มุมมองตลาดหุ้นไทยปี 2560 หุ้นกลุ่มไหนเด่น ?

มุมมองตลาดหุ้นไทยปี 2560 หุ้นกลุ่มไหนเด่น ?

แนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งของโลกในปี 2560 น่าจะช่วยหนุนสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอุปสงค์/อุปทานที่ดุลดีขึ้น

แม้ว่าอัตราผลตอบแทนจากตลาดพันธบัตรจะอยู่ในช่วงขาขึ้น, แต่ส่วนต่างระหว่างอัตราผลตอบแทนของ SET (จากประมาณการกำไรปี 2560 เทียบกับอัตราผลตอบแทนจากตลาดพันธบัตรระยะยาว 10 ปี) ยังคงใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 4.3% ซึ่งถือว่าไม่แพง ความเสี่ยงของอัตราผลตอบแทนจากตลาดพันธบัตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นดูเหมือนจะชะลอตัวเนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐฯอาจหยุดชั่วคราวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกหลายเดือนหลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐจากการประชุม FOMC ในเดือนธ.ค. ก่อนจะกลับมาปรับเพิ่มอีกครั้งในปลายไตรมาส3/60

สำหรับแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงอยู่ในระดับปานกลางกอปรกับการเติบโตของตัวขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง อาทิ เช่น กำลังการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น, โครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องน่าจะช่วยหนุนให้กระแสเงินทุนกลับเข้ามาได้หลังจากเงินทุนต่างประเทศไหลออกไปในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ในกรณีพื้นฐานของเรา คาดเป้าหมาย SET สำหรับสิ้นปี 2560 อยู่ที่ 1,670 จุด อ้างอิงจากราคา PER ปี 2560 ที่ 15.5 เท่า (กำไรสุทธิต่อหุ้นที่ 107.6) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ย(12.4 เท่า) ที่ 1.3 เท่าของค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

แนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่งของโลกในปี 2560 น่าจะช่วยหนุนสินค้ากลุ่มอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะกลุ่มที่มีอุปสงค์/อุปทานที่ดุลดีขึ้น การเติบโตในประเทศน่าจะเติบโตได้จากแรงหนุนในประเทศ (การบริโภค, การลงทุนของภาครัฐ) อัตราผลตอบแทนจากตลาดพันธบัตรและนโยบายอัตราดอกเบี้ยยังไม่สูงมากนักภายใต้ภาวะเศรษฐกิจระดับปานกลางในปัจจุบัน แต่คาดว่าน่าจะมีผลตอบแทนเป็นบวกในปี 2560 ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงทางเศรษฐกิจตลอดปี 2560 แต่คาดว่าจะไม่รุนแรงมากนัก เมื่อเทียบกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในปี 2559

ในไตรมาส1/60 หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจและมีโอกาสปรับตัวดีกว่าตลาด ได้แก่ กลุ่มรับเหมา (จากการประมูลโครงการอย่างต่อเนื่องน่าจะทำให้กลุ่มรับเหมาเป็นที่น่าสนใจ), กลุ่มค้าปลีก (อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมของผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ โดยเฉพาะผู้ค้าปลีกกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีกำลังการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น), กลุ่มธนาคารและการเงินรายย่อย (การเพิ่มขึ้นของสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ในอัตราที่ชะลอตัวและการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สูญฯที่น้อยลง)กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี (การปรับสมดุลของอุปสงค์/อุปทานของน้ำมันหลัง OPEC บรรลุข้อตกลงการลดกำลังการผลิตซึ่งน่าจะช่วยหนุนราคาน้ำมันได้)

สำหรับภาพรวมปี 2560 หุ้นกลุ่มที่น่าสนใจและมีโอกาสปรับตัวดีกว่าตลาด ได้แก่ 1) กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากแนวโน้มสภาพเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อาทิ เช่น กลุ่มธนาคาร, กลุ่มค้าปลีก, กลุ่มรับเหมาและวัสดุก่อสร้าง 2) แนวโน้มสมดุลของอุปสงค์/อุปทานที่ปรับตัวดีขึ้น (พลังงาน, ปิโตรเคมี โดยเฉพาะ PET และ PTA, การขนส่งทางเรือแบบเทกอง, โรงกลั่น [แก็สโซลีน], น้ำตาล 3) เงินทุนหมุนเวียน (อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น, อัตราผลตอบแทนจากตลาดพันธบัตร, ราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งน่าจะช่วยหนุนกลุ่มประกันภัยและธนาคาร)

อย่างไรก็ตามปัจจัยเสี่ยงต่อตลาดในช่วงปีข้างหน้าได้แก่ 1) ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวของประเทศสหรัฐฯ, ยุโรป และประเทศจีน 2) การดำเนินนโยบายทางการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นของธนาคารกลางสหรัฐ (ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและปรับลดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ) 3) ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงหรือราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว (ส่งผลกระทบต่อการบริโภค) และ 4) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ