มอง"ภาพใหญ่"ใส่ใจ"รายละเอียด" ที่เป็นปัจจัยชี้ขาด!

มอง"ภาพใหญ่"ใส่ใจ"รายละเอียด" ที่เป็นปัจจัยชี้ขาด!

ความแตกต่างของ ผู้จัดการที่มีฝีมือธรรมดาๆ กับ ผู้จัดการที่เก่งๆ มีอยู่หลายเรื่อง..

แต่เรื่องที่จะมาคุย(ผ่านตัวหนังสือ)ในวันนี้ จะเน้นในเรื่องของ "การมองเห็นภาพใหญ่" แต่สามารถ "ใส่ใจในรายละเอียดที่สำคัญ" ที่เป็นจุดชี้เป็นชี้ตายที่จะทำให้ทีมล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จได้!

โดยปกติ บรรดาผู้บริหารทุกระดับจะเด่นในบางเรื่อง ด้อยในบางเรื่อง แต่ผู้จัดการ น้อยที่คนจะเก่งในการ "มองและเห็นภาพใหญ่" ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เด่นชัดของบรรดาเจ้าสัว บรรดา CEO เก่งๆ ที่ขยายอาณาจักร ขยายธุรกิจไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด เพราะมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นหรือเห็นแต่ไม่ชัด แล้วบรรดาเจ้าสัว หรือ CEO ที่เก่งๆ ค่อยสรรหาบรรดาผู้จัดการที่มีความสามารถ มาสานต่อให้สิ่งที่มองเห็นเกิดเป็นความสำเร็จได้

ในขณะที่บางคน (ซึ่งส่วนมากจะเป็นผู้บริหารระดับกลาง) หรือบรรดาผู้จัดการ จะเด่นในเรื่อง "รายละเอียด" ในเรื่องการบริหาร การนำแผนมาปฏิบัติให้ลุล่วง แต่ยังขาดการมองเห็น "ภาพใหญ่"! (นี่คือสิ่งที่แตกต่าง ระหว่างเจ้าสัว เจ้าของกิจการ กับผู้บริหาร/ผู้จัดการที่เป็นมือปืนรับจ้าง ไงครับ)

จะดีแค่ไหน.. ถ้าบรรดาผู้บริหารระดับกลาง/ผู้จัดการ สามารถมองเห็น "ภาพใหญ่" และใส่ใจใน"รายละเอียดที่เป็นจุดชี้เป็นชี้ตาย"ได้ !?

ถ้าบรรดาผู้จัดการ จะมองให้เห็นภาพใหญ่ได้ ต้องเริ่มต้นที่...

เพราะถ้ายังคงจมอยู่กับรายละเอียดทุกเรื่อง คงจะมึนจนไม่มีเวลามาคิด วิเคราะห์ สังเคราะห์อะไรได้ แต่ยังต้องรักษารายละเอียดที่เป็นจุดสำคัญ จุดชี้เป็นชี้ตายในบางเรื่องไว้

หลังจากละทิ้งเรื่องไม่สำคัญบางเรื่อง จนมีเวลาเพิ่มขึ้น ก็นำเวลาไปเรียนรู้ (ถนัดหรือชอบเรียนรู้แบบไหน ก็จัดไปตามที่ชอบเลยครับ แต่แนะนำให้เรียนรู้หลายๆ แบบควบคู่กันไป ไม่ว่าจะเป็นการอ่าน การเข้าสัมมนา การเรียนรู้ผ่าน Social Network ที่มีมากมายในยุคปัจจุบัน ไปจนถึงการพูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนเก่งๆ โดยเฉพาะผู้บริหารระดับสูง เจ้าสัว เถ้าแก่ที่เก่งๆ เราจะได้มุมมองที่เราคาดไม่ถึงหลายอย่าง)

มาถึงตรงนี้ ถ้าได้เรียนรู้และนำสิ่งที่เรียนรู้มาย่อย มาสังเคราะห์ ก็จะเริ่มเห็นอะไรที่ชัดขึ้น ที่เป็นภาพใหญ่ ที่จะส่งผลกับงาน กับ ธุรกิจ องค์กรที่ท่านทำ..

ท่านก็จะรู้ว่า รายละเอียดอะไรบ้าง ที่ท่านต้องเน้น ต้องทำให้ดี พลาดไม่ได้! และรายละเอียดอะไรบ้าง ที่ท่านเคยคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญ แต่ปัจจุบันและในอนาคต..เป็นเรื่องที่ไร้สาระ ไม่ควรไปเสียเวลาไปกับมันอีก!

ยกตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดๆ เช่น การตอกบัตรเข้า-ออก/กฎระเบียบหยุมหยิม เคยเป็นเรื่องสำคัญของแทบทุกธุรกิจในอดีต แต่ในปัจจุบันและในอนาคต กลายเป็นเรื่องไร้สาระของหลายๆ ธุรกิจไปแล้ว!

ผู้จัดการ หรือผู้บริหารที่เป็นมือปืนรับจ้าง น้อยคนที่จะมองเห็นภาพใหญ่ หรือแม้กระทั่งเข้าใจ เท่าทันความคิดในสิ่งที่บรรดาเจ้าสัวหรือ CEO ที่เป็นเจ้าของกิจการเห็น เพราะไปมัวติดในรายละเอียด "มากเกินไป"

แต่เมื่อสามารถละทิ้งรายละเอียดในเรื่องที่ไม่สำคัญ ไปมุ่งเน้นรายละเอียดที่สำคัญ นอกจากจะทำให้ "คุยภาษาเดียวกัน" กับ CEO แล้ว ยังทำให้จัดลำดับสิ่งที่ควรทำเพื่อให้ผลงานบรรลุเป้าหมายได้ง่ายขึ้นและเร็วขึ้น!

ส่วนผู้บริหารระดับกลางหรือผู้จัดการท่านใด ที่มีจุดแข็งในเรื่อง การมองและเห็นภาพใหญ่ได้ค่อนข้างดี แต่การลงรายละเอียด อาจไม่ใช่จุดแข็ง ก็ให้เน้นต่อยอดจุดแข็งในการมองภาพใหญ่ให้ดียิ่งขึ้น แล้วมาเสริมตรงเรื่องการลงรายละเอียดในเรื่องที่สำคัญๆ ที่เป็นปัจจัยจะทำให้ทีมงานและหน่วยงานบรรลุเป้าหมายได้ดียิ่งขึ้น ก็ถือว่าสมบูรณ์แบบแล้ว

ใครก็ตาม โดยเฉพาะระดับผู้จัดการ เมื่อมองเห็นภาพใหญ่ มองกว้าง มองเห็นทิศทาง และการเชื่อมโยงของปัจจัยต่างๆ ได้ชัด เมื่อลงรายละเอียดแล้ว จะรู้ว่า ต้อง "เน้นเรื่องใด" ที่จะส่งผลบวกแบบทวีคูณ และควรจะ "เว้นเรื่องใด" ที่เป็นเรื่องที่ไม่ควรไปเสียเวลาคิด เสียเวลาทำ หรือให้ทีมงานช่วยทำจะเป็นผลดีกว่า. นอกจากประสิทธิภาพของงานจะออกมาดี ศักยภาพของผู้จัดการคนนั้น ก็จะและเก่งยิ่งขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

มองภาพใหญ่ให้ชัด...ขจัดรายละเอียดที่ไม่จำเป็นทิ้งไป ใส่ใจ ให้ความสำคัญกับรายละเอียดที่เป็นปัจจัยชี้ขาดที่จะทำให้หน่วยงานและทีมงาน สร้างผลงานให้บรรลุเป้าหมาย

คงไม่ยากเกินไปสำหรับผู้จัดการชั้นยอดทุกท่านนะครับ