Spending Habits

สวัสดีครับสมาชิกและผู้อ่านกรุงเทพธุรกิจ วันนี้ผมขอนำเรื่องราวจากรายงานข่าวเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา ซึ่งสำนักข่าว ซินหัว ได้มีการวิเคราะห์ข้อมูลจาก UnionPay ผู้ให้บริการชำระเงินรายใหญ่ที่สุดของจีนว่า ในช่วง 7 วันของเทศกาลตรุษจีนปีระกานี้ ผู้บริโภคชาวจีนใช้จ่ายเงินสูงถึง 462 พันล้านหยวน หรือประมาณ 67.3 พันล้านดอลลาร์ คิดเป็นอัตราที่เพิ่มขึ้นสูงถึง 48.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 

โดยผู้ถือบัตร UnionPay ได้ทำรายการรวม 343 ล้านครั้ง รายงานข่าวชิ้นนี้ยังวิเคราะห์มาให้ด้วยว่า ผู้บริโภคชาวจีนใช้เงินส่วนใหญ่ไปกับการกินดื่ม (dining) จับจ่ายซื้อของ (shopping) เดินทาง (transport) และท่องเที่ยว (travel) โดยเฉพาะการใช้จ่ายด้านการเดินทางและท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น 33.7% และ 29.1% ตามลำดับ 

ตรุษจีนคือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน การใช้จ่ายที่สูงขึ้นในช่วงดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องปกติ และเป็นในแนวโน้มเดียวกันกับการเฉลิมฉลองเทศกาลสำคัญอื่นๆ เช่น คริสต์มาส และปีใหม่สากล จะเห็นได้ว่า การวางแผนสำหรับการใช้จ่ายจึงเป็นเรื่องสำคัญในการป้องกันใม่ให้เกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินที่อาจตามมาและยังช่วยให้เราสามารถใช้จ่ายในช่วงเทศกาลอย่างไม่ต้องกังวลมากนัก วันนี้ผมเลยอยากพูดเรื่องการสร้างวินัยในการใช้จ่าย หรือ Spending Habits ที่ทำไม่ยาก และยังจะช่วยให้เราไปถึงเป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น ท่านสามารถเริ่มต้นได้เลยครับ 

ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย การจดบันทึกรายรับรายจ่ายประจำวัน เป็นพื้นฐานของการสร้างวินัยการใช้จ่ายและการวางแผนทางการเงิน บัญชีที่ว่านี้ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องสลับซับซ้อน เพียงแต่จดรายรับรายจ่ายลงในสมุดเปล่าๆ ก็ใช้ได้แล้ว หรือที่ง่ายกว่านั้น ในปัจจุบันมีแอพพลิเคชั่นทางการเงินหลายๆ ตัวที่ช่วยให้เราบันทึกรายรับรายจ่ายได้อย่างสะดวก ประโยชน์ของการจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย คือเมื่อถึงสิ้นเดือนเราจะเห็นภาพรวมของรายรับเปรียบเทียบกับรายจ่ายและเห็นว่าเราใช้เงินในด้านไหนมากเกินไปหรือไม่ ทำให้สามารถปรับการใช้จ่ายให้เหมาะสมขึ้นในเดือนถัดไป 

วิเคราะห์ผลสรุปการใช้จ่ายแต่ละปี  สำหรับท่านที่มีบัตรเครดิต ทุกสิ้นปีธนาคารผู้ให้บริการบัตรเครดิตจะทำการสรุปยอดการใช้จ่ายในแต่ละปีจัดส่งให้กับผู้ถือบัตร โดยจะมีผลการวิเคราะห์การใช้จ่ายแยกให้ชัดเจนเป็นหมวดหมู่ ทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการเดินทาง อาหาร รวมทั้งยังมีตัวเลข เปอร์เซ็นต์สัดส่วนของแต่ละหมวดไว้ด้วย ซึ่งผลวิเคราะห์การใช้เงินจ่ายผ่านบัตรเครดิตนี้ จะช่วยให้เราสามารถปรับปรุงวินัยในการใช้จ่ายให้ดีขึ้น โดยเฉพาะในประเภทที่ไม่จำเป็น 

เลือกใช้จ่ายเงินหรือชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ แทนเงินสด ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต e-wallet e-money เพราะการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จะมีการบันทึกการทำรายการไว้ ทำให้สามารถตรวจสอบได้ง่าย อีกทั้งการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต มีวงเงินที่ควบคุมยอดการใช้จ่ายไว้ในระดับหนึ่ง 

พกเงินสดเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันการใช้จ่ายที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้า เช่น เมื่อไปเที่ยวตามตลาดนัดที่มีสินค้าวางจำหน่ายยั่วยวนให้ควักเงินซื้อมากมาย การมีเงินติดตัวเพียงแต่พอดีจะเป็นเครื่องมือป้องกันไม่ให้เราจ่ายเงินซื้อของโดยไม่จำเป็น

กำหนดวงเงินที่จะใช้ ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ หรือรายเดือน เช่น อาจจะตั้งจำนวนเงินค่าใช้จ่ายประจำวันซึ่งรวมค่าอาหาร ค่าเดินทาง หากใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นเพราะอดใจไม่ได้ ค่าใช้จ่ายของวันหรือสัปดาห์นั้นก็จะเกินวงเงินที่ตั้งไว้

ออมก่อนใช้ ออมก่อนใช้เป็นการเปลี่ยนนิสัยจากการใช้มาเป็นการออม ซึ่งเป็นพื้นฐานการวางแผนทางการเงิน เมื่อออมก่อนใช้ทุกเดือนก็เป็นไปได้ว่าจะเห็นยอดเงินในบัญชีเงินฝากเพิ่มขึ้นทุกเดือนเช่นกัน ซึ่งจะทำให้เรามีกำลังใจที่จะออมไปอย่างต่อเนื่อง 

เห็นมั้ยครับว่าวินัยการใช้จ่ายที่ดีสร้างได้ไม่ยากและเป็นเรื่องที่อยู่รอบตัวเราทั้งสิ้น คำถามก็คือจะทำอย่างไรที่จะรักษาวินัยการใช้จ่ายให้ยั่งยืน คำตอบอยู่ที่ทำทุกข้อบนทางสายกลางครับ ไม่ตึงไป ไม่หย่อนไป เราก็สามารถมีวินัยทางการเงินและมีความสุขไปด้วยครับ

Good Spending ครับ