ชิฟ เวนเจอร์ส 'WIN WIN' นักลงทุน-สตาร์ทอัพ

 โดยเฉพาะ “ภาคธุรกิจ” หันเปิดความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น ทั้งการสนับสนุนนโยบายของภาครัฐอย่างเป็นรูปธรรม การจับมือระหว่างเอกชนและเอกชน การผสานความร่วมมือของรายใหญ่กับรายใหญ่ รายใหญ่และรายเล็ก เพื่อ “ต่อยอด” สร้างเครือข่าย เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างมีศักยภาพ ล่าสุด การรวมตัวของกลุ่มนักธุรกิจในนาม ชิฟ เวนเจอร์ส (Shift Ventures) แหล่งสนับสนุนการลงทุนครบวงจรสำหรับ “สตาร์ทอัพ” ซึ่งกำลังเป็นดาวรุ่งในบทบาท “ความหวังใหม่” ของฟันเฟืองกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่

โดย 3 แกนนำ วรวิสุทธิ์ ภิญโญยาง เคยทำงานกับบริษัทสตาร์ทอัพที่ซิลิคอลวัลเลย์ วิเลิศ อรวรรณวงศ์ มีประสบการณ์ทางด้านซอฟท์แวร์และดิจิทัลเอเจนซี และ กวิณ โอภาสวงการ ทายาท ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ แห่ง เอเชีย พลัส กรุ๊ป การันตีความเชี่ยวชาญในแวดวงนักลงทุนและสนใจธุรกิจสตาร์ทอัพ วางแนวคิด “ชิฟ เวนเจอร์ส” ทำหน้าที่เสมือน “สะพานเชื่อม” ระหว่างนักลงทุนกับบรรดาสตาร์ทอัพสร้างระบบนิเวศหรือซัพพลายเชนของสตาร์ทอัพไทยให้แข็งแรงและมีศักยภาพยิ่งขึ้น ผ่านการสร้างคลับ “จับคู่” ระหว่างมืออาชีพและผู้ประกอบการที่กำลังก้าวสู่มืออาชีพเต็มตัว

ไอเดีย “จับคู่” ไม่ใช่เรื่องใหม่ แนวทางสนับสนุนระหว่างรัฐ-เอกชน หรือ เอกชน-เอกชน ในรูปแบบ “พี่จูงน้อง” มีให้เห็นมาอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “จุดเริ่มต้น” ของแต่ละโปรเจคออกสตาร์ทสร้างภาพอย่างครึกโครม แต่ส่วนใหญ่มองไปไม่ถึง “ปลายทาง” ว่ามีความสำเร็จหรือสัมฤทธิ์ผลหรือไม่อย่างไร การเกิดขึ้นของโปรเจค “ชิฟ เวนเจอร์ส” ถือเป็นจุดตั้งต้นที่น่าสนใจไม่น้อยด้วยแผนการสร้าง "1000x Club"  รวมกลุ่มนักลงทุนรายบุคคลที่สนใจลงทุนเรื่องสตาร์ทอัพ สมาชิกเริ่มต้นล้วนเป็นนักธุรกิจแนวหน้าของวงการ การันตีความเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ, ฤทธิ์ ธีระโกเมน, สุวภา เจริญยิ่ง, อิทธิพัทธ์ พีระเดชาพันธ์, วัชระ แก้วสว่าง, สุนี เสรีภาณุ, สิทธิชัย ลีสวัสดิ์ตระกูล, สุระ คณิตทวีกุล, อดิศักดิ์ สุขุมวิทยา, พชร จิราธิวัฒน์, นพ.วชิระ ลาภบุญทรัพย์, ไตรสรณ์ วรญาณโกศล, วิชัย วนวิทย์

นักลงทุนรายบุคคลเหล่านี้ คือ นักลงทุนกิตติมศักดิ์ ประเดิมควักเงินลงทุนคนละ 1 ล้านดอลลาร์ ประมาณ 35 ล้านบาท ใช้เป็นทุนสำรองสำหรับกระจายการลงทุนในสตาร์ทอัพ สมาชิกเบื้องต้น 30 ราย รวมเงินทุนกว่า 1,000 ล้านบาท โมเดลของ “ชิฟ เวนเจอร์ส”  จัดสตาร์ทอัพไว้ในนาม "Founderhood Club" ซึ่งจะมีการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ เสริมสร้างโอกาสธุรกิจให้สตาร์ทอัพ พร้อมคัดเลือกสตาร์ทอัพมุ่งโฟกัสไปที่ 4 กลุ่มธุรกิจ “ค้าปลีก-อสังหาริมทรัพย์-อาหาร-ท่องเที่ยว” คาดว่าจะเป็นดาวรุ่งที่ได้รับความสนใจลงทุนจากกลุ่มนักลงทุนใน"1000x Club" จะเห็นว่าเป็นการเฟ้นธุรกิจต่อยอดธุรกิจที่มีศักยภาพ

กลุ่มจัดตั้งทั้ง 2 กลุ่ม เลือกเฟ้นและคัดกรองศักยภาพของ “สมาชิก” ที่ผ่านเข้ากลุ่มมาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าเป็นการลดความเสี่ยงต่อความล้มเหลว ในเชิงกลยุทธ์ล้วน WIN WIN ด้วยกันทั้งคู่ นักลงทุน สามารถเลือกต่อยอด ขยายเครือข่ายธุรกิจได้โดยไม่ต้องเริ่มจาก “ศูนย์” ขณะที่สตาร์ทอัพ ได้ทั้งเงินทุน องค์ความรู้ และโอกาสขยับชั้นสู่ธุรกิจยักษ์ใหญ่ได้เร็วขึ้น