ฟังเสียงเด็ก'อาชีพในฝัน'

ฟังเสียงเด็ก'อาชีพในฝัน'

เด็ก คือ ทรัพยากรสำคัญของชาติ เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนา

และขับเคลื่อนชาติประเทศไทยก้าวหน้ารุ่งเรืองสืบต่อไปในยุคหน้า รัฐบาล โรงเรียน ชุมชน หมู่บ้าน หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เรียกว่า ทุกสังคม จึงให้ความสำคัญกับเด็ก ในทุก วันเด็กแห่งชาติ เสาร์ที่ 2 ของเดือน ม.ค. ทุกปี กิจกรรมต่างๆ จึงถูกรังสรรค์ขึ้นทุกพื้นที่ทั่วประเทศ

งานวันเด็กขึ้นทุกปี ไม่เพียงแค่มอบความสนุกสนานบันเทิงใจ แต่นัยสำคัญเพื่อให้เด็กได้ตระหนักรู้ถึงคุณค่า บทบาท และความสำคัญของตนเอง เพื่อบ่มเพาะ สร้างสมความ ประพฤติชอบนำสู่การประพฤติปฏิบัติตนที่เหมาะสมตั้งแต่เด็ก ด้วยการตั้งใจตั้งมั่นขยันหมั่นเพียรศึกษาความรู้ ประพฤติตนอยู่ในระเบียบวินัย ตั้งมั่นในศีลธรรมอันดี มีความรับผิดชอบ ซื่อสัตย์สุจริต รู้จักการใช้เวลา ความคิด

สิ่งเหล่านี้หลอมรวมกรุยทางสร้าง เด็ก” เติบโตสู่ “ผู้ใหญ่ บนเส้นทางสาย อาชีพ” ที่ไม่เพียงสะท้อนความมั่นคง มั่งคั่ง ต่อตนเอง ครอบครัว และประเทศชาติ แต่ยังชี้วัดในหลายเรื่อง ล่าสุดมีผลสำรวจที่น่าสนใจของ กลุ่มบริษัทอเด็คโก้ ประเทศไทย ถึง อาชีพในฝันของเด็กไทย  ปี 2560 จากการสอบถามเด็กไทยอายุ 7-14 ปี พบว่าอาชีพครูมาแรงแซงอาชีพแพทย์ที่ครองแชมป์มาตลอด 7 ปี

เด็กส่วนใหญ่ให้เหตุผลที่อยากเป็น “คุณครู เพราะอยากมอบ ส่งต่อ แบ่งปันความรู้ให้เด็กๆ และสอนให้เด็กเป็นคนดี ส่วน “แพทย์” ลงไปอยู่อันดับ 2 ตามมาด้วย ทหาร นักกีฬาและ ตำรวจ ตามลำดับ สิ่งที่เห็นเด่นชัดจากผลสำรวจปีนี้ อาชีพนักกีฬา มาแรงติดอันดับ 1 ใน 5 ซึ่งเด็กๆ อยากเป็นนักกีฬาเพราะความชอบ ได้ออกกำลังกาย และมีรายได้ดี ยังมีเด็กหลายคนที่อยากประกอบอาชีพเกษตรกรรมเพราะอยากดำเนินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทและพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รวมถึงอยากรับราชการเพราะอยากเป็นทหารของพระราชาอีกด้วย

ปีนี้ยังมีหลายอาชีพใหม่ที่เด็กไทยสนใจ เช่น อนิเมเตอร์ อาชีพนักออกแบบและสร้างภาพการ์ตูนแบบเคลื่อนไหว เพราะชอบดูการ์ตูน นักแคสเกม หรือ ผู้ที่นำเกมมาทดสอบหรือเล่นและอัดคลิปวิดีโอให้ผู้ชมดูผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะชอบเล่นคอมพิวเตอร์ เด็กคนหนึ่งอยากทำงานกู้ภัยเพราะมีโอกาสช่วยเหลือประชาชน เด็กคนหนึ่งฝันอยากเป็นซีอีโอบริษัทระดับโลก เพราะยังไม่เคยเห็นนักธุรกิจไทยติดอันดับโลกจึงอยากทำให้ได้เพื่อให้ชาวต่างชาติรู้ถึงศักยภาพคนไทยว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก

ผลสำรวจยังถามถึงอาชีพที่คิดว่า เท่ที่สุด หรือ ดีที่สุด” อันดับหนึ่ง คือ อาชีพทหาร ตามมาด้วย ตำรวจ แพทย์ นักฟุตบอล และ คุณครู ด้านเงินเดือนที่เด็กๆ อยากได้มากที่สุดคือ 15,000-30,000 บาท โดยเงินเดือนสูงสุดที่อยากได้คือ 90 ล้านบาท เงินเดือนต่ำสุดที่อยากได้คือ 0 บาท จากการวิเคราะห์ข้อมูล พบว่าหากน้องๆ ได้ทำในสิ่งที่ชอบก็ไม่จำเป็นต้องได้รับค่าตอบแทน ในรูปแบบเงินเดือนเยอะแต่จะได้เป็นความสุขใจที่ได้ทำในสิ่งที่รักตอบแทน

สิ่งที่เด็กๆ อยากทำหากได้เป็นนายกรัฐมนตรีคือ พัฒนาประเทศชาติ ช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือคนยากจนและปฏิรูปการศึกษา เด็กหลายคนบอกว่า จะให้เรียนหนังสือฟรีและรักษาโรคฟรี” สำหรับไอดอลในดวงใจของเด็กไทยอันดับ 1 คือ คุณพ่อคุณแม่ เพราะพ่อแม่เป็นคนดีคนเก่งที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กและช่วยสอนให้เป็นคนดี อันดับ 2 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้เป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย เพราะพระองค์ทรงเป็นผู้มีพระปรีชาสามารถ อุทิศตนพื่อช่วยเหลือประชาชนและเป็นแบบอย่างที่ดี 

วิชาเรียนที่เด็กๆ ชื่นชอบมากที่สุด คือ คณิตศาสตร์ ตามด้วย พลศึกษา ภาษาไทย คอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษ กิจกรรมวันหยุดที่ชอบทำ คือ การเล่นในวันหยุด ไม่ว่าจะเป็น เล่นเกม ฟุตบอล เล่นกับเพื่อน รองลงมา ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยว เล่นโทรศัพท์ และดูโทรทัศน์ จะเห็นว่าเทรนด์เทคโนโลยีทำให้เด็กเข้าถึงสมาร์ทโฟนตั้งแต่อายุยังน้อย คุ้นเคยกับเทคโนโลยีใหม่ได้ง่าย

ผลสำรวจพอดังกล่าวน่าจะเป็นแนวทาง ให้บรรดาผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน  และ ครอบครัว วางแผนพัฒนา ต่อยอด ส่งเสริมเด็กไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เพื่อเป็นรากฐานสำคัญของอนาคตประเทศไทย