เมกะโปรเจคเอกชน..เสริมทัพ

เมกะโปรเจคเอกชน..เสริมทัพ

ภาวะเศรษฐกิจปี 2560 จะเป็นอย่างไร แนวโน้มการเติบโตจะเกิดขึ้นเพียงใด

 เป็นคำถามที่ติดค้างในใจหลายคน ขณะที่คำตอบที่ได้รับนั้นแตกต่างกันตามมุมมองว่าจะให้น้ำหนักด้านใดเป็นสำคัญ เพราะในขณะที่บางคนคาดหวังว่าธุรกิจน่าจะฟื้นตัว ภาวะเศรษฐกิจน่าจะเติบโตได้ตามเป้าหมาย ก็มีอีกหลายคนที่มองต่าง สะท้อนภาพปัจจัยลบที่อาจเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญ ฉุดเศรษฐกิจให้เดินได้ช้าหรือแทบนิ่งอยู่กับที่ หรือพูดได้ว่ามุมมองต่อเศรษฐกิจว่าบวกหรือลบ ขึ้นอยู่กับปัจจัยที่แตกต่างไปในรายเซคเตอร์

โครงการลงทุนของภาครัฐ โดยเฉพาะเมกะโปรเจค โครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลอนุมัติต่อเนื่องมาหลายโครงการ เช่น โครงการก่อสร้างระบบขนส่งมวลชนเส้นทางต่างๆ ที่ประกาศเดินหน้า มีการลงนามสัญญา ความร่วมมือ และจัดหาผู้รับเหมาก่อสร้างกันไปแล้วหลายโครงการ มูลค่านับล้านล้านบาท ที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้เกิดขึ้น เพื่อเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ นับเป็นตัวแปรสำคัญต่อการฟื้นเศรษฐกิจ 

หากย้อนกลับไปดูแผนพัฒนาโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การให้เอกชนร่วมลงทุนในการกิจการของรัฐ พ.. 2558-2562 (Project Pipeline) จะเห็นว่ามีโครงการลงทุนที่อยู่ใน Project Pipeline ทั้งสิ้น 66 โครงการ วงเงินลงทุนรวม 1,662,876.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86,347.27 ล้านบาท (วงเงินลงทุนเดิม 1,576,529.27 ล้านบาท) ภายใต้แผนการลงทุนดังกล่าว มีโครงการลงทุนที่มีวงเงินเกิน 1,000 ล้านบาท ประมาณ 12 โครงการ คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุน 720,000 ล้านบาท ซึ่งมีการนำเสนอโครงการให้ที่ประชุมคณะกรรมการ PPP พิจารณาได้ในปีนี้

เมกะโปรเจคของภาครัฐเดินหน้ามาระดับหนึ่ง ความคาดหวังต่อเม็ดเงินที่จะกระจายเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ คาดว่าจะเริ่มเห็นผลชัดเจนในราวกลางปี 2560 เมื่อแต่ละโครงการเริ่มเดินหน้าการพัฒนาหลังผ่านขั้นตอนอนุมัติแผนต่างๆ มาตามระบบอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนก็มีบทบาทไม่น้อย ในการสร้างความตื่นตัวและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ผ่านโครงการลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ของผู้ประกอบการเอกชน ซึ่งปีนี้ก็มีสัญญาณการลงทุนต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่ประกาศเดินหน้าขยายธุรกิจและลงทุน รองรับควาเติบโตของตลาด เช่นกรณีล่าสุดกลุ่มเซ็นทรัล ของตระกูลจิราธิวัฒน์ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจเอกชน ที่ขยายการลงทุนต่อเนื่อง ในธุรกิจค้าปลีกและอสังหาริมทรัพย์ โดยล่าสุด “กลุ่มเซ็นทรัล” ได้ประกาศความสนใจทุกทำเลทอง เดินหน้าประมูลที่ดินแปลงสวย “สถานทูตอังกฤษ” ที่นำพื้นที่อีกแปลงที่เหลือออกมาประมูลรอบใหม่ เรียกความสนใจจากนักลงทุนเอกชนได้ไม่น้อย

กลุ่มเซ็นทรัล หวังจะปั้นเมกะโปรเจค เป็นโครงการแบบมิกซ์ยูสหรือพื้นที่ใช้สอยหลากหลาย ซึ่งหากได้ประมูลที่ดินแปลงใหม่นี้มา จะต่อยอดให้เซ็นทรัลเป็นกลุ่มเอกชนที่ลงทุนขนาดใหญ่ที่สุด ในการเชื่อมอาณาจักรชิดลม-เอ็มบาสซี อาณาจักรเดิมที่สร้างบนที่ดินสถานทูตอังกฤษแปลงแรก ที่ประมูลไปเมื่อหลายปีก่อน

เอกชนขนาดใหญ่เดินหน้าลงทุน ย่อมมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจไม่น้อย เมื่อเอกชนลงทุนควบคู่กับการลงทุนของภาครัฐ ความคึกคักของเศรษฐกิจก็จะกลับคืนมา อยากให้เศรษฐกิจประเทศเดินหน้า ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีกำลังทุนจะต้องร่วมแรงร่วมใจเดินหน้าลงทุนสร้างความคึกคักให้ตลาด สร้างโอกาสการสะพัดของเม็ดเงินในระบบ กำลังซื้อก็จะค่อยๆ ฟื้นกลับมา