Wealth Creation:ขอ 3 คำ เพื่อพิชิตเป้าหมายเงิน 100ล้าน

หวังเงินล้านขอให้ได้ดั่งใจหวัง เพียงแค่ตั้งใจวางแผนการเงินเสริม

หากเขียนแผนไม่ถูกอ่านเพิ่มเติม เรามาเริ่มวางแผนไปด้วยกัน

คุณยังเป็นคนหนึ่งหรือไม่ ที่ตั้งเป้าหมายทางการเงินไว้ที่ 1ล้าน 10ล้าน หรือ 100ล้าน แล้วยังไม่ได้ดั่งใจหวัง

หากคำตอบของคุณคือ “ใช่” อันดับแรกเลย ผมต้องขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยครับ ที่อย่างน้อยคุณก็มีเป้าหมายที่คุณต้องการแล้ว คราวนี้ก็อยู่ที่การวางแผน และลงมือทำ

หากใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ แล้วเพิ่งรู้ตัวว่า “ฉันยังไม่มีเป้าหมายเลย”

ผมบอกตรงนี้ก่อนเลยว่า ไม่ใช่เรื่องที่ผิด ตอนนี้คุณรู้ตัวแล้ว ก็ลองตั้งเป้าหมายของปีนี้ หรือของชีวิตนี้เลยครับ

เพราะจะน่าเสียดายมากที่คุณจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป

เนื่องจากการไร้เป้าหมายก็เหมือนการเดินไปเรื่อยๆ หรือขับรถไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ว่ามีจุดหมายปลายทางที่ไหน มันจะดีกว่าไหมถ้าคุณชัดเจนว่า การเดินทางของคุณจะได้เห็นทะเล หรือภูเขา

มาถึงตรงนี้ ผมหวังว่าทุกๆท่าน คงจะมีคำตอบสำหรับเป้าหมายปีนี้ หรือเป้าหมายชีวิตนี้ เรียบร้อยแล้ว

ลองมาพิจารณาตามผมกันนะครับ หากตอนนี้เรามีจุดมุ่งหมายที่เราจะเดินทางไปคือ เชียงใหม่

สิ่งที่เราจะต้องเกิดคำถามขึ้น อันดับแรกเลยก็คือ เราจะไปกันอย่างไร?

จะปั่นจักรยาน นั่งรถไฟ ขับรถ หรือขึ้นเครื่องบิน

แต่ก่อนจะตอบคำถามนี้ได้ จริงๆแล้วเราต้องรู้ก่อนว่า ตอนนี้เราอยู่ที่ไหน? แล้วเราต้องการไปถึงเมื่อไร?

ถ้าตอนนี้เราอยู่ลำพูน คงไม่จำเป็นที่จะต้องนั่งเครื่องบิน

หรือถ้าตอนนี้อยู่ กรุงเทพฯ แต่ผมจะไปเชียงใหม่ให้ถึงทันวันพุธหน้า มีเวลา 1 อาทิตย์ ผมอาจจะปั่นจักรยานก็ได้

แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นต้องไปให้ถึงภายในคืนนี้ ผมอาจจะต้องนั่งเครื่องบินไป

หลักคิดการเงิน ก็เป็นเช่นเดียวกับการเดินทางที่ผมได้ยกตัวอย่างข้างต้นครับ

เมื่อเชียงใหม่ คือจุดหมายปลายทาง เปรียบเสมือน เป้าหมายทางการเงิน เช่น 100ล้าน ตัวแปร 3 ตัวที่จะพาไปถึงเป้าหมายทางการเงินมีดังนี้

1. รายได้และสินทรัพย์

สิ่งแรกที่ต้องพิจารณา คือ ตอนนี้เราอยู่ที่ไหนในแผนที่การเงินของเรา เพื่อที่เราจะได้รู้ระยะทางที่เราห่างจากเป้าหมาย

สินทรัพย์ที่มี - หนี้สิน = สินทรัพย์สุทธิ (ตำแหน่งทางการเงินปัจจุบัน)

เมื่อเราทราบตำแหน่งทางการเงินเราปัจจุบัน เราสามารถถึงเป้าหมายได้ด้วยการเดินทางแบบธรรมดาโดยการหารายได้แต่ละเดือน

รายรับต่อเดือน - ค่าใช้จ่าย = รายได้สุทธิ (อัตราเร่งที่จะไปถึงเป้าหมายทางการเงินแบบธรรมดา)

2. เวลา

เมื่อเราทราบเป้าหมายทางการเงิน, สินทรัพย์สุทธิ และรายได้สุทธิแล้ว เราจะพอรู้เวลาที่จะไปถึงเป้าหมายทางการเงินคือเมื่อไร

(เป้าหมายทางการเงิน - สินทรัพย์สุทธิ)/รายได้สุทธิ = เวลา

หากเป้าหมายของเราคือ 100ล้าน และมีสินทรัพย์สุทธิ 20 ล้าน ซึ่งหากทุกวันนี้เรามีรายได้สุทธิ 1แสนต่อเดือน ปีหนึ่งเราก็จะเก็บได้ 1.2ล้าน จะเห็นว่าเราต้องใช้เวลาเพื่อไปถึงเป้าหมายประมาณ 67 ปี ซี่งเป็นระยะเวลาที่ยาวนานเกินไปที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องมีการลงทุนเพื่อย่นระยะเวลาในการไปถึงเป้าหมาย

หากเราไม่อยากเดินทางด้วยวิธีธรรมดา ก็ต้องเดินทางด้วยยานพาหนะ (สินค้าการลงทุน) การที่รู้แล้วว่าเรามีรายได้สุทธิเท่าไร แล้วควรเลือกการลงทุนแบบไหนถึงจะเหมาะสม ต้องพิจารณาประกอบกับเวลาที่เราจะใช้ในการเดินทาง หรือไปถึงเป้าหมายนั้น จะเป็นภายในปีนี้ หรือ 20ปีข้างหน้า ก็เหมือนที่เราจะต้องไปถึงเชียงใหม่ ภายในคืนนี้ หรือวันพุธหน้า เราก็จะรู้ว่าเหลือเวลาเดินทางเพียง 4ชั่วโมง หรือ 1สัปดาห์ แล้วยานพาหนะใดจึงเหมาะสม

3. ผลตอบแทน

เมื่อเรารู้รายได้และสินทรัพย์ที่เรามี รวมถึงเวลา คราวนี้เราก็คำนวณได้ว่าเราต้องใช้ความเร็วเท่าไร เพื่อเลือกยานพาหนะที่มีความเร็วที่เหมาะสมพาเราไปถึงที่หมายในเวลาที่กำหนด แต่พึงระวังว่าความเร็วที่เราจะใช้มักจะมาพร้อมกับความเสี่ยงเสมอ ถ้าต้องการผลตอบแทนสูง ความเสี่ยงก็สูงตาม เหมือนกับเราขับรถ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อาจไปถึงที่หมาย หรืออาจไปถึงที่ตายก็ได้!!!เมื่อเทียบกับคนที่ขับ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ย่อมมีความเสี่ยงที่ต่ำกว่า เช่นกันครับผลตอบแทนที่สูง ความเสี่ยงก็สูงตามไปด้วย

สินค้าการลงทุนความเสี่ยงต่ำ เช่น พันธบัตรรัฐบาล กองทุนตราสารหนี้ ฯลฯ

สินค้าความเสี่ยงสูง เช่น หุ้น ตราสารอนุพันธ์ ฯลฯ

ผมขอสรุป 3 คำเพื่อพิชิตเป้าหมายทางการเงินว่า “รายได้และสินทรัพย์” “เวลา” และ “ผลตอบแทน” เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณารวมกัน เพื่อนำพาทุกท่านไปถึงเป้าหมายทางการเงินอย่างปลอดภัยครับ