นายกฯ ลงใต้สัปดาห์หน้า

 อย่าง จ.ตรัง สุราษฎร์ธานี สงขลา นครศรีธรรมราช ที่ยังน่าเป็นห่วง พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งกรมชลประทาน เสริมเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เพื่อเร่งพร่องน้ำและระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างเต็มที่

000 รายงานจากกรมอุตุนิยมวิทยา ชี้ว่าจะมีพายุเข้าปกคลุมภาคใต้ ส่งผลทำให้มีฝนตกมากขึ้นและฝนตกหนักในบางแห่ง ในช่วงวันที่ 18-22 ม.ค.นี้ พี่น้องชาวใต้และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเฝ้าระวังและรับมือกับพายุที่กำลังเข้ามากันอย่างเต็มที่ด้วย

000 ขณะเดียวกันความเสียหายที่เกิดจากอุทกภัย หอการค้าไทยได้สำรวจและประเมินความเสียหายแต่ละพื้นที่ไว้ โดยวิชัย อัศรัสกร โฆษกและรองประธานกรรมการหอการค้าไทย บอกว่าหากสถานการณ์น้ำท่วมยุติใน 1-2 สัปดาห์นี้และฝนมาอีกระลอกไม่น่าหนักมาก ความเสียหายจะอยู่ประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านบาท แต่หากน้ำท่วมกินเวลายาวนานถึง 2-3 เดือน จะสร้างความเสียหาย 8.5 หมื่นล้าน-1.2 แสนล้านบาท

000 ส่วนการท่องเที่ยว รับผลกระทบไปเฉพาะฝั่งอ่าวไทย ซึ่งมีการแจ้งยกเลิกห้องพัก 10-20% อย่างไรก็ตามส่วนที่มีการแจ้งยกเลิกก็ปรับแผนการท่องเที่ยวไปฝั่งอันดามันทดแทน รายได้ประเทศไม่ได้หายไปไหน และคาดว่าก่อนช่วงสงกรานต์ทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ  

000 น้ำท่วมที่ผ่านมานอกจากจะสร้างความเสียหายต่อภาคธุรกิจ ภาคท่องเที่ยวตลอดจนพื้นที่ทำกินของพี่น้องเกษตรกรภาคใต้ที่เสียหายไปกว่าล้านไร่ ยังส่งผลกระทบต่อเด็ก เยาวชน ที่เป็นกำลังของชาติ เนื่องจากโรงเรียนที่ต้องปิดการเรียนการสอนไปหลายร้อยแห่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้นิ่งนอนใจและกำชับในเรื่องการเรียนของเด็กนักเรียนในพื้นที่ประสบภัย โดยให้ทุกจังหวัดจัดหาที่เรียนให้กับเด็ก รวมทั้งการจัดหาน้ำสะอาดด้วย

000 หลังจากรัฐบาลจัดงานรับบริจาคเงินใน “โครงการประชารัฐร่วมใจ ช่วยอุทกภัยภาคใต้” ได้ยอดรวมกว่า 300 ล้านบาท นายกรัฐมนตรี บอกว่าจะนำเงินทั้งหมดไปช่วยเหลือฟื้นฟูและซ่อมแซมสิ่งต่างๆ หลังน้ำท่วม และสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ติดตามการช่วยเหลือด้วยตัวเอง

000 สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นหนึ่งบทเรียน ที่รัฐบาลต้องแก้ไขเร่งด่วน อย่างเรื่องการรื้อสิ่งปลูกสร้างกีดขวางทางน้ำ ที่กำลังถูกจับตาว่าจะทำได้จริงหรือไม่ ?

.........................................

- ธนิสา -