SET index ปรับตัว พักฐานในระยะสั้น

SET index ปรับตัว พักฐานในระยะสั้น

SET index ปรับตัว พักฐานในระยะสั้น

ดัชนีตลาดหุ้นไทยเดือนที่ผ่านมาปรับตัวในกรอบแคบ และมีการพักฐานระยะสั้น จากการที่ตลาดยังคงมี Upside ที่จำกัดประกอบกับมีความเสี่ยงจากต่างประเทศในระยะกลาง 

ทั้งนี้สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวทำจุดสูงสุดต่อเนื่องติดต่อกัน 10 วันทำการ พร้อมด้วยแรงหนุนจากมุมมองเศรษฐกิจ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง และนโยบายทางเศรษฐกิจของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มมีความชัดเจนในเชิงบวก เช่น นโยบายการลดภาษีภาคธุรกิจ เป็นต้น 

สำหรับปัจจัยในประเทศ ยังคงมุ่งไปที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเป็นสำคัญ โดยการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจที่ล่าสุดนั้น นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มีมุมมองว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 3-4% และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปี 2559 ภาพรวมเศรษฐกิจไทยขยายตัว 3.2% ตามลำดับ

ขณะที่ เฟด ยังคงยืนยัน ท่าทีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปต่อไป

หลังจากที่ล่าสุด FOMC Minutes ของการประชุมธนาคารกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 2560 เป็นไปในทิศทางที่สอดคล้องกับมุมมองของนาง Yellen ประธาน เฟด เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งหลักๆ แล้วยังคงเป็นมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นภาคการจ้างงานที่แข็งแกร่ง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคกับเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง 

อีกทั้งคณะกรรมการเฟด ยังคงประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐ จะขยายตัวแบบ “moderate pace”

เมื่อภาพรวมเศรษฐกิจดีขึ้นแล้ว คณะกรรมการเฟด ยังคงยืนยันท่าทีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแบบค่อยเป็นค่อยไปต่อไป เนื่องจากเฟด ยังมีความเห็นว่า ต้องการประเมินความชัดเจน และผลกระทบของนโยบาย Fiscal Stimulus ของรัฐบาลชุดใหม่ที่มีต่อเศรษฐกิจ การจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อ โดยไม่มีการส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งหน้าอย่างชัดเจน 

อย่างไรก็ตาม เฟด ยังระบุอีกว่า อาจมีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายแบบ “fairly soon” เป็นคำสำคัญ โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป จะส่งผลกระทบต่อตลาดทุน ดังนั้นคงต้องเป็นเรื่องที่ติดตามกันต่อในอนาคต

ส่วนโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) กับทิศทางฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชน ท่านรองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยล่าสุดว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอมาตรการภาษี ซึ่งเป็นมาตรการจูงใจให้กับบริษัทไทยและต่างประเทศ ที่เข้ามาลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งกระทรวงคลังอยู่ระหว่างเตรียมการ และคาดเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ในสัปดาห์หน้า 

ทั้งนี้กระทรวงอุตสาหกรรม เตรียมเสนอแพ็คเกจที่จะส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curve) ซึ่งจะช่วยให้ไทยสามารถมีศักยภาพการแข่งขันเพิ่มขึ้นได้

การใช้มาตรการส่งเสริมและจูงใจให้เอกชนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor (EEC) ดังกล่าวมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดการฟื้นตัวด้าน การลงทุนของภาคเอกชน ที่ยังไม่ค่อยฟื้นตัวในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงทำให้เกิด S-Curve ใหม่ที่จะเป็นปัจจัยบวกต่อการเติบโตของ GDP ในประเทศระยะยาวนั้นเอง

สำหรับ แนวโน้ม SET index ยังคงมีมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง สืบเนื่องจากครั้งก่อน ราคายังอยู่เหนือเส้นแนวรับ Uptrend ได้ อย่างไรก็ตาม การที่ดัชนีปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง และภาพของกลุ่มที่นำดัชนีเริ่มมีการชะลอตัว อีกทั้งการประกาศงบการเงินของบริษัทจดทะเบียนที่สามารถ Deliver ผลประกอบการรายปีได้ตามเป้าหมายตลาด ก็ทำให้เกิดภาวะ Sell on fact กันออกมาต่อเนื่อง 

ทั้งนี้ ระยะสั้น เรามองว่า SET index น่าจะมีการปรับตัวเพื่อพักฐานในระยะสั้นต่อไปเนื่องจาก Upside ที่มีจำกัดและยังคงมีความเสี่ยงจากต่างประเทศต่อเนื่อง ระยะสั้นกรอบ SET index คาดน่าจะอยู่ที่แนวต้านหลัก 1,575 จุด และ 1,590 จุดแนวรับระยะสั้น 1,555 จุดและแนวรับหลัก 1,535 จุดตามลำดับ หาก SET index หลุดเทรนด์ไลน์ที่สามารถรับมาได้ต่อเนื่อง จะแสดงถึงสัญญาณเชิงลบในระยะกลางออกมาได้เช่นเดียวกันครับ