แนวคิดการทำงานของ 'โดนัลด์ ทรัมป์'
แนวคิดการทำงานของ 'โดนัลด์ ทรัมป์'
สัปดาห์ที่แล้วเขียนถึงชีวิตของประธานาธิบดีทรัมป์มีผู้สนใจมากเกินความคาดหมายและอยากทราบต่อถึงแนวการทำงาน (ธุรกิจ) และแนวคิดเรื่องการเงินของเขาจึงเป็นที่มาของตอนต่อในสัปดาห์นี้ค่ะ (ขอใช้สรรพนามก่อนรับตำแหน่งเป็น“เขา”และหลังรับตำแหน่งเป็น“ท่าน”เพื่อไม่ให้ขัดกับข้อเท็จจริง)
เริ่มจากแนวคิดในเรื่องการเงินก่อนแม้ว่าเขาจะมีฐานะดีและท่านผู้อ่านอาจจะเห็นภาพอพาร์ตเมนต์ของเขาที่มีจำนวนห้องนอนมากมายเครื่องใช้ไม้สอยจานชามที่เป็นทองคำมูลค่าสูงๆแต่เขามีความเป็นอยู่แบบนี้เมื่อมีเงินเหลือเฟือเกินกว่าที่จะใช้ได้หมดในชีวิตนี้ก่อนหน้านั้นเขา(เล่าทำนองว่า) เขาก็ใช้ชีวิตวัยเด็กเหมือนคนธรรมดาคนอื่นๆที่มีฐานะค่อนข้างดี
แนวคิดในเรื่องการสอนลูกของเขาถูกใจดิฉันมากทีเดียวค่ะ ทรัมป์แนะนำว่าต้องสอนลูกให้รู้จักคุณค่าของเงินโดยเขาสอนลูกผ่านการทำให้ดูเป็นตัวอย่างด้วยการทำงานหนักประหยัดค่าใช้จ่ายในสิ่งที่ไม่จำเป็นเขาพอใจเมื่อสามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษได้ไม่ว่าจะเป็นสินค้าชิ้นใหญ่เช่นตึกหรือชิ้นเล็กเช่นข้าวของเครื่องใช้ครีมโกนหนวด
ทรัมป์บอกว่าพ่อแม่เขาทำตัวเป็นตัวอย่างให้เห็นการประหยัดมัธยัสถ์ความมุ่งมั่นและมีวินัยอยู่สบายแต่เรียบง่ายไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเงินไม่ได้หามาได้ง่ายๆและเราควรใช้จ่ายอย่างมีสติแต่พ่อแม่ของเขาให้ความสำคัญกับโรงเรียนและการศึกษามากเขาจึงได้รับการศึกษาในโรงเรียนดีๆ
ในการเลี้ยงลูกโดนัลด์ทรัมป์จะให้ลูกมีงบใช้จ่ายส่วนตัวและต้องดำเนินชีวิตภายในวงเงินที่กำหนดทุกคนมีบัตรเครดิตแต่จำกัดวงเงินเพราะต้องการให้มีบัตรเครดิตเพื่อเอาไว้ใช้ในยามฉุกเฉินมากกว่าและเพื่อให้ลูกรู้จักค่าของเงินช่วงปิดเทอมเขาก็ให้ลูกชายทำงานหารายได้พิเศษ
เป็นสิ่งสำคัญมากที่จะให้เด็กได้รู้ถึงค่าของเงินยิ่งมีเงินมากยิ่งต้องให้เขารู้จักมากเพราะหากเขาไม่รู้จักใช้เงินต่อให้มีเงินมากมายเพียงใดก็อาจจะหมดไปได้ดังนั้นรากฐานเกี่ยวกับค่าของเงินการใช้เงินการประหยัดรู้คุณค่าของสิ่งของต่างๆจึงเป็นเรื่องที่ต้องปลูกฝังตั้งแต่เด็กค่ะเมื่อรู้แล้วเขาจะได้สามารถวางแผนและแนวทางการดำรงชีวิตของเขาได้เพื่อไม่ให้เกิดการล้มเหลวหรือเกิดโศกนาฏกรรมในภายหลัง
ปรัชญาการลงทุนของเขาคล้ายกับที่ดิฉันเคยเขียนเอาไว้ในบทความตั้งแต่ปี 2548 เขาแนะนำว่าจงลงทุนในสิ่งที่ตัวเองเข้าใจเป็นอย่างดีกับคนที่สามารถไว้เนื้อเชื่อใจได้ลงทุนอย่างง่ายๆใช้สามัญสำนึกและสัญชาตญาณและบางครั้งการลงทุนที่ดีที่สุดคือการที่ไม่ได้ลงทุนนั่นเอง
นี่เป็นเรื่องที่ถูกต้องที่สุดไม่มีใครควรจะต้องลงทุนในทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้รับการเสนอมาให้ลงทุนการเลือกไม่ลงทุนก็เป็นการตัดสินใจลงทุนอย่างหนึ่งคือตัดสินใจว่าจะนำเงินก้อนนั้นไปไว้ในที่ที่ปลอดภัยหมายถึงมูลค่าไม่เสื่อมสลายแม้ผลตอบแทนอาจจะน้อยนิดเพื่อลดความเสี่ยงโดยรวมของการลงทุนค่ะ
ประโยคหนึ่งในหนังสือของเขาสะดุดใจดิฉันมากทำให้พอคลายความกังวลเกี่ยวกับนโยบายแปลกๆของเขาในการเสียงไปเปลาะหนึ่งคือ“หัดให้ตนเองมีความยืดหยุ่นบ้างเป็นเรื่องปกติที่คุณจะเปลี่ยนแนวความคิดและเริ่มทำสิ่งที่แตกต่างออกไปตราบใดก็ตามที่คุณไม่ได้รับปากผูกมัดตนเองไว้กับฝ่ายตรงข้าม”
นี่ย่อมแสดงว่าสิ่งที่เขาพูดในการหาเสียงและการกล่าวสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอาจไม่ได้ถูกนำมาดำเนินการทุกเรื่องเพราะการหาเสียงเป็นเพียงการรับปากอย่างหลวมๆ มิฉะนั้นโลกต้องวุ่นวายแน่ๆหากเขาทำตามทุกอย่างที่ได้เคยหาเสียงไว้
ส่วนตัวดิฉันมองว่าสื่อและตลาดเงินตลาดทุนมุ่งให้ความสนใจกับคำพูดของท่านมากไปหน่อยต้องอย่าลืมว่าโดยพื้นฐานท่านเป็นนักธุรกิจหากท่านใช้เทคนิคเดียวกับที่ใช้ในการเจรจาต่อรองในการทำธุรกิจท่านก็จะพูดไปสุดโต่งก่อนแล้วจึงเจรจาต่อรองจนมาจบตรงที่“ให้แน่ใจว่าได้ประโยชน์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย”ท่านเขียนเอาไว้เองว่า“บ่อยครั้งที่การดื้อดันยืนกรานนับว่ามีประโยชน์”
ดิฉันเชื่อว่าในขณะนี้ท่านประธานาธิบดีกำลังอยู่ในระยะทดสอบว่าในบางตำแหน่งเพียงคำพูดว่าจะทำก็ส่งผลแล้วยังไม่จำเป็นต้องลงมือทำด้วยซ้ำไป ดังเช่นที่ท่านได้ทำให้ฟอร์ดมอเตอร์ยกเลิกแผนสร้างโรงงานประกอบรถยนค์มูลค่า1,600 ล้านเหรียญในเม็กซิโก้และหันมาสร้างโรงงานในสหรัฐอเมริกาแทนและทำให้โรงงานประกอบรถยนต์หลายค่ายในสหรัฐหันมาศึกษาดูว่าจากที่เคยย้ายไปสั่งชิ้นส่วนประกอบรถยนต์จากจีนเมื่อ3-4 ปีที่ผ่านมาอาจจะต้องทบทวนหันกลับมาสั่งชิ้นส่วนจากโรงงานในสหรัฐอเมริกาเหมือนเดิม
และหวังว่าท่านจะค่อยๆลดการพูดทุกสิ่งที่มีอยู่ในใจออกมาเมื่อท่านอยู่ในตำแหน่งที่ทรงอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงตำแหน่งนี้ค่ะ
ขอต้อนรับปีระกาตามปฏิทินจีนและขออวยพรให้ทุกท่านมีความสุขมีโชคดีมีสุขภาพแข็งแรงมีเงินใช้สอยไม่ขาดมือและอย่าลืมเก็บออมและลงทุนด้วยนะคะเพื่อความมั่นคงในชีวิตของท่าน