ในหลวงผู้ปกปักรักษาชาติให้พ้นภัยคอมมิวนิสต์

ในหลวงผู้ปกปักรักษาชาติให้พ้นภัยคอมมิวนิสต์

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ฯ ทรงเสด็จพระนฤพานได้ร่วมเดือนแล้ว

ประชาชนยังเศร้าโศกและระลึกคุณของพระองค์มิได้สร่าง มีเรื่องให้สดุดีพระคุณของพระองค์มากมาย เรื่องที่ผมจะนำมาเล่าวันนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับความหวาดกลัวที่พระองค์ปัดเป่าทุกข์ภัยให้ทวยราษฎร์ได้อย่างที่บางคนไม่เคยคิดว่าจะเป็นไปได้ นั่นคือเรื่องของการเอาชนะคอมมิวนิสต์ คนรุ่นอายุ40 ปีขึ้นไปล้วนจดจำถึงพระอุตสาหะของพระองค์ได้เป็นอย่างดี ถ้า ธ ไม่ทรงทำเช่นนั้นเพื่อเราแล้ว ประเทศไทยในวันนี้ไม่น่าที่จะปกครองในระบอบประชาธิปไตยอีกต่อไป

คนอายุต่ำกว่า 40 ลงมาอาจสงสัยและคิดว่าคอมมิวนิสต์มีอะไรไม่ดีหรือ ประเทศที่ยังใช้ลัทธิคอมมิวนิสต์ปกครองประเทศอย่างจีนและเวียดนามนั้นมีความเจริญมาก อยู่ดีกินดี ประชาชนมีอิสระเสรีในการใช้ชีวิตเว้นแต่จะไปแตะเรื่องที่เกี่ยวกับการเมืองบางเรื่อง ในทางวิชาการการ หลักคอมมิวนิสต์เป็นแนวคิดช่วยเหลือคนชั้นล่าง ทำเพื่อประชาธิปไตย

แต่ในยุคกึ่งพุทธกาลจนถึงช่วงที่เขมรสามฝ่ายตกลงกันได้ โลกที่มีฝ่ายนิยมคอมมิวนิสต์พยายามแย่งชิงแผ่นดินเพื่อสถาปนาระบอบการปกครองใหม่มิได้สวยเช่นนั้น  ในเอเชีย จีนแดงส่งออกลัทธิเหมา โซเวียตสนับสนุนเงินทุนและอาวุธ มีการตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ในประเทศต่าง ๆ เข้าสู้รบกับรัฐบาลประชาธิปไตย (ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเป็นเผด็จการขวาจัด จะได้รับมือกับเผด็จการแดงจัดสมน้ำสมเนื้อ) ทั้งทางเปิดและทางลับ การสู้รบแบบนี้ไม่มีที่ว่างให้คนไม่เลือกข้างได้ยืน คนที่อยู่ตามไร่นาป่าเขาก็โดนยุทธการแย่งชิงมวลชน มีเจ็บมีตายมีเสียทรัพย์ ไม่ต่างจากทหาร ความทุกข์ยากเช่นนี้ปรากฏทั่วไปในเอเชีย จีนที่เป็นแหล่งปฏิวัติวัฒนธรรมให้เข้มข้นในความเป็นคอมมีคนตายหลายล้าน เวียดนามมีมนุษย์เรือลอยพเนจรไปที่ไหนก็ได้ในโลก กัมพูชาตายอย่างทารุณถึงหนึ่งในสามของประชากรทั้งหมดในเวลาเพียงสามปี ข้าราชการระบอบเก่าของลาวโดนส่งไป”สัมมนา” ที่จำนวนมากกลายเป็นสัมภเวสีที่ไหนไม่รู้ ไม่ได้กลับบ้าน เรียกว่าสูญเสียคนเป็นรุ่น ๆ กว่าจะตั้งหลักได้ก็เกือบเข้าสหัสวรรษใหม่ ไม่กี่ปีมานี้เอง

สถานการณ์ในไทยยุคทศวรรษ 2510 และ 20 ไม่ต่างกับประเทศเพื่อนบ้าน ดูเหมือนจะอาการหนักพอ ๆ กับประเทศอินโดจีน การสู้รบในครึ่งหลังของทศวรรษที่ 10 รุนแรงมาก ฝ่ายเสรีประชาธิปไตยเพลี่ยงพล้ำในหลายสมรภูมิ ปี 2518 ปีเดียว ลาว กัมพูชาและเวียดนาม ล่มสลายกลายเป็นคอมมิวนิสต์ นักวิชาการทั่วโลกชี้เลยว่าไทยต้องเป็นคอมมิวนิสต์ตามไปด้วยเหมือนโดมิโนล้มก็ล้มตามกัน  สภาพแวดล้อมของไทยเป็นแบบนั้นพอดี ฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตยในช่วงปี 16-19 เดินขบวนต่อต้านจักรวรรดินิยมร้อนแรงจนถูกฝ่ายขวาปราบ เข้าป่าไปสมทบกับคอมมิวนิสต์ซะอีก ประเทศชาติวุ่นวาย พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยยึดครองทั้งพื้นที่และจิตใจชนชั้นกลางที่ถูกกดขี่จำนวนมาก

ท่ามกลางความหวาดกลัวของผู้คน โดยเฉพาะคนที่ต้องอยู่กับระบอบปัจจุบัน เช่น ข้าราชการ ทหาร และชาวบ้านที่ต้องทำกินในพื้นที่เสี่ยง มีมหาบุรุษผู้หนึ่งที่พลิกฟื้นสถานการณ์ได้ด้วยวิถีทางของพระองค์เอง พระองค์ไม่ได้เป็นศัตรูกับคอมมิวนิสต์หรือรัฐบาลประเทศเหล่านั้น แต่พระองค์จะเอาชนะความยากจน เพราะรู้ว่านี่เป็นทางเดียวที่ประชาชนของพระองค์จะไม่หันไปหาผู้ที่หลอกลวงพวกเขาว่าจะไปสู่สังคมที่เท่าเทียมด้วยการใช้กำลัง  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศทรงเดินทางไปเยือนพสกนิกรของพระองค์ทุกหัวระแหง แม้แต่ในที่ที่กันดารที่สุด เสี่ยงอันตรายที่สุดทั้งจากธรรมชาติและศัตรูที่มุ่งปองร้าย พระองค์รับรู้ความทุกข์ยากและแก้ปัญหาให้แก่พวกเขาอย่างเป็นรูปธรรมด้วยโครงการพระราชดำริหลายพันโครงการ พลิกฟื้นความยากจนมาได้ รักษามวลชนให้จงรักกับแผ่นดินไทยไว้ได้

กับข้าราชการ ทหารตำรวจและประชาชนที่สู้รบกับนักรบป่าของลัทธิแดง พระองค์มิเคยทอดทิ้ง เพราะทุกคนยอมสละชีพเป็นราชพลี เพื่อในหลวง แผ่นดินและประชาชน แม้แต่ในที่ที่รบกันอย่างเข้มข้น พระองค์ก็เสด็จไปปลอบขวัญคนเหล่านั้น แม้พลาดมาถึงสังเวยชีวิตหรือทุพพลภาพ พระองค์ก็เสด็จไปพระราชทานเพลิงและเยี่ยมในโรงพยาบาล ในเมื่อพระมหากษัตริย์ยอมสละความสุขของราชะเพื่อพวกเขาได้ถึงเพียงนี้ ต่อให้อริราชศัตรูเข้มแข็งกว่านี้อีกร้อยเท่า เราก็ไม่กลัว

ท้ายที่สุด ไทยก็หักปากกาเซียน ฝ่ายคอมมิวนิสต์ไม่เพียงแต่ละทิ้งเจตจำนงเปลี่ยนแปลงการปกครอง ยังทิ้งอาวุธมาเป็นผู้เข้าร่วมพัฒนาชาติไทยด้วยสำนึกในพระกรุณาธิคุณ กองทัพไทยมีกำลังใจดี ต่อมาก็เอาชนะสงครามมืดของกองกำลังต่างชาติที่พยายามยึดเอาภาคอีสานของไทยได้อีก โดมิโนมาตั้งตรงที่ไทย ทำให้ชาติอื่นในอาเซียนไม่ต้องตกเป็นคอมมิวนิสต์ตามไปด้วย ความสำเร็จของการเอาชนะคอมมิวนิสต์ด้วยการเอาชนะความยากจนในหมู่ประชาชนและการปลุกปลอบกำลังใจข้าราชการนี้ต่อมาได้ขยายเป็นความสำเร็จของการพัฒนาประเทศเข้าสู่ยุคใหม่ที่เรืองรองของไทย ทั้งหมดนี้มีที่มาจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชทั้งสิ้น