ผลของการใช้ความจริงทางเลือก

ผลของการใช้ความจริงทางเลือก

หลังจากเสร็จพิธีสาบานตนเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของอเมริกา นายโดนัลด์ ทรัมป์

ออกมาโวยวายทันทีว่าสื่อบิดเบือนความจริงในการเสนอข่าว ก่อนนั้น สื่อต่างๆ รายงานว่าประชาชนที่ไปชุมนุมเป็นพยานในงานพิธีสาบานตนของเขามีจำนวนต่ำกว่าเมื่อครั้งที่นายบารัค โอบามา สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเดียวกันเมื่อ 8 ปีก่อน สื่อนำภาพถ่ายจากที่สูงมาเปรียบเทียบกันเพื่อยืนยันว่าข้อสรุปนั้นถูกต้อง แต่นายทรัมป์แย้งว่าไม่จริง เขาแน่ใจว่าพีธีสาบานตนของเขามีชาวอเมริกันเข้าร่วมชุมนุมเป็นพยานมากกว่าของนายโอบามา หลังจากเขาพูดเช่นนั้น ที่ปรึกษาคนสำคัญของเขาออกมายืนยันว่าเขาพูดความจริงเพราะมีหลักฐานอ้างอิงอันเป็น ความจริงทางเลือก” (Alternative Facts)

นั่นเป็นการใช้ความจริงทางเลือกแก้ต่างอย่างเปิดเผยในวงกว้างเป็นครั้งแรกและถูกวิจารณ์เชิงประณามอย่างแพร่หลาย ค่ายของนายทรัมป์ใช้หลักคิดชนิดนี้มาตั้งแต่ในระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งเนื่องจากข้ออ้างจำนวนมากของเขาขาดหลักฐานยืนยัน ชาวอเมริกันเกือบ 63 ล้านคนคงเชื่อเขา จึงเทคะแนนเสียงให้ แต่ในตอนนั้นเป็นการหาเสียงซึ่งเขายังไม่มีอำนาจแบบล้นฟ้าอันเนื่องมาจากการเป็นประธานาธิบดีของประเทศอภิมหาอำนาจ ในช่วงเวลาเพียงไม่ถึง 4 สัปดาห์ที่เขาเข้ารั้งตำแหน่ง การค้นคว้าหาข้อมูลของสื่อสำนักต่างๆ พบบ่อยครั้งว่านายทรัมป์และพรรคพวกยังนิยมใช้ความจริงทางเลือก หรือการพูดที่ไม่มีข้อมูลสนับสนุนอย่างหนักแน่นและในบางกรณีมีการโกหกตรงๆ ด้วยเหตุนี้ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของเขาจึงต้องลาออกไปหลังดำรงตำแหน่งได้เพียง 3 สัปดาห์ ที่ปรึกษาคนนั้นถูกจับได้ว่าโกหกเรื่องไปพูดจาและให้คำมั่นสัญญาอะไรสักอย่างกับรัสเซียก่อนนายทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่ง

แม้การนิยมใช้ความจริงทางเลือกจะถูกนำออกมาตีแผ่ แต่ชาวอเมริกันที่เทคะแนนให้นายทรัมป์ดูจะยังนิยมเขา ทั้งนี้คงเพราะยังไม่ตระหนักว่าผลร้ายจะเกิดขึ้นอย่างไร รวมทั้งผลร้ายที่จะเกิดกับตนเอง ตัวอย่างหนึ่งมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลคะแนนเสียงเลือกตั้ง ซึ่งพบว่าชาวอเมริกันที่เทคะแนนให้นายทรัมป์ มักอาศัยอยู่ในชนบทกับเมืองขนาดเล็ก และมีการศึกษาต่ำกว่าชาวอเมริกันโดยทั่วไป เนื่องจากพวกเขาเข้าไม่ถึงผลการวิจัย หรือไม่ก็เลือกเชื่อความจริงทางเลือกของนายทรัมป์ จึงไม่ตระหนักว่าการยกเลิกข้อตกลงการค้าเสรีกับประเทศต่างๆ นั้น จะมีผลกระทบต่อพวกเขามากว่าต่อชาวอเมริกันที่อยู่ในเมืองขนาดใหญ่ ที่เป็นเช่นนั้นเพราะชุมชนในชนบทและเมืองขนาดเล็ก มักผลิตสินค้าส่งออกเพียงชนิดสองชนิดเท่านั้น ต่างกับผู้ที่อยู่ในเมืองขนาดใหญ่ซึ่งมักผลิตหลายชนิด เมื่อการค้าเสรีถูกยกเลิก ชุมชนในชนบท หรือเมืองขนาดเล็กส่งออกสินค้าชนิดสองชนิดของตนไม่ได้ย่อมไม่มีอะไรมาทดแทน ต่างกับเมืองขนาดใหญ่ที่มีสินค้าหลายชนิด เมื่อชนิดสองชนิดส่งออกไม่ได้ก็ยังมีอย่างอื่นทดแทน

การนิยมใช้ความจริงทางเลือกนี้จะมีที่มาจากแนวการทำธุรกิจของนายทรัมป์เอง หรือจากหลักการโฆษณาชวนเชื่อที่อะดอล์ฟ ฮิตเลอร์ใช้นักวิเคราะห์เห็นไม่ตรงกัน บางคนสรุปว่านักการเมืองในอเมริกาใช้มานานรวมทั้งเมื่อตอนก่อนการส่งกองทัพเข้าไปบุกอิรัค ตอนนั้นประธานาธิบดีจอร์ช บุชอ้างว่าซัดดัม ฮุสเซน มีอาวุธนิวเคลียร์ นั่นเป็นการโกหกที่มีผลเสียหายร้ายแรงมาจนถึงปัจจุบัน บางคนมองว่านายทรัมป์กำลังใช้หลักประชานิยม กล่าวคือ พูดในสิ่งที่เขามองว่าชาวอเมริกันอยากได้ยินแม้เขาจะรู้แก่ใจว่าสิ่งนั้นไม่เป็นความจริง

การใช้ความจริงทางเลือกมีอยู่ในเมืองไทยเช่นกัน จะเห็นว่าจากวันที่เริ่มนำนโยบายประชานิยมเข้ามาใช้ มีการกระซิบบอกชาวบ้านว่ากองทุนหมู่บ้านกองละ 1 ล้านบาทนั้นเป็นเงินของหัวหน้ารัฐบาลซึ่งมีฐานะเป็นมหาเศรษฐี มีการบอกชาวบ้านแบบหน้าตาเฉยว่าการเป็นหนี้จะทำให้ร่ำรวย มีการย้ำว่านโยบายของรัฐบาลวางอยู่บนฐานของเศรษฐกิจพอเพียง และถ่านหินที่จะใช้ในโรงไฟฟ้าไทยไม่มีความสกปรก

นักวิเคราะห์บางคนมองต่อไปว่า การใช้ความจริงทางเลือกดังกล่าวนั้นจะนำไปสู่ความเป็นเผด็จการมากขึ้น แน่ละ เรื่องนี้ไทยเดินออกหน้าอเมริกาไปนานแล้ว