คราส 2560

งานของนักโหราศาสตร์คือการทำนายอนาคต ก่อนทำนาย ต้องรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเสียก่อน

ข้อมูลหลักมี 2 ส่วน คือ ดวงกำเนิด (Natal Chart / Horoscope) และดาวจร (Transit) หากข้อมูลไม่สมบูรณ์ครบถ้วน ความถูกต้องแม่นยำย่อมลดลง

ดวงกำเนิดไม่เปลี่ยน แต่ดาวจรเปลี่ยนตลอดเวลา ข้อมูลดาวจรจึงเป็นกุญแจสำคัญในการทำนาย ข้อมูลดาวจรที่นำมาใช้ก็มีมากมาย เช่น ดาวยกข้ามราศี ดาวถอยหลัง (เมื่อมองจากโลก) ดาวทำมุมซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะดาวใหญ่ เช่น พฤหัส เสาร์ มฤตยู

แต่ข้อมูลสำคัญที่สุดคือคราส คราสเป็นเรื่องใหญ่ของโหราจารย์ในอดีต ท่านมักใช้เป็นเครื่องตัดสินชี้ขาดในการพยากรณ์ คัมภีร์โบราณที่บันทึกวิธีพยากรณ์คราสก็มีหลายเล่ม เช่น Tetrabiblos เล่ม 3 (ราว ค.ศ. 200) ของคลาวดิอุส ปโตเลมี โหราจารย์ใหญ่ชาวกรีก ฯลฯ คราสเป็นมรดกทางปัญญาที่สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน คราสอาทิตย์และคราสจันทร์คือข้อมูลสำคัญยิ่งในการทำนายอนาคตที่นักโหราศาสตร์ไม่อาจปฏิเสธได้

วันที่ 11 มี.ค.2554 เวลาท้องถิ่น 14:46 น. เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลที่ความลึก 29 กิโลเมตร นอกชายฝั่งตะวันออกของคาบสมุทรโอชิกะ ใกล้ๆ เมืองเซนไดของญี่ปุ่น แผ่นดินไหวนาน 6 นาทีและมีขนาด 9.1 ริกเตอร์ นับเป็นแผ่นดินไหวแรงที่สุดในญี่ปุ่นและแรงเป็นอันดับ 4 ของโลก ทั้งยังก่อให้เกิดคลื่นซึนามิที่สูงสุดถึง 40.5 เมตร เหตุการณ์นี้มีผู้เสียชีวิต 15,894 ราย บาดเจ็บ 6,152 ราย และสูญหาย 2,562 คน คลื่นซึนามิยังทำลายโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟูกูชิมะอีกด้วย

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดจากอะไร ในวันเกิดเหตุ พฤหัส-เสาร์-มฤตยู-ราหู-พลูโตเข้ารูป T-square ในราศีกันย์-ธนู-มีน ดาวใหญ่ทั้ง 5 ทำมุมร้ายขนาดนี้ มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดพิบัติภัยธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ นี่อาจเป็นคำตอบ แต่เดี๋ยวก่อน ทั้ง 5 เข้ารูปตั้งแต่ 2 พ.ค.2553-3 พ.ค.2554 รวมเวลา 1 ปี คำถามคือทำไมเกิดแผ่นดินไหววันที่ 11 มี.ค.2554 ? ทำไมไม่เกิดวันอื่น ?

นักโหราศาสตร์ที่ดีควรละเอียดรอบคอบและมีฐานความรู้ที่ลึกซึ้ง เราไม่ควรพอใจคำทำนายหยาบ ๆ เช่น มฤตยูทับลัคน์ ดวงเมืองแย่ไป 7 ปี ทำนายเช่นนี้รังแต่สร้างความหวาดกลัวแก่ผู้คน ทำให้โหราศาสตร์เป็นที่ดูหมิ่นดูแคลน ดวงดาวไม่ได้มีแค่มฤตยู เป็นไปไม่ได้ที่บ้านเมืองย่ำแย่ไปตลอด 7 ปี ถ้ามันจะส่งผลเสียจริง ก็ต้องเป็นช่วงเวลา โหราจารย์ที่แท้จริงควรจำกัดช่วงเวลาได้ เดือนไหน สัปดาห์ไหน หรือวันไหน ? เพื่อให้ผู้คนระมัดระวังตัว ไม่ใช่ตีขรุมเหวี่ยงแหไป 7 ปีอย่างที่เห็นกันมากมายในปัจจุบัน

สาเหตุที่แท้จริงของแผ่นดินไหวคือจันทรคราส (สรรพคราส) 21 ธ.ค.2553 เวลา 17:16 น. ที่ 5:4 องศาเมถุน จันทรคราสนี้มีความสำคัญหลายประการ คือ (1) เป็นคราสเต็มดวง (2) คราสเห็นได้ (บางส่วน) ในญี่ปุ่น (3) คราสเกิดในวันเหมายัน (Winter Solstice) (4) จุดคราสทำมุม 180 กับพุธราหูสนิท ทำมุม 90 กับพฤหัสมฤตยูสนิท และเล็งพลูโต (Orb 5 องศา)

โดยปกติ จันทรคราสมีอิทธิพล 1 ปี และมีกำลังแรงสุดในหน้า 7 หลัง 7 วัน ดังนั้น โอกาสเกิดภัยธรรมชาติใหญ่จึงถูกตีกรอบเหลือ 14 ธ.ค.2553 – 3 พ.ค.2554 แค่ 4 เดือนครึ่ง ในช่วงเวลานี้ มีปรากฏการณ์สำคัญคือ มฤตยูดับพร้อมจันทร์เพ็ญ 20 มี.ค. เวลา 3:10 น. ที่ 4:46 องศากันย์ จุดดับของมฤตยูทำมุม 90 กับจุดคราส จันทร์เพ็ญมีกำลังแรงภายในหน้าหลัง 15 วัน โอกาสเกิดถูกบีบแคบลงอีก เหลือแค่ 5 มี.ค. – 5 เม.ย.เท่านั้น

วันที่ 11 มี.ค. พุธกุมมฤตยู ทั้งคู่ทำมุม 90 สนิทกับราหู ขณะที่พฤหัสเสาร์พลูโตเข้ามุม 90 และ 180 กัน มฤตยูทำมุม 90 กับจุดคราสสนิท กระตุ้นพลังงานจันทรคราสขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อพลังงานของคราสและ T-square ถูกปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน แผ่นดินไหวและซึนามิที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งของโลกจึงเกิดขึ้นวันนั้น

ปี 2559 เกิดคราสขึ้น 4 ครั้ง เมื่อรวมเข้ากับ T-square ของเสาร์ราหูเนปจูน จึงเกิดเรื่องร้าย ๆ มากมายที่เปรียบได้ดั่ง Perfect Storm ปีนี้ 2560 เกิดคราส 4 ครั้งเช่นกัน ได้แก่ (1) จันทรคราส (เงามัว) 11 ก.พ.2560 เวลา 7:34 น. ที่ 28:23 องศากรกฎ (2) สุริยคราส (วงแหวน) 26 ก.พ.2560 เวลา 21:59 น. ที่ 14:6 องศากุมภ์ (3) จันทรคราส (บางส่วน) 8 สิงหาคม 2560 เวลา 1:11 น. ที่ 21:19 องศามังกร (4) สุริยคราส (สรรพคราส) 22 สิงหาคม 2560 เวลา 1:31 น. ที่ 4:47 องศาสิงห์

จันทรคราส 11 ก.พ.ได้มุม 60 จากพฤหัสกันย์และมุม 120 จากมฤตยูมีน คราสนี้ให้ผลดีมากกว่าเสีย จุดคราสอยู่ในภพ 4 ทำมุม 90 กับลัคนาดวงเมืองไทย (Orb 5 องศา) และทำมุม 90 กับจุด Super Full Moon เมื่อ 14 พ.ย.2559 ภายใน 1 เดือนหลังคราส จะมีเรื่องดีๆ เกิดขึ้นในบ้านเมือง

สุริยคราส 26 ก.พ.ให้ผลร้าย จุดคราสกุมเนปจูนสนิทและทับภพ 11 ของดวงเมืองพอดี เนปจูนคือความสับสนคลุมเครือ ภพ 11 หมายถึงความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ที่ประชุมสภา ฯลฯ ความไม่ชัดเจนหรือความเข้าใจผิดในเรื่องเหล่านี้จะก่อให้เกิดปัญหา จุดคราสยังเล็งภพ 5 ภพ 5 คือตลาดหุ้น ดัชนีตลาดจะเคลื่อนไหวผิดปกติในช่วง 1 เดือนหลังคราส

จันทรคราส 8 ส.ค.ส่งผลมากต่อดวงเมืองไทย คราสเกิดในภพ 10 ซึ่งหมายถึงการเมือง จุดคราสได้มุม 60 จากพฤหัส แต่ถูกเนปจูนพลูโตบีบหน้าหลัง จุดคราสยังเล็งอังคาร กลายเป็นอังคารดับร่วมคราส จันทรคราสนี้ให้ผลร้ายมากกว่าดี จุดคราสทำมุม 90 กับลัคนาดวงเมือง อังคารดับเล็งทศมลัคน์และพลูโตเดิมสนิท การเมืองตึงเครียด จันทรคราสและอังคารดับยังทำมุม 90 กับลัคนาดวงประธานาธิบดีคนที่ 45 ของอเมริกาด้วย มันชี้ถึงปัญหาอุปสรรคใหญ่หลวงทางการเมืองของทรัมป์

แต่ที่สำคัญสุดคือสุริยคราส (เต็มดวง) 22 ส.ค.จุดคราสทำมุม 90 กับทศมลัคน์นายกฯและทับอาทิตย์เดิมในดวงนายกฯคนที่ 29 ของไทย เกิดปัญหาใหญ่ในทางการเมือง สุริยคราสนี้ยังทับลัคนาทรัมป์ ยืนยันถึงเคราะห์กรรมใหญ่ของเขา คราสเล็งจันทร์เดิมในดวงเมืองอเมริกา จันทร์คือประชาชน เกิดการลุกฮือของภาคประชาชน

ปี 2560 ยังคงเป็นปีที่ท้าทายสำหรับทุกคน