เงินร้อนสหกรณ์คลองจั่น

เงินร้อนสหกรณ์คลองจั่น

ปลายปี 2556 คณะกรรมการประสานงานในการดำเนินคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย

 มีตัวแทนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตัวแทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตัวแทนสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ให้อดีตประธานสหกรณ์ฯ ศุภชัย ศรีศุภอักษร นายลภัส โสมคำ และ น.ส.ศรัณยา มานหมัด ให้ยินยอมขายที่ดิน 1,822 ไร่ ให้กับบริษัท พิษณุโลกเอทานอล จำกัด วงเงินกว่า 477 ล้านบาทเศษ เพื่อชดใช้ในคดียักยอกทรัพย์สินสหกรณ์ฯ

การขาย ให้ปฏิบัติตามมติคณะกรรมการธุรกรรม ปปง. ที่ให้ดำเนินการตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการนำทรัพย์สินออกขายทอดตลาด พ.ศ.2544 โดยอนุโลม

สัญญาขายที่ดิน ให้บริษัท พิษณุโลกเอทานอล จำกัด มี ชนะ อัษฎาธร และณัฐพล อัษฎาธร กรรมการผู้มีอำนาจเป็นตัวแทน รวมวงเงินทั้งสิ้น 477,880,000 บาท

ศุภชัย ได้เงินคืนจากการขายที่ดินถึง 249 ล้านบาท

29 มิ.ย.2558 พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ขณะนั้นเป็นผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 ดีเอสไอ บอกว่า ดีเอสไอ ได้ตรวจสอบเรื่องแล้วและเตรียมส่งให้คณะกรรมการป.ป.ช.ดำเนินคดี

กรณีนี้ น.ส.สุวณา สุวรรณจูฑะ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ (ปัจจุบันเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ) ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกรณีการขายที่ดินดังกล่าว

มีรายงานจากดีเอสไอ ว่า มีข้าราชการคนหนึ่งขอลาออกจากราชการ ขณะที่รู้ตัวว่ากำลังโดนสอบวินัยเรื่องขายทอดตลาดที่ดินสหกรณ์คลองจั่น 447 ล้านบาท และต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษมีคำสั่งไล่ออกจากราชการ

16 พ.ย.2559 พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยว่า ในวันที่ 16 พ.ย.ได้ลงนามในคำสั่งพักราชการข้าราชการดีเอสไอ 2 รายที่ถูกพนักงานสอบสวนสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 แจ้งข้อหาฟอกเงินและร่วมกันฟอกเงิน พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวนความผิดวินัยร้ายแรง โดยมอบหมายให้ผู้เชี่ยวชาญคดีพิเศษ ระดับ 9 เป็นหัวหน้าชุดสอบสวนความผิดทางวินัยร้ายแรง

หลักฐานในการตรวจสอบธุรกรรมการเงินของกลุ่มนายหน้าขายที่ดิน ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น พบว่ามีการหักค่านายหน้าในการขายที่ดิน 60 ล้านบาท เงิน 40 ล้านบาทเชื่อมโยงกับสองสามีภรรยาข้าราชการดีเอสไอ

เรื่องนี้รอการชี้มูลจาก ป.ป.ช.