ชื่อหนังฮอลลีวู้ดเรื่องใหม่ : ฆาตกรรม ณ เทอร์มินัล 2?

ชื่อหนังฮอลลีวู้ดเรื่องใหม่ : ฆาตกรรม ณ เทอร์มินัล 2?

ภาพที่นิตยสารไทม์ตีพิมพ์ ในฉบับล่าสุดคือครอบครัวของ “คิมจองอิล”

 อดีตผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ พ่อของ คิมจองอึน” ที่กุมบังเหียนประเทศอยู่ปัจจุบัน

แต่เด็กที่นั่งอยู่ข้างๆ ในภาพไม่ใช่คิมจองอึน หากแต่เป็น พี่ชายต่างมารดา คิมจองนัม ...พ่อคนเดียวกันแต่คนละแม่

พาดหัวของบทความนี้ ฆาตกรรม ณ เทอร์มินัล 2”

เหยื่อก็คือ คิมจองนัม” คนนี้

และคนที่ถูกสงสัยว่าเป็นคนบงการให้ฆ่าก็คือ “คิมจองอึน”

กลายเป็นเรื่องราวที่ไม่ต่างจากหนังนักสืบ แผนซ้อนแผนอย่างล้ำลึกของฮอลลีวู้ดทีเดียว

น้องสั่งฆ่าพี่จริงหรือ?

ไม่มีใครมีคำตอบ ณ นาทีนี้ ตำรวจมาเลเซียชันสูตรศพแล้วบอกว่า

คนตายคือคิมจองนัมแน่

เขาตายด้วยยาพิษร้ายแรง VX nerve agent ซึ่งเป็น อาวุธเคมี ประเภทหนึ่งที่ผิดกฎหมายระหว่างประเทศ

ผู้หญิงสองคนที่ร่วมกันกระทำการครั้งนี้มีความเกี่ยวโยงกับเกาหลีเหนือแน่นอน

ยังมีชาวเกาหลีเหนืออีก 3 คนที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าเกี่ยวกับการสังหารครั้งนี้ และยังหลบอยู่ในสถานทูตเกาหลีเหนือ

ทางการเกาหลีเหนือปฏิเสธความเกี่ยวพันกับการตายของคิมจองนัม บอกว่าเขาตายด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน ไม่เกี่ยวกับสารพิษใดๆ

ปริศนาที่ยังค้างคาอยู่มีหลายประเด็น และอาจจะนำไปสู่ความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศอย่างน่ากลัว

สิ่งที่ไม่เคยปรากฏให้เห็นก็เกิดขึ้นแล้ว

มาเลเซียขับไล่เอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือออกนอกประเทศ เพราะพูดจาก้าวร้าว กล่าวหารัฐบาลมาเลเซียอย่าสมรู้ร่วมคิดกับเกาหลีใต้ในการใส่ร้ายป้ายสีเปียงยาง

เกาหลีเหนือตอบโต้ด้วยการไล่ทูตมาเลเซียประจำเปียงยาง

ว่าแล้วก็ห้ามคนมาเลเซียออกจากเกาหลีเหนือ

มาเลเซียโต้ด้วยการห้ามคนเกาหลีเหนือออกจากมาเลเซียเช่นกัน

มาตรการ ตาต่อตา ฟันต่อฟัน ทางการทูตระหว่างประเทศอย่างนี้ไม่เคยมีมาก่อน

มาเลเซียกล่าวหาว่าการทำเช่นนั้นเท่ากับว่าเกาหลีเหนือกำลัง จับคนมาเลเซียเป็นตัวประกัน ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

เรื่องนี้จะมีทางลงอย่างไร?

สหประชาชาติยังไม่ได้เสนอตัวเป็นคนกลางที่จะไกล่เกลี่ย เพราะทั้งสองประเทศยังไม่ได้เอาเรื่องนี้เข้าสู่องค์กรโลก

เดิมผมเชื่อว่าจีนคงจะเล่นบทคนกลาง หาทางออกทางการทูตให้ทั้งสองประเทศ เพื่อไม่ให้กลายเป็นเรื่องที่ต่างฝ่ายต่างหาบันไดลงไม่ได้

แต่รัฐมนตรีต่างประเทศจีนไปเล่นเรื่องใหญ่กว่าคือเรียกร้องให้สหรัฐกับเกาหลีเหนือถอยคนละก้าวเพื่อไม่ให้เกิดวิกฤตที่หนักหน่วงขึ้น

นั่นคือให้เกาหลีเหนือหยุดการทดลองขีปนาวุธและนิวเคลียร์ และให้สหรัฐยุติการซ้อมรบทางทะเลกับเกาหลีใต้

นั่นคือการระงับการยั่วยุต่อกัน

รัฐมนตรีหวางอี้ของจีนเปรียบเทียบเหตุการณ์วันนี้ เหมือนรถไฟสองคันวิ่งเข้าหากันด้วยความเร็วสูงซึ่งเป็นอันตรายมาก เพราะอาจจะชนกันสนั่นหวั่นไหว

หากชนกันโครมจริง ผลเสียหายที่ตามมาจะไม่จำกัดแค่สองประเทศนี้เท่านั้น หากแต่ยังจะกระทบทั้งโลกได้

เรื่องเกาหลีเหนือกับมาเลเซียก็กลายเป็นวิกฤตซ้อนวิกฤต ในเวทีการเมืองระหว่างประเทศ ที่สร้างความหวาดเสียวให้กับผู้พบเห็นอย่างยิ่ง

คดีฆาตกรรมที่ Terminal 2 ณ สนามบินนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ จึงเป็นปริศนาสลับซับซ้อนไม่แพ้กรณีเครื่องบินเที่ยวบิน MH370 ของสายการบินมาเลเซียที่ถึงวันนี้ก็ยังไร้ร่องรอย

อาถรรพ์มาเลเซียนี่หนักหนาจริง!