เรื่องที่ต้องปรับรับปี 2560
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติไปแล้วที่ใกล้ถึงวันสิ้นปี มักจะมีข้อคิด ข้อเขียนดีๆ จากคอลัมนิสต์แทบทุกท่าน ให้ท่านได้อ่าน ได้เก็บไปคิด ไปปรับใช้
ในส่วนของผม ก็ขอส่งท้ายปีด้วยการขอบพระคุณผู้อ่านทุกๆ ท่าน ที่ได้ติดตามคอลัมน์นี้มาโดยตลอด รวมทั้ง นสพ.กรุงเทพธุรกิจ ที่ได้เปิดพื้นที่ให้ด้วยเช่นกันนะครับ
และขอส่งท้ายปีนี้ ด้วยเรื่องนี้ ที่จะเน้นเป็นประเด็นสั้นๆ ในแต่ละเรื่อง ที่จะ "เป็นปัจจัยหลัก/ปัจจัยชี้ขาด" ที่จะทำให้แต่ละองค์กรประสบความล้มเหลว หรือประสบความสำเร็จในปีหน้าที่จะถึงนี้ เพื่อให้ทุกท่านที่อ่านได้รับประโยชน์ แต่จะมากหรือน้อยก็แล้วแต่มุมมอง และการนำไปคิดไปต่อยอดของทุกๆ ท่านครับ..
ประเด็นแรก... ว่าด้วยเรื่อง "กลยุทธ์"
เกือบยี่สิบปีมาแล้วที่พูดกันว่า โลกธุรกิจมันหมุนเร็ว มันเปลี่ยนเร็ว..มาถึงวันนี้ มันเร็วกว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาหลายสิบเท่า!
เพราะฉะนั้น ในเรื่องของกลยุทธ์ ไม่ว่าจะเป็นกลยุทธ์ของธุรกิจ/องค์กร ไปจนถึงกลยุทธ์การตลาด การขาย...ในทุกวันนี้ จะไม่มีเวลาให้กลยุทธ์ที่วางแบบยาวๆ แล้วค่อยๆ ติดตามผล เพราะถ้ายังขืนทำแบบนั้น จะตกขบวน ไม่ทันกับสถานการณ์และการเปลี่ยนแปลงที่มีไม่เว้นแต่ละวัน!
วันนี้และพรุ่งนี้...เป้าหมายธุรกิจและองค์กร ยังพอจะยึดเป็นหลักได้ แต่กลยุทธ์องค์กร กลยุทธ์การขาย การตลาด จะต้องปรับเปลี่ยนเร็ว แทบจะเป็นรายวัน เป็นรายชั่วโมงแบบ Real Time ถึงจะไปรอดและไปได้ดีในปี2560!
ส่วนจะปรับเปลี่ยนอย่างไรบ้าง ก็ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจและลูกค้าของท่าน..แต่ขอยืนยันว่า ต้องเร็ว!
ประเด็นที่สอง...ว่าด้วยเรื่อง "คน..ไม่มีใครหนีพ้นการขาย!"
จะไม่มีใครที่ไม่ต้องเกี่ยวข้องกับการขายอีกแล้ว ไม่ว่าคนของท่านจะทำหน้าที่อะไร ตำแหน่งใดในองค์กร!
หมดยุคฝ่ายบัญชีทำแต่บัญชี ฝ่ายผลิตทำแต่ผลิต และทุกๆ ฝ่าย ที่ใครไม่เกี่ยวกับฝ่ายขายไม่ต้องสนใจในเรื่องการขาย!
เพราะยุคใหม่นี้ ไม่ว่าจะอยู่ส่วนงานใด...ต้องขายเป็น หรืออย่างน้อยต้องช่วยสร้างยอดขายให้กับองค์กร!
เพราะช่องทางการติดต่อของลูกค้าทั้งในเรื่องการขาย การบริการจะมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น จะพึ่งพาฝ่ายขายให้รับและรุกอยู่ฝ่ายเดียว โดยฝ่ายอื่นที่ไม่ใช่ฝ่ายขาย จะถือว่าธุระไม่ใช่ ไม่ยุ่ง ไม่เกี่ยวเหมือนที่ผ่านมา ไม่น่าจะส่งผลดีกับสินค้า-บริการและ Brand รวมไปถึงองค์กรด้วยเช่นกัน
ถ้าทุกฝ่ายช่วยขายไม่ค่อยได้ ก็ต้องช่วยบริการเพื่อให้เกิดยอดขายในระยะยาว รวมถึงการซื้อซ้ำ ซื้อเพิ่ม โดยทุกฝ่ายต้องร่วมด้วยช่วยกัน..ถึงจะรอด!
ประเด็นที่สาม..ประเภทของสินค้า-บริการ
คงจะมีน้อยลงเรื่อยๆ หรือแทบจะสูญพันธ์ไปแล้ว กับสินค้า-บริการ ที่ "ไม่ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน" ที่เทคโนโลยี และ DIGITAL MARKETING เป็นตัวเปลี่ยนเกมการตลาด การขายและช่องทางการจัดจำหน่ายไปจนถึงพฤติกรรมการ เสพ(ข้อมูล) การเสาะ(แสวงหา) และการซื้อของลูกค้ายุคปัจจุบันที่ใช้ชีวิต "ติดจอ"(สมาร์ทโฟน/แทบเล็ต/คอมพิวเตอร์ ) มากกว่าติดจอทีวี หรือติดห้างแบบในอดีต!
สินค้า-บริการ จะเกิดเร็วและตายเร็วกว่าในอดีตหลายสิบเท่า ต้องคิด ต้องปรับต้องสร้าง ต้องพัฒนา สินค้า/บริการใหม่ๆ แทบจะตลอดเวลา เพื่อให้ทันกับ บริบทและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เปลี่ยนไป คาดเดาได้ยาก
ในเรื่องของสินค้า/บริการ และกลยุทธ์การตลาด..จะไม่มี Best Practice หรือ Model สำเร็จรูปที่ประสบความสำเร็จให้ลอกเลียนแบบได้ง่ายเหมือนที่ผ่านมา เพราะการลอกเลียน ทำซ้ำ อาจตกกระแสไปแล้ว!
ประเด็นที่สี่ ..ฝ่ายขายที่ตกยุค จะตกงาน!
ประเด็นนี้ ผมเคยเขียนไปบ้างแล้ว ไว้มีโอกาสจะมาเจาะรายละเอียดเพิ่มนะครับ คร่าวๆ ก็คือ ฝ่ายขายในทุกช่องทาง ที่ยัง "ขายไม่เป็น" ขายแบบโบราณ ขาดทั้งทัศนคติและทักษะแบบมืออาชีพ จะถูกทดแทนด้วยช่องทางขายอื่นๆ ที่ไม่ต้องใช้พนักงานขาย!
ประเด็นที่ห้า.ว่าด้วยเรื่อง ไม่มีหัวหน้า / ไม่มีผู้จัดการ.. มีแต่ Coach!
บรรดา หัวหน้างาน / ผู้จัดการ / ไปจนถึง ผู้บริหารระดับสูงขององค์กร...จะคิดแบบเดิม บริหารลูกน้องแบบเดิม สั่งการ ควบคุม รอผล...รับรองว่าคนของท่านจะสร้างปัญหา(แบบไม่รู้ตัว)มากกว่าสร้างผลงานให้หน่วยงานของท่านแน่
เพราะลูกน้องของท่าน ก็กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่ถ้ายังคงใช้ทักษะแบบเดิมๆ รับมือ...อะไรจะเกิดขึ้น?
ท่านต้องเป็น Coach ให้กับทีมของท่านอย่างเข้มข้นในปี2560นี้ เพื่อหล่อหลอมคนของท่านให้ แกร่งขึ้น เก่งขึ้น และยืดหยุ่นไปพร้อมๆ กัน เพราะธุรกิจของท่านจะไม่ได้แข่งกับคู่แข่งหน้าเดิมๆ ที่พอจะคาดเดาได้...แต่แข่งกับโลกยุคใหม่ที่ Digital Marketing และเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนทุกอย่าง...
อย่าเชื่อสิ่งที่ผมคิดใน 5 เรื่องหลักนี้ ที่ผมคิดว่าจะเป็นปัจจัยให้แทบทุกธุรกิจ แทบทุกองค์กร จะไปรอดหรือไม่รอดในปีหน้านี้..
แต่เชื่อเถอะครับว่า..เตรียมตัวไว้ ถ้าใช่แม้เพียงบางข้อ ธุรกิจของท่านก็จะไปรอดได้
แต่ถ้าติดประมาท... แม้ใช่เพียงบางข้อ แต่ท่านไม่คิด ไม่เตรียม ไม่ทำ...
ก็ขอให้เตรียมทำใจล่วงหน้าในช่วงสิ้นปีนี้ได้เลยครับ!