สภาพคล่อง

ย่อมมองไม่เห็นอะไร ปัจจัยภายนอกจะบวกแค่ไหน ก็ไม่มีผลต่อคนที่ไม่พร้อม แต่สำหรับคนที่พร้อม การมองเห็นอนาคตได้กระจ่างและกว้างไกลกว่า คือความได้เปรียบที่ตัดสินชี้ขาดผลแพ้ชนะ

ปี 2560 เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่ มีมิติเรื่องราวมากมายที่พลิกผันไป หนึ่งในเรื่องที่ทำนายยากสุดคือกระแสการเงินโลก นโยบายของทรัมป์และ Brexit ไม่เพียงก่อให้เกิดความไม่แน่นอนสูง แต่ที่น่ากลัวยิ่งกว่าคือสงครามการค้าและค่าเงิน เพราะศาสตร์ปัจจุบันมีข้อจำกัดเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่มีในตำรา โหราศาสตร์อาจนำทางเราไปสู่คำตอบ

ในภาพใหญ่ วัฏจักรพฤหัสเนปจูนคือผู้ควบคุมปริมาณเงิน พฤหัสคือความมั่งคั่ง เนปจูนคือภาพลวงตา พฤหัสหมายถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจ เนปจูนหมายถึงเงินเฟ้อ ยามใดทั้งคู่ทำมุมท้าทาย (Hard Aspect) กัน ปริมาณเงินในระบบจะเพิ่ม (หรือลด) อย่างมีนัยสำคัญ ทิศทางดอกเบี้ยถูกกำหนดจากปริมาณเงิน ดังนั้น มันจึงเป็นผู้กำหนดทิศทางดอกเบี้ยด้วย

วัฏจักรพฤหัสเนปจูนกินเวลา 13 ปี รอบปัจจุบันเริ่ม 28 พ.ค.2552 สูงสุดที่ 17 ก.ย.2558 แต่พฤหัสสิงห์เนปจูนกุมภ์ยังเล็งราศีกันอยู่ จนวันที่ 11 ส.ค.2559 เมื่อพฤหัสยกเข้ากันย์ วัฏจักรจึงเป็นขาลงอย่างแท้จริง การอัดฉีดเงินยุติ วงจรดอกเบี้ยกลับเป็นขาขึ้น สิ่งที่ตามมาคือ เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25 % ในวันที่ 14 ธ.ค.2559 และประกาศเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปอีก 2 – 3 ปี

เมื่อวิเคราะห์ดวงชะตาเฟด การขึ้นดอกเบี้ยเป็นสิ่งที่เลี่ยงได้ยาก ลัคนาเฟดอยู่เมถุน ทศมลัคน์อยู่มีน พฤหัสคือดาวเจ้าเรือนทศมลัคน์ พฤหัสเดิมอยู่ที่ 1 องศามังกรในภพ 8 งานเฟดเกี่ยวข้องกับการบริหารเงินและค่าเงินของตน (เทียบกับชาติอื่น) เมื่อมฤตยูเข้าเมษและทำมุม 90 กับพฤหัสเดิม มฤตยูคือการเปลี่ยนแปลง งานเดิมจะถูกเปลี่ยน เฟดจะกลับทิศดอกเบี้ย มฤตยูยกเข้าเมษ 8 เมษายน 2560 จังหวะขึ้นดอกเบี้ยเริ่มต้นแถวนั้น

เสาร์ธนูยังทำมุม 150 กับเนปจูนเดิมในภพ 2 ความมั่งคั่งปลอม ๆ ถูกท้าทาย เสาร์คือความจริง เฟดถูกกดดันให้ดำเนินนโยบายที่สอดคล้องกับความเป็นจริง QE รอบใหม่คงเกิดยาก การขึ้นดอกเบี้ยคือหนทางหลักที่ควรเป็น

ภาพใหญ่ระดับโลกชี้ชัดถึงวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น แนวโน้มนี้ยากจะเปลี่ยนแปลง คำถามคือมันจะส่งผลกระทบต่อไทยอย่างไร ? โชคดีที่ดวงเมืองไทยให้คำตอบเราได้ ปัจจัยสำคัญที่สุดก็คือเสาร์

เสาร์ยกออกจากพิจิก 26 ม.ค.2560 พิจิกคือภพที่ 8 (มรณะ) ซึ่งเกี่ยวข้องกับความสูญเสีย ภัยพิบัติ ฯลฯ เมื่อเสาร์ยก เศรษฐกิจจะฟื้นตัวดีขึ้น แต่เสาร์เข้าธนูได้ไม่ไกล วันที่ 6 เม.ย. เสาร์วิกลคติพักร (หยุดนิ่งเพื่อถอยหลัง) ที่ 3:42 องศาธนู เสาร์จะถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนกลับเข้าพิจิก 21 มิ.ย. เสาร์วิกลคติเสริด (หยุดนิ่งเพื่อเดินหน้า) 25 ส.ค. ที่ 27:5 องศาพิจิก จากนั้น เสาร์เดินหน้าเข้าธนูอย่างแท้จริง 26 ต.ค. และเริ่มวงรอบที่ 9 เมื่อจรถึง 10:18 องศาในวันที่ 28 มกราคม 2561

ธนูคือบ้านเดิมของเสาร์ เมื่อเสาร์เข้าธนูถือเป็นการครบวงรอบเดิมและเริ่มต้นวงรอบ 30 ปีใหม่อีกครั้ง ธนูคือภพ 9 ซึ่งเกี่ยวข้องกับต่างประเทศ เสาร์ทับเสาร์เดิมเมื่อเริ่มวงรอบใหม่ ชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงใหญ่จากปัจจัยต่างประเทศ เสาร์คือดาวเจ้าเรือนภพ 10 และ 11 ภพ 10 หมายถึงภาครัฐ ภพ 11 คือภพ 2 ของภพ 10 จึงหมายถึงการเงินการคลังของภาครัฐ แปลความได้ว่า ช่วงเสาร์จรธนู การเงินการคลังของรัฐบาลจะสัมพันธ์และได้รับผลกระทบอย่างมากจากปัจจัยภายนอก เช่น ฟันด์โฟลว์ที่เข้าซื้อพันธบัตรภาครัฐ เม็ดเงินลงทุนทางตรง (FDI) ฯลฯ

ผลกระทบเป็นลบหรือบวก ? ในราศีธนูยังมีพฤหัสเดิม พฤหัสคือการขยายตัว เสาร์ทับพฤหัสเดิม เม็ดเงินลดลง เศรษฐกิจโตยาก แต่พฤหัสเดิมเป็นเกษตร์-เข้มแข็ง ดังนั้น แม้ถูกกดดันมาก แต่เศรษฐกิจยังคงเติบโต แต่จะโตได้น้อย ไม่ว่ารัฐบาลอัดฉีดเงินมากแค่ไหนก็ตาม

จุดสำคัญคือเสาร์ธนูทำมุม 90 กับศุกร์เดิมในราศีมีน ศุกร์คือดาวเจ้าเรือนภพ 2 ศุกร์จึงหมายถึงการเงินโดยรวมของประเทศ ซึ่งครอบคลุมทั้งภาครัฐ เอกชน และครัวเรือนทั้งหมด ศุกร์เดิมอยู่มีน เป็นอุจจ์เข้มแข็ง เศรษฐกิจการเงินของไทยจัดว่าดีทีเดียว แต่ศุกร์ตกภพ 12 (วินาศ) ร่วมราศีกับพุธนิจจ์และราหู มันรั่วไหลไปกับการคอร์รัปชั่นและระบบเศรษฐกิจใต้ดิน เช่น หวย บ่อน ฯลฯ

ศุกร์คือเม็ดเงินที่ไหลเวียนในระบบเศรษฐกิจทั้งหมด เสาร์คือการจำกัด ความขาดแคลน ฯลฯ มุม 90 บอกถึงปัญหาอุปสรรค ผลคือสภาพคล่องตึงตัวและดอกเบี้ยปรับขึ้น สิ่งที่ตามมาคือการผิดนัดชำระหนี้ของภาคธุรกิจ (โดยเฉพาะ SME) หนี้ NPL ของสถาบันการเงินจะเพิ่มขึ้น หนี้ภาคครัวเรือนจะรุนแรงขึ้นไปอีกและส่งผลให้การบริโภคภาคครัวเรือนทรุดหนัก

ศุกร์เดิมอยู่ที่ 3:31 องศามีน เดือนธ.ค.2559 เสาร์จรปลายพิจิก เข้ามุม 90 กับศุกร์ จึงเกิดกรณีผิดนัดชำระหนี้ตั๋วบีอี แม้เม็ดเงินไม่มาก แต่ก็ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น ต้นกุมภาพันธ์ 2560 เสาร์เข้าธนู เกิดประเด็นเงินคงคลังรัฐบาลอีก นี่ไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นสัญญาณเตือน ถ้าประมาทอิทธิพลดวงดาว เมื่อเภทภัยของจริงมาถึง จะตั้งรับแก้ไขกันไม่ทันกาล

ปัญหาสภาพคล่องในดวงเมืองไทยสอดคล้องกับวงจรดอกเบี้ยขาขึ้นในระดับโลกอย่างมาก นี่คือความมหัศจรรย์ของโหราศาสตร์ นับจากนี้จนสิ้นปี 2560 เสาร์จรทำมุม 90 กับศุกร์เดิมตลอด (Orb 5 องศา) เป็นช่วงที่ต้องเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ให้ดี โดยเฉพาะช่วง 6 ก.พ.-9 มิ.ย.ที่พฤหัสถอยหลังในราศีกันย์ และตั้งแต่ 4 มี.ค. – 15 เม.ย.ที่ศุกร์ถอยหลังในราศีมีน

ไม่ใช่แค่เสาร์ แต่สุริยคราส (สรรพคราส) 22 ส.ค.ที่ 4:47 องศาสิงห์ ก็ทำมุม 150 กับศุกร์เดิมสนิทด้วย คราสนี้มีอิทธิพล 2 ปี ปัญหาสภาพคล่องจะอยู่กับเราประมาณนี้

ทุกท่านโปรดเตรียมตัว