หลังปีใหม่แล้ว ขาย LTF ดีหรือไม่ ?

สวัสดีนักลงทุนทุกท่าน ถ้าพูดย้อนไปตอนปีที่แล้วจะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไทย และตลาดหุ้นทั่วโลกในช่วงปลายปีมีการปรับตัวขึ้นค่อนข้างมาก และไม่ว่าจะมีสิ่งรบกวนอะไรเข้ามา ข่าวดีหรือข่าวร้าย ตลาดก็เอาแต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น เหมือนจะละเลยมุมมองด้านลบๆ ไปหมด ที่ชัดที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ก่อนหน้าจะเลือกตั้ง ไม่ว่าใครก็มองว่านโยบายของโดนัล ทรัมป์ จะทำให้เศรษฐกิจจะแย่ ตลาดหุ้นตกต่ำ แต่พอเอาเข้าจริง เมื่อทรัมป์ได้รับชัยชนะ ตลาดหุ้นก็ปรับตัวขึ้นเอาๆ จนตัวนายทรัมป์ถึงกับออกมาให้เครดิตตัวเองว่าที่ตลาดหุ้นขึ้น นั้นเป็นเพราะเขาเลยนะ และไม่เพียงแต่ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เท่านั้นตลาดในภูมิภาคอื่นก็ถูกฉุดขึ้นจากบรรยากาศการลงทุนที่คึกคักเช่นกัน

และการที่ตลาดหุ้นไทยขึ้นมาในระดับนี้ ทำให้นักลงทุนหลายท่านที่มี LTF ครบกำหนดขายได้ในปีนี้ (2017) เกิดคำถามว่า “ตลาดแบบนี้ ขาย LTF ทิ้งเลยดีหรือไม่?”

ก่อนที่จะตอบคำถามว่าควรจะขายดีหรือไม่ แล้วถ้าขายจะขายเท่าไรดี? เรามาดูปัจจัยที่ต้องเฝ้าจับตามองกันก่อนดีกว่าครับ

1) ณ วันนี้ P/E อยู่ที่ประมาณ 14 เท่ากว่าๆ ซึ่งนับว่าอยู่ในกรอบที่ซื้อขายกันในช่วงเวลา 3-5 ปีที่ผ่านมา

2) บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกที่ยังดีอยู่ ทำให้ตลาดหุ้นอาจปรับตัวขึ้นได้

3) พื้นฐานเศรษฐกิจประเทศไทย ณ วันนี้ดูดีขึ้นมีแนวโน้มที่ดี การบริโภคกลับมา การส่งออกเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ต้องระวังการเติบโตภาคการท่องเที่ยวที่อาจไม่สูงเท่าที่ประเมินไว้ก่อนหน้า และการขึ้นมาดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ จะมีการดำเนินนโยบายอะไรที่ส่งผลเสียต่อเราหรือไม่

4) ปัจจัยการขึ้นดอกเบี้ย FED ยังคงเป็นประเด็น ถ้าดอกเบี้ยขึ้นเร็วเกินไป ก็มีสิทธ์ที่จะเห็นเงินไหลออกจากตลาดเกิดใหม่ แต่หาก FED ขึ้นดอกเบี้ยได้น้อยกว่า 3 ครั้งต่อปี จะส่งผลดีเหมือนกับการผ่อนคลายนโยบายทางอ้อม เงินลงทุนจะไหลกลับมาหนุนสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกอีกครั้ง

5) นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ เช่นสถานการณ์ทางการเมืองในยุโรป และปัญหาเชิงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของจีน รวมถึงราคาน้ำมันที่ยังสามารถสร้างความผันผวนให้ตลาดได้ทุกเมื่อเช่นกัน

เมื่อมองปัจจัยดังกล่าวในภาพรวมแล้ว เราเชื่อว่าการที่แนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นนั้นจะเป็นตัวสนับสนุนพื้นฐานบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยได้ ในขณะที่ระดับราคาหุ้นไทย ณ วันนี้ก็ไม่ได้ถือว่าแพงนักเมื่อเทียบกับในอดีต ดังนั้นโอกาสที่หุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้อีกนั้นยังมี แต่ปัจจัยกดดันที่จะทำให้ราคาหุ้นร่วงลงได้ง่ายๆ ก็ยังมีเช่นกัน และด้วยภาพตลาดแบบนี้ ผมแนะนำว่าหากนักลงทุนมีความต้องการใช้เงินจาก LTF ในปีนี้ ควรทยอยขาย LTF บางส่วนดีกว่าที่จะออกทีเดียวทั้งจำนวน และเหลือบางส่วนไว้ลงทุนทยอยขายในระยะถัดไป เมื่อตลาดปรับตัวขึ้น แต่หากนักลงทุนไม่ได้ต้องการใช้เงินจาก LTF และมองว่าเงินก้อนนี้เป็นเงินเย็นจริงๆ สามารถลงทุนได้อีกยาวๆ ไม่มีเวลามานั่งจับจังหวะตลาด แบบนี้ผมว่าการปล่อยเงินลงทุนทิ้งไว้ในกองทุน LTF ดีๆ สักกอง ให้ผู้จัดการกองทุนดูแลเงินลงทุนของเราก็เป็นทางเลือกที่ดีแล้วครับ

สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่า แม้มีเหตุผลมากมายที่จะมาสนับสนุน หรือคัดค้านว่าเราควรทำหรือไม่ทำอะไรในช่วงเวลาไหนๆ กำหนดจากข้อสมมุติฐานเดียวกันนั้นจะใช้ได้ดีกับทุกๆคนครับ เพราะด้วยสถานการณ์และเงื่อนไขในชีวิตของคนแต่ละคนที่มีความแตกต่างกัน อะไรที่จะเป็น “One fits all” นั้นคงไม่มีจริงครับ ในแง่ของการซื้อ-ขายและการวางกลยุทธ์ในการลงทุน LTF ก็เช่นกัน เงื่อนไขในชีวิตของแต่ละคนที่แตกต่างกันก็ทำให้กลยุทธ์ที่ควรถูกนำมาใช้มีความแตกต่างกันออกไป สำหรับนักลงทุนท่านใดที่ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนให้เหมาะกับเงื่อนไขในชีวิต สำหรับวันนี้คงต้องลากันไปก่อน โชคดีในการลงทุนครับ สวัสดีครับ