วิดีโอโฆษณาที่โดนใจ

วิดีโอโฆษณาที่โดนใจ

วิดีโอโฆษณาถือเป็นสื่อดิจิทัลที่เติบโตอย่างมากพร้อมกับความแพร่หลายของการใช้ Youtube และFacebook Video

ทำให้ตอบสนองความต้องการของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี ในที่สุดอาจมาแทนที่หรือเพิ่มสัดส่วนพื้นที่โฆษณาแทนที่โฆษณาทางโทรทัศน์ได้

            เราได้เห็นวิดีโอโฆษณาใหม่ๆ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี  ทั้งการชมผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์และโมบายวิดีโอ โฆษณาก็มีความสร้างสรรค์มากขึ้นเพื่อที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

            รายงานวิจัยของ Yahoo ร่วมกับ Nielsen &Hunter Qualitative ได้สำรวจกับผู้บริโภคกว่า 14,000 รายเกี่ยวกับพฤติกรรมการชมวิโดโอโฆษณาในช่วง ปี2557-2558 พบว่าผู้บริโภคชมวิดีโอโฆษณาผ่านโมบายเพิ่มขึ้น 36%  คอมพิวเตอร์พีซี       เพิ่มขึ้น  7%  และ โทรทัศน์ ลดลง 3%

            ความได้เปรียบของวิดีโอโฆษณาในรูปแบบดิจิทัลมีมากกว่ารูปแบบโทรทัศน์ดั้งเดิมมากแต่ก็มิได้หมายความว่าวิดีโอโฆษณาทุกชิ้นจะได้เปรียบทั้งหมด หากไม่รู้เทคนิคในการสร้างวิดีโอโฆษณาให้โดนใจ

            ลองพิจารณาเทคนิคเหล่านี้ ย้ำอีกครั้งว่าเป็นเทคนิคสำหรับวิดีโอเพื่อโฆษณา

โลโก้ต้องใหญ่และชัดเจน

          เราทราบว่าแนวโน้มการใช้โมบายเพื่อชมวิดีโอโฆษณาได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้นดังนั้นส่วนใหญ่โลโก้จะมีขนาดเล็กเมืออยู่บนโมบาย แต่จริงแล้วโลโก้ขนาดใหญ่จะเพิ่มการรับรู้ในแบรนด์ได้มากกว่าเปรียบเทียบกับโลโก้ขนาดเล็ก

            ดังนั้นอย่ากลัวที่จะใช้โลโก้ขนาดใหญ่ใหญ่พอที่จะดึงดูดความสนใจจากการดูผ่านโมบาย และคิดถึงสมาร์โฟนที่มีจอขนาดเล็กด้วย

            โลโก้ที่เข้าใจง่ายและชัดเจนในการสื่อความหมายก็มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ตัวอย่าง Nintendo Switch ที่ใช้โลโก้ขนาดใหญ่ท้ายวิดีโอทำให้จดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้น (https://youtu.be/f5uik5fgIaI)

ต้องมี Call-to-Action

          วิดีโอโฆษณาควรจะต้องมี Call-to-Action หรือกิจกรรมที่ต้องการให้ผู้ชมดำเนินการในขั้นตอนต่อไปอาจจะเป็นปุ่มลิงค์ ข้อความ หรืออะไรก็ได้ อย่างน้อยมันก็สามารถบอกถึงความสนใจของผู้ชมได้เช่นสนใจอ่านต่อไปสนใจซื้อสินค้า เป็นต้น

            การใช้ Hastag # เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายผู้บริโภคก็สามารถติดตามกิจกรรมหรือเนื้อหาอื่นๆในสื่อสังคมออนไลน์ด้วย Hastag นั้นๆได้

            อย่าลืมใส่ Call-to-Action ให้ทุกวิดีโอโฆษณาของคุณให้คิดเสมอว่ามี Call-to-Action เล็กย่อมดีกว่าไม่มี Call-to-Action เลย

            ตัวอย่าง ซอฟต์แวร์บริหารบริการของ SAP นี้  https://youtu.be/ivoVWeLyTPU) จะเห็นทั้งแบรนด์และ Call-to-Action ที่หลากหลายช่องทางเหมาะกับลูกค้าเป้าหมายประเทศไทยอย่างยิ่ง

แนะนำแบรนด์ตลอดเวลา

โดยทั่วไปแล้ววิดีโอโฆษณาจะมีความยาวที่สั้น ที่ไม่ทำให้ผู้ชมรู้สึกน่าเบื่อและยกเลิกการชมก่อนที่วิดีโอจะจบ ดังนั้นการแนะนำแบรนด์จึงทำได้ยากและจะต้องดูไม่ Hard sell จนเกินไป แนะนำให้มีการแนะนำแบรนด์ 3 ช่วง คือ เริ่มต้น กลางและตอนท้าย การแนะนำแบรนด์อาจจะเป็นโลโก้คำพูดรูปภาพหรือข้อความก็ได้ขึ้นอยู่กับประเภทของเนื้อหาในวิดีโอโฆษณานั้นๆ

 

โทนของวิดีโอโฆษณา

            โทนของวิดีโอโฆษณาก็มีความสำคัญเช่นกันแต่ละโทนก็จะมีผลต่อกลุ่มลูกค้าที่ต่างกันเช่นวิดีโอโฆษณาแนวขำขันก็จะสร้างความจดจำในแบรนด์ได้มากกว่าวิดีโอโฆษณาแนวสาระ ก็จะสร้างการจูงใจให้ซื้อสินค้าได้มากกว่าหรือวิดีโอโฆษณาแนวดราม่า ก็จะสร้างอารมณ์ความรู้สึกที่มีต่อแบรนด์ได้มากกว่า เป็นต้น

 

ลองวิดีโอโฆษณาแนวตั้ง

          การจัดวางรูปแบบวิดีโอโฆษณาก็มีผลต่อการชมด้วยเช่นกัน วิดีโอโฆษณาในแนวตั้งเริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นส่วนใหญ่เราจะเห็นวิดีโอโฆษณาในแนวตั้งผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นต่างๆโดยเฉพาะแอพพลิเคชั่นที่แสดงผลแนวตั้งเท่านั้น

            ดังนั้นอย่าลืมการวางแบบแนวตั้งมันก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของการสร้างสรรค์วิดีโอโฆษณาได้เช่นกันการทดสอบด้วยผลตอบลัพธ์ก็น่าจะเป็นอีกทางออกหนึ่ง

15 วินาที!

            สุดท้ายความยาวของวิดีโอโฆษณาที่ 15 วินาที จะได้รับสนใจจากผู้ชมมากที่สุดโดยเฉพาะการชมวิดีโอโฆษณาผ่านโมบายที่มีความสนใจต่ำกว่าคอมพิวเตอร์และโทรทัศน์

            อย่างไรก็ความยาวของวิดีโอโฆษณาก็ขึ้นอยู่กับโทนของโฆษณาด้วยดังนั้นลองการทดลองที่ความยาวต่างๆก็จะดีที่สุด