขาดเม็ดเงินใหม่ โอกาสขึ้นแรงไม่มี คงซึมและแกว่งในกรอบ

ดวงตลาดให้ข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่า ตลาดหุ้นไทยเปิดซื้อขายครั้งแรก 30 เมษายน 2518 ดัชนีขึ้นลงได้ไกลแค่ไหน ดวงตลาดบอกได้ สุดท้ายคือดวงหุ้น ดวงนี้บอกข้อมูลอันจำเป็นก่อนตัดสินใจซื้อขาย แต่มันก็มีปัญหาเดิม ๆ อันไหนคือดวงกำเนิดที่แท้จริง

ลองดูหุ้นปตท. (PTT) เป็นตัวอย่าง จอมพลสฤษดิ์ตั้งองค์การเชื้อเพลิง 27 มกราคม 2503 พ.ร.บ.การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยประกาศใช้ 29 ธันวาคม 2521 ปตท.แปรรูปเป็นบริษัทมหาชนเมื่อ 1 ตุลาคม 2544 ซื้อขายหุ้นครั้งแรกในตลาด 6 ธันวาคม 2544 ดวงกำเนิดคือวันไหน ?

วันเดียวที่รู้เวลาคือวันเข้าตลาด เราทดลองดวงนี้ ลัคน์อยู่ที่ 9:20 องศามังกร เนปจูนร่วมราศีที่ 12:46 องศา เนปจูนคือน้ำมัน เนปจูนกุมลัคน์สนิทและทำมุม 120 สนิทกับเนปจูนดวงเมือง ดวง PTT นี้ใช้ได้

รวยหุ้นด้วยโหราศาสตร์...ยากกว่าที่ทุกคนคิด