โลกเดินไปข้างหน้า แต่ 'เรา' ยังย่ำอยู่กับที่

โลกเดินไปข้างหน้า  แต่ 'เรา' ยังย่ำอยู่กับที่

เมื่อเร็วๆ นี้ ฟินเทค อินโนเวเตอร์ส บริษัทด้านการลงทุนในฟินเทค ที่เกิดจากความร่วมมือ

ระหว่าง H2 Ventures และ KPMG Fintech เผยรายชื่อบริษัทผู้นำด้านฟินเทคของโลกประจำปี 2559 (Fintech 100) ประกอบด้วยการจัดอันดับบริษัทฟินเทคชั้นนำ 50 อันดับแรกทั่วโลก รวมถึงบริษัทฟินเทคดาวรุ่งที่มีนวัตกรรมไอเดียเปลี่ยนเกมธุรกิจในปัจจุบัน 50 ราย ประเด็นที่น่าสนใจ คือ บริษัทจากจีนยังคงครองตลาด มีรายชื่อบริษัทติด 4 ใน 5 อันดับแรกของบริษัทชั้นนำ การจัดอันดับบริษัทฟินเทคชั้นนำ 50 อันดับแรก มีจำนวนประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีเพียง 13 ประเทศมาเป็น 17 ประเทศ หากรวมบริษัทฟินเทคดาวรุ่งแล้วใน 100 อันดับสูงสุด ประกอบด้วยบริษัทที่มาจาก 22 ประเทศ

การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของบริษัทฟินเทครายใหม่ในภาคอุตสาหกรรมย่อย เช่น บริษัทด้าน Regtech หรือ regulatory technology เทคโนโลยีกำกับดูแลควบคู่กับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อความปลอดภัยผู้บริโภคและความมั่นคงของระบบการเงิน เป็นภาคอุตสาหกรรมย่อยหนึ่งของฟินเทคติดอันดับ 9 บริษัทจากรายชื่อ 100 อันดับ ขณะที่ บริษัทที่ให้บริการธุรกิจประกันโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ หรืออินชัวร์เทค ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง ติดอันดับถึง 12 บริษัท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปีก่อนหน้า

Toby Heap ผู้ก่อตั้ง H2 Ventures บอกว่า รายงาน The Fintech 100 ประจำปี 2559 แสดงถึงการแทรกแซงอย่างรวดเร็วของฟินเทคในอุตสาหกรรมการเงินทั่วโลก ด้วยมูลค่าการระดมทุนที่สูงกว่าการระดมทุนที่ผ่านมาทั่วโลกในธุรกิจสตาร์ทอัพ และธุรกิจเงินร่วมลงทุน ที่กำลังสร้างนวัตกรรมทางการเงินและโซลูชั่นใหม่ๆ 

ด้าน Christopher Saunders กรรมการบริหารด้านธุรกิจทางการเงิน เคพีเอ็มจี ประเทศไทย บอกว่า ประเด็นที่น่าสนใจจากรายงานนี้ คือ บริษัท Fintech disruptor หรือบริษัทที่ต้องการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ ต้องการลดความยุ่งยาก และขั้นตอนธุรกรรมทางการเงิน มุ่งนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ “เปลี่ยน” พฤติกรรมของผู้บริโภค เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ชี้ให้เห็นถึงเทคโนโลยีทางการเงินทั่วโลก ที่กำลังปรับรูปแบบของธุรกิจให้ตรงความต้องการผู้บริโภค

หันกลับมามองประเทศไทย ที่รัฐบาลชูนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ชูการสร้างระบบเศรษฐกิจดิจิทัล หรืออะไรอีกมากมายแล้วแต่จะใช้ชื่อเรียก แน่นอนว่าหนึ่งในเครื่องมือขับเคลื่อนสำคัญ คือ ‘เทคโนโลยี’ ที่จะดันให้เราทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ที่วันนี้เทคโนโลยีเข้ามาสร้างความปั่นปวนให้บางอุตสาหกรรม บางธุรกิจบีบให้ต้องปรับตัว 360 องศา การเกิดขึ้นของเหล่าบรรดาสตาร์ทอัพ ที่กลายเป็นหนึ่งในผู้นำไอเดียของเทคโนโลยีใหม่ๆ มาต่อยอดสู่บริการสอดรับไลฟ์สไตล์ยุคดิจิทัล

ที่ผ่านมา การขับเคลื่อนจากภาครัฐ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเรื่องในทำนองนี้ ยังดูไม่ค่อยทันใจ ไม่ทันความเปลี่ยนแปลง กระทรวงที่มีส่วนรับผิดชอบเป็นหน้าเป็นตาอย่างกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเอง ก็ยังดูไม่เข้าที่เข้าทาง แม้แต่รัฐมนตรีว่าการยังไม่มี กฏหมายต่างๆ ที่จะเป็นตัวช่วยผลักดันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ หรือหากเสร็จขึ้นมาก็ยังไม่แน่ว่าจะรับกับเทรนด์เทคโนโลยีได้หรือไม่

นอกจากช้าแล้ว สิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างเข้มข้น คือ เหมาะ ควร รับมือการเปลี่ยนแปลงของโลกไหม