อาถรรพ์บ้านสีฟ้า

อาถรรพ์บ้านสีฟ้า

เดือนหน้า โดนัลด์ ทรัมป์ จะย้ายเข้า White House ตามกำหนด แต่อีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ผู้นำอีกคนหนึ่ง อาจจะต้องย้ายออกจาก Blue House ก่อนกำหนด

Blue House ไม่เป็นที่รู้จักทั่วโลกเหมือน White House แต่ที่เกาหลีใต้ Blue House มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นบ้านพักของท่านประธานาธิบดีของประเทศ แต่ที่น่าสังเกตก็คือ “บ้านสีฟ้า” หลังนี้ดูเหมือนจะมีอาถรรพ์ เพราะผู้นำหลายคนที่เข้าไปอยู่ที่นั่น ต้องประสบกับเหตุการณ์ที่น่าเศร้าหลายรูปแบบ 

นับตั้งแต่ ประธานาธิบดีคนแรก นาย Syngman Rhee ซึ่งเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อปี 2491 พอถึงปี 2503 เขาก็ถูกนักศึกษาเดินขบวนต่อต้าน จนต้องลาออกจากตำแหน่งและต้องลี้ภัยไปอยู่ที่ฮาวาย จนเสียชีวิตที่นั่น 

ประธานาธิบดีคนต่อมา นาย Yun Bo-seon เป็นประธานาธิบดีหุ่นเชิดได้เพียงปีเดียวเท่านั้น ก็ถูกนาย Park Chung-hee ปฏิวัติยึดอำนาจ และต่อมายังถูกสอบสวนว่ามีกิจกรรมต่อต้านรัฐบาลของนายปาร์ค จุง ฮี อีกด้วย

ส่วนนาย ปาร์ค จุง ฮี เอง ซึ่งเป็นประธานาธิบดีที่ดำรงตำแหน่งนานที่สุดถึง 18 ปี ระหว่าง 2504-2552 แต่แม้เขาจะมีอำนาจและบารมีล้นหลาม ตอนจบเขากลับถูกยิงเสียชีวิต โดยหัวหน้าหน่วย ซีไอเอ ของตนเอง ในระหว่างที่รับประทานอาหารด้วยกัน

จากนั้น ในปี 2523 ประธานาธิบดีคนต่อมาเป็นนายทหารใหญ่ Chun Doo Hwan แต่ในที่สุด เขาก็ถูกประชาชนเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตย จนต้องลาออกเมื่อปี 2531 แล้วก็ผลักดันให้เพื่อนนายทหารด้วยกัน คือนาย Roh Tae-woo ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนต่อมา

แต่บลู เฮ้าส์ ก็ยังคงไว้ซึ่งอาถรรพ์ เพราะต่อมา ทั้งนาย Chun และ นาย Roh ก็ถูกศาลพิพากษาคดีทุจริต นายชุน ถูกพิพากษาประหารชีวิต แต่ลดโทษเป็นจำคุกตลอดชีวิต ส่วนนาย โรห์ ให้จำคุก 22 ปีครึ่ง ลดโทษเหลือ 17 ปี 6 เดือน ประธานาธิบดีทั้งสองคน ต้องจำคุกจริง และได้รับอิสรภาพเมื่อปี 2541
ส่

วน นาย Roh Moo-hyun ซึ่งเข้ามาเป็นประธานาธิบดีในปี 2003 และได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่พยายามทำการเมืองให้สะอาดมากยิ่งขึ้น แต่ในที่สุด เมื่อเขาพ้นตำแหน่งไปในปี 2008 เขากลับถูกสอบสวนข้อหาคอร์รัปชัน และเกิดความเครียดจัด จนในที่สุดนายโรห์ ก็ฆ่าตัวตายด้วยการกระโดดภูเขา

ปี 2556 นาง Park Geun-hye ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีหญิงคนแรกของประเทศ เธอดูดีมาก การเป็นลูกสาวอดีตประธานาธิบดี ปาร์ค จุง ฮี ทำให้เธอมีบารมี แต่ที่ไหนได้ พอเข้ามาได้ไม่นาน เธอก็ต้องเผชิญกับ เรือเซวอลล่ม เด็กนักเรียนเสียชีวิตนับร้อยคน บลู เฮ้าส์ ทำท่าจะเริ่มเฮี้ยนอีกแล้ว

3-4 เดือนที่ผ่านมา เธอเผชิญกับการกดดันอย่างหนัก เพราะมีการเปิดเผยว่าเพื่อนสนิทของเธอ มีอิทธิพลในการตัดสินใจของเธอมาก และยังใช้ความใกล้ชิดกับเธอ ไปในทางทุจริตอีกด้วย ผู้คนทั่วประเทศนับล้าน เดินขบวนกดดันให้เธอลาออก

เมื่อเธอไม่ยอมลาออก จึงมีการลงคะแนนเสียงในสภาฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสภาฯก็มีมติเสียงข้างมาก 234 : 56 เสียง ให้เธอพ้นจากอำนาจประธานาธิบดี และรอเวลาศาลรัฐธรรมนูญตัดสินอีกครั้งหนึ่ง ภายใน 180 วัน

ความจริงบ้านพักของผู้นำอย่างเป็นทางการของไทยเรา คือ “บ้านพิษณุโลก” ตามประวัติก็เฮี้ยนมากเช่นกัน มีเหตุการณ์ต่างๆ เล่าสู่กันฟัง แต่ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีอาถรรพ์ที่โยงไปถึงผู้นำ เหมือนอย่าง บลู เฮ้าส์ ในเกาหลีใต้

จะเป็นเพราะเรื่องราวที่เล่าต่อกันมาหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ทำให้มีนายกรัฐมนตรีไทย ไปพำนักที่บ้านพิษณุโลกเพียงสองคนเท่านั้น และหนึ่งในนั้นก็พักเพียงสองวัน ดังนั้น ผู้นำของเราจึงใช้วิธี “บ้านใครบ้านมัน” ทำให้เราได้ยินชื่อ “สี่เสา เฮ้าส์” บ้าง “มูน....เฮ้าส์” บ้าง “หมอเหล็ง เฮ้าส์” บ้าง เป็นต้น ฯลฯ

เหตุการณ์ที่เกาหลีใต้ ก่อนที่สภาฯจะมีมติให้ นางปาร์ค พ้นจากอำนาจ พรรคฝ่ายค้านยังได้แถลงว่าพบ “ยาเม็ดสีฟ้า” จำนวนหลายร้อยเม็ดอยู่ในทำเนียบสีฟ้า ซึ่งนางปาร์ค ก็ออกมายอมรับว่าเป็นความจริง เพราะทำเนียบประธานาธิบดี เป็นผู้สั่งซื้อเอง เรื่องนี้เป็นข่าวเกรียวกราวไปทั่วโลก เพราะยาเม็ดสีฟ้านั้นมีชื่อว่า “ไวอากร้า”
รัฐบาลบอกว่า ซื้อยานี้มาให้เจ้าหน้าที่ใช้ ในระหว่างติดตามประธานาธิบดี ไปเยือนเอธิโอเปีย ยูกานดา และเคนยา ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1-2 กิโลเมตร เนื่องจากยาไวอากร้า สามารถใช้รักษาอาการป่วยอันเนื่องจากความสูง ได้ด้วย

ประเทศไทยเรา ไม่ได้อยู่สูงจากระดับน้ำทะเลขนาดนั้น ดังนั้น ใครจะนำเหตุผลดังกล่าวมาใช้อ้างในการซื้อไวอากร้า ก็คงทำไม่ได้ ถ้าซื้อมาจริง คงตีความได้เพียงอย่างเดียวว่า ซื้อมาเพื่ออะไร

แต่ถ้าไปค้นหาตามบ้านของผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลาย แล้วไม่พบ “ไวอากร้า” ก็ยังมีโอกาสสูงอยู่เหมือนกันนะครับ ที่จะพบอีกตัวหนึ่ง.....

เขาเรียกกันว่า “ถั่งเช่า” ครับ