ปริศนา 'องอาจ' ถึง 'ธัมมชโย' หนี

ปริศนา 'องอาจ' ถึง 'ธัมมชโย' หนี

ต้องบอกว่า ใครที่เห็นภาพ องอาจ ธรรมนิทา โฆษกคณะศิษยานุศิษย์วัดพระธรรมกาย

 ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหายุยง ปลุกปั่น ความผิดมาตรา 116 (2) ในโลกโซเชียลที่มีการแชร์กันว่า หนีไปอยู่ฝรั่งเศสแล้ว ก็คงเชื่ออย่างนั้น

เพราะประการสำคัญ การหนีคดีออกนอกประเทศ ไม่ใช่เรื่องยาก ขอให้มีเงิน มีคอนเน็กชั่น กับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ก็มีคนพาหนีได้แล้ว

ภาพ “องอาจ” นั่งรับประทานอาหาร ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ในประเทศฝรั่งเศส พร้อมพระสงฆ์อีก 1 รูป ก็ไม่น่าแปลกใจ

เหลือก็แต่คำยืนยันจาก ...ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่าจริงหรือไม่เท่านั้น

ประเด็นที่น่าสนใจไปกว่านั้น ถ้าคดียุยง ปลุกปั่น ความผิดมาตรา 116 (2) “องอาจ” ยังหนี แล้วคดี สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และรับของโจร กรณีรับเช็กจากคดียักยอกเงินสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่นจำกัด รวมทั้งคดีร่วมกันบุกรุกป่า ก่อสร้างสวนป่าหิมวันต์ ภูเรือ จ.เลย และคดีบุกรุกพื้นที่ป่า ก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม เวิลด์พีซวัลเล่ย์ เขาใหญ่ ที่ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธัมมชโย ตกเป็นผู้ต้องหา จะรอให้บุกเข้าไปจับอย่างนั้นหรือ???

มาถึงตรงนี้ สิ่งที่ นพ.มโน เลาหวณิช อดีตพระลูกวัดพระธรรมกาย ออกมาให้ข้อมูล ก็มิอาจมองข้ามเช่นกัน

โดยเฉพาะ อ้างว่า “องอาจ” เดินทางไปกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมปีที่แล้ว โดยหนีออกไปทางพรมแดนประเทศลาว จากนั้นเดินทางด้วยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ แล้วเปลี่ยนเที่ยวบินเพื่อไปแฟรงค์เฟิร์ต ประเทศเยอรมัน ก่อนจะเดินทางเข้ากรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

ส่วนพระธัมมชโย นพ.มโน อ้างว่า ตนทราบข่าวเดินทางออกจากประเทศไทย ช่วงหลังจากที่ตำรวจได้ปฏิบัติการเข้ารื้อกำแพงวัด และสิ่งปลูกสร้างผิดกฎหมายที่วัดพระธรรมกาย โดยจากการข่าวทราบว่า พระธัมมชโย ได้หายไปพร้อมกับตู้คอนเทนเนอร์ที่ตั้งอยู่ภายในวัดธรรมกายจำนวน 5 ตู้ ขณะที่ชาวบ้านและลูกศิษย์ที่อยู่ภายในวัดธรรมกายเข้าใจว่าพวกตนปกป้องหลวงพ่อ แต่ที่จริงแล้วหายไปวันที่ 27 ธันวาคมที่ผ่านมาแล้ว

อย่างน้อย ก็ทำให้หน่วยงานรัฐ ตื่นขึ้นมารับรู้ปัญหา และเอาจริงกับการหลบหนีออกนอกประเทศมากขึ้น ถ้าเชื่อว่า ทั้งสองคนยังอยู่ในประเทศ

กระนั้น ประเด็นยังอยู่ที่ว่า ภาพ “องอาจ” ถูกปล่อยออกมาได้อย่างไร จากผู้หวังดี หรือ เจ้าตัวปล่อยเอง เพียงเพื่อเย้ยกระบวนการยุติธรรมไทย หรือมีอะไรมากกว่านั้น เป็นเรื่องที่จะต้องหาข้อเท็จจริงไปพร้อมกับ “ปริศนา” ว่า ทั้งสองคนหนีไปแล้วจริง หรือไม่?