ชุดออกกำลังกายในอินเดียมาแรง...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่

ทั้งคนหนุ่มสาวและคนสูงวัย เพราะตอนนี้ทุกคนมองเห็นความสำคัญของการออกกำลังกายกันแล้วว่า ทำให้ร่างกายแข็งแรง ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ และมีอายุยืนยาวขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา คนอินเดียส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยได้ใส่ใจกับการออกกำลังกายมากนัก เลยถูกโรคภัยคุกคามทำให้อายุไม่ค่อยยืนเท่าที่ควร 

ซึ่งนอกจากเรื่องขาดการออกกำลังกายแล้ว ก็จะเป็นสาเหตุมาจากเรื่องสุขอนามัย และพฤติกรรมการรับประทานอาหารของคนอินเดีย ที่นิยมรับประทานอาหารค่ำค่อนข้างดึกนั่นเอง ซึ่งจากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกในปี 2015 ระบุว่าอายุขัยเฉลี่ยของคนอินเดียอยู่ที่ 68.3 ปีเท่านั้น เทียบกับคนไทยที่อยู่ในระดับที่สูงกว่าที่ 74.9 ปี แต่ถ้าเทียบกับปี 1990 ก็ถือว่าอินเดียมีการพัฒนาที่ดีมาก เพราะในขณะนั้นอายุขัยเฉลี่ยของคนอินเดียอยู่ที่ 58 ปีเท่านั้น

ในเมืองใหญ่ๆ อย่างมุมไบ ประชาชนมักจะออกจากบ้านมาออกกำลังกายกันทั้งในช่วงเช้าตรู่ และช่วงเย็นถึงค่ำบริเวณริมทะเลอาระเบียน ย่าน Marine Drive ด้วยการวิ่งและการเดิน โดยจะเห็นผู้คนที่มาออกกำลังกายแต่งกายหลากหลายเป็นอย่างมาก ซึ่งถ้าเป็นผู้ชายก็มักจะสวมใส่ชุดออกกำลังกายตามปกติ แต่ถ้าเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีอายุก็มักจะแต่งชุดส่าหรีหรือชุดพื้นเมืองที่เรียกว่า ซัลวา กามีซ (เสื้อยาวคลุมกางเกงขาพอง) แต่สวมรองเท้ากีฬามาเดินออกกำลังกัน ซึ่งสำหรับเราซึ่งเป็นคนต่างชาติก็จะรู้สึกแปลกตา แต่ที่อินเดียก็ไม่เห็นมีใครตื่นเต้นแต่ประการใด

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าพฤติกรรมและวิถึชีวิตของคนอินเดียเริ่มเปลี่ยนไปอย่างมากโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่หันมาออกกำลังกายกันมากขึ้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการแต่งตัวเพื่อออกกำลังกายกันอย่างจริงจัง ทั้งที่สวมใส่เพื่อออกกำลังกายกลางแจ้งและเพื่อออกกำลังกายในสถานบริการฟิตเนสที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้ 

ก่อนที่จะไปว่ากันถึงเรื่องชุดออกกำลังกาย ผมต้องขอเรียนว่าอินเดียในปัจจุบันกับอินเดียตามความรู้สึกของคนไทยนี่มันหนังคนละม้วนเลยนะครับ อินเดียสมัยใหม่พัฒนาไปเยอะแล้วครับ ผู้คนมีรายได้สูงขึ้น การศึกษาดีขึ้น รสนิยมปรับเปลี่ยนเป็นสากลมากขึ้น การขยายตัวของเมืองเพิ่มขึ้น ผู้คนเดินทางไปทั่วโลก ประกอบกับระบบการสื่อสารในปัจจุบันดีขึ้นด้วยระบบอินเตอร์เน็ทที่ทันสมัย ปัจจัยทั้งหลายทั้งปวงเหล่านี้ส่งผลให้คนอินเดียรุ่นใหม่มีพฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนไปในทิศทางที่ทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะบางกลุ่มที่ฐานะทางเศรษฐกิจดีมากๆอาจจะมีพฤติกรรมการบริโภคที่ทันสมัยกว่าคนไทยด้วยซ้ำไป

พฤติกรรมการออกกำลังกายของคนรุ่นใหม่ของอินเดียส่งผลให้ตลาดชุดออกกำลังกายที่เรียกกันว่า Active Wear เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา และเป็นกลุ่มสินค้ากลุ่มเดียวในอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มของอินเดียที่มีอัตราการขยายตัวเป็นตัวเลขอยู่ในระดับสองหลัก 

ซึ่งจากประมาณการของบริษัท Horizon Consulting India พบว่าตลาดชุดออกกำลังกายในอินเดียมีมูลค่าประมาณ 6 หมื่นล้านรูปีหรือประมาณ 3 หมื่นล้านบาทต่อปี และยังคงมีอัตราการขยายตัวเป็นตัวเลขอยู่ในระดับสองหลัก โดยสินค้าสำคัญในกลุ่มนี้คือ เสื้อยืด T-Shirts มีสัดส่วนประมาณ 40% กางเกงออกกำลังขาสั้นกับกางเกงวอร์มมีแถบข้าง (Track Pants) มีสัดส่วนรวมกันประมาณ 55% ที่เหลือจะเป็นถุงเท้ากีฬาสำหรับใส่ออกกำลังกายประมาณ 5%

ตลาดชุดออกกำลังกายในอินเดียมีผู้เล่นระดับโลกอยู่ 3 แบรนด์คือ Reebok, Nike และ Adidas ที่เหลือจะเป็นแบรนด์อื่นๆและแบรนด์ท้องถิ่นของอินเดียเอง ปัญหาสำคัญของการเข้าสู่ตลาด Active Wear ในอินเดีย (หรืออาจจะทุกๆตลาดก็ได้) อยู่ที่นวัตกรรมของผ้าที่นำมาตัดเย็บเป็นชุดออกกำลังกายและนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชุดออกกำลังกายระดับโลกทั้งสามแบรนด์ยังไม่ค่อยถูกกระทบจากการแข่งขันในตลาดอินเดียสักเท่าใดนัก 

แต่ที่น่าสนใจที่สุดอยู่ที่เรื่องช่องทางการจัดจำหน่ายสำหรับสินค้าชุดออกกำลังกายในอินเดียที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมสั่งซื้อทางระบบออนไลน์ ทั้งนี้ จากการสำรวจของบริษัท Horizon Consulting India โดยการสุ่มหาแบรนด์กางเกงออกกำลังกายที่เรียกว่า Track Pants (กางเกงวอร์มขายาวมีแถบข้าง) ในตลาดออนไลน์ พบว่ามีแบรนด์ต่างๆถึง 75 แบรนด์ และ 70% ของแบรนด์ที่พบมีจำหน่ายเฉพาะในระบบออนไลน์เท่านั้น และในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา พบว่ามีบริษัทจำหน่ายสินค้าออนไลน์นำเสนอสินค้าชุดออกกำลังกายใหม่ๆถึง 19 แบรนด์

ตลาดชุดออกกำลังกายหรือ Active Wear จึงเป็นอีกกลุ่มสินค้าหนึ่งที่น่าจับตามองมากเพราะลูกค้าหลักจะเป็นคนอินเดียรุ่นใหม่ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศและมีกำลังซื้อสูง เนื่องจากประชากรของอินเดียปัจจุบันมีจำนวนประมาณ 1,300 ล้านคน เกินกว่า 50% มีอายุต่ำกว่า 25 ปี และเกินกว่า 65% มีอายุต่ำกว่า 35 ปี ซึ่งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มลูกค้าสำคัญที่จะผลักดันให้ตลาด Active Wear เติบโตต่อไปอย่างรวดเร็ว 

ถ้าหากท่านผู้อ่านยังจินตนาการไม่ออกว่าตลาด Active Wear ของอินเดียซึ่งมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านบาทต่อปีใหญ่แค่ไหน ก็ต้องเทียบกับตลาดเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งหมดของอินเดียซึ่งมีมูลค่าถึง 2.7 ล้านล้านรูปีหรือประมาณ 1.35 ล้านล้านบาท จะเห็นได้ว่ายังมีช่องว่างที่ตลาด Active Wear จะขยายตัวได้อีกอย่างมหาศาล

ผมถึงบอกตั้งแต่ต้นแล้วไงครับว่า...ไม่เชื่ออย่าลบหลู่