ทำดีมีรางวัล

ทำดีมีรางวัล

หลายมาตรการภาษี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐในช่วงที่ผ่านมา จะสังเกตุได้ว่า

 เป็นมาตรการที่ออกมากระตุ้นให้ประชาชน หรือผู้ประกอบการ เข้าสู่ระบบการชำระภาษีอย่างถูกต้อง เท่ากับว่า มาตรการที่ออกมาถือเป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกถึงสองตัว

ยกตัวอย่าง การออกมาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย จำนวนหลายครั้งหรือที่เรียกว่า มาตรการช้อปช่วยชาติ มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ต่ออายุมาแล้วอย่างน้อยหนึ่งครั้ง รวมถึง มาตรการภาษีเพื่อนำธุรกิจเอสเอ็มอี เข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้องผ่านโครงการจัดทำบัญชีเล่มเดียว

สำหรับมาตรการภาษีช้อปช่วยชาติ จะกำหนดให้ประชาชนนำรายจ่ายที่เกิดขึ้นในการช้อปปิ้ง จากร้านค้าที่เข้าสู่ระบบภาษีมาลดหย่อนภาษีได้เท่านั้น ทำให้ร้านค้าที่ไม่เข้าสู่ระบบภาษีไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ เป็นการส่งสัญญาณว่า ผู้ที่อยู่ในระบบภาษีเท่านั้น ที่สมควรได้รับประโยชน์จากมาตรการของรัฐ

เช่นเดียวกับ มาตรการภาษีเพื่อกระตุ้นท่องเที่ยว ผู้ใช้สิทธิ์จะต้องไปใช้บริการตามที่กรมสรรพากรกำหนด กล่าวคือ จะต้องเป็นผู้ให้บริการที่ชำระภาษีอย่างถูกต้องแล้ว

ด้านมาตรการภาษีเพื่อจูงใจให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีอย่างถูกต้อง ผ่านโครงการบัญชีเล่มเดียว โครงการนี้ ประโยชน์ที่ได้จะตกอยู่กับกรมสรรพากรและผู้เสียภาษี โดยกรมสรรพากร จะมีฐานภาษีที่กว้างและเป็นธรรมกับผู้เสียภาษีเดิม ส่วนผู้เสียภาษีนั้น นอกจากจะได้รับลดหย่อนภาษีและกฎกติกาต่างๆจำนวนมาก การทำบัญชีอย่างถูกต้อง จะช่วยให้วิเคราะห์ธุรกิจและวางแผนการดำเนินธุรกิจได้อย่างแม่นยำ

แนวมาตรการดังกล่าว เป็นการส่งสัญญาณให้หน่วยงานเกี่ยวข้องดำเนินโครงการที่สนับสนุนกัน ล่าสุด เอสเอ็มอีแบงก์ จัดทำโครงการ SMART SMEs บัญชีเดียว วงเงิน 1 หมื่นล้านบาทเพื่อสนับสนุนนโยบายของกรมสรรพากร ที่ต้องการให้ผู้ประกอบการ ร้านค้าทอง,ร้านแว่นตา,ธุรกิจท่องเที่ยว หรือธุรกิจอื่นตามที่กำหนด ที่มาจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลและใช้บัญชีเล่มเดียว

โดยคิดดอกเบี้ยปีแรกเพียง 5% และปีที่สองเป็นต้นไป คิด MLR , ส่วนเอสเอ็มอีที่เป็นนิติบุคคลในธุรกิจอื่นๆ เช่น ค้าปลีก หรือการผลิตต่างๆ ก็สามารถขอใช้สินเชื่อในโครงการนี้ได้ ในอัตราดอกเบี้ย 5.99% ทั้งนี้ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุดของโครงการนี้อยู่ที่ 10 ปี และมีระยะเวลาปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 12 เดือน

เมื่อปีที่แล้ว เอสเอ็มอีแบงก์ ได้ออกสินเชื่อพิเศษ สำหรับเอสเอ็มอีที่เข้าโครงการบัญชีเล่มเดียว วงเงิน 3 หมื่นล้านบาท วงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 5 ปี ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 5 ปี ซึ่งจนถึง 23 ม.ค.นี้ อนุมัติปล่อยกู้แล้ว 1.41 หมื่นล้านบาท คิดเป็นจำนวนราย 6.37 พันราย วงเงินที่เหลือคาดว่าภายในสามเดือนข้างหน้าจะสามารถอนุมัติได้หมด