ถึงเวลา‘เว็บไซต์’กลับมาเป็นพระเอกอีกครั้ง

ถึงเวลา‘เว็บไซต์’กลับมาเป็นพระเอกอีกครั้ง

มีคนพูดว่ามี “เฟซบุ๊ค”แล้ว ไม่ต้องมีเว็บไซต์ก็ได้ ธุรกิจก็ดำเนินไปได้อย่างปกติดี เว็บไซต์มีแต่ความยุ่งยากและไม่ได้รับความสนใจเท่าไหร่นัก

ดังนั้นถ้าให้เลือกการสร้าง Own Digital Platform เว็บคงไม่ใช่ a must เฉกเช่นเมื่อก่อน ในวันที่ Social Media และ Mobile context เป็นศูนย์กลาง ส่งผลให้มีเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพกว่าเข้ามาแทนที่และก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีด้วยเช่นกัน ทำไมยังต้องพึ่งพาเว็บ เมื่อประสิทธิภาพน้อยลงและข้อจำกัดมีมากขึ้นเหลือเกิน

แต่หลายธุรกิจก็กลับมองต่างกัน ในการลงทุนกับสื่อโซเชียลจำนวนมากเม็ดเงินมหาศาล การเอาชีวิตไปพึ่งพา Social Media หรือ Platform Application ยอดนิยมดูเป็นอะไรที่มีความมั่นคงน้อยลง  

“เฟซบุ๊ค”ที่มียอดไลค์ติดตามจำนวนมหาศาลแต่กลับเข้าถึงผู้คนได้น้อย แถมระบบต่างๆ เหล่านี้มีการปรับปรุงอยู่ตลอดเวลาคาดเดาได้ยาก นั่นเป็นเหตุผลเพียงพอต้องกลับมาสร้างความแข็งแรงของ ช่องทางพื้นฐานอย่างเว็บไซต์ ปรับกลับมาใช้มันได้อย่างมีประสิทธิภาพที่มากขึ้น ซึ่งหลายธุรกิจเริ่มจริงจังและเริ่มเห็นผลลัพธ์ที่ดีกลับมา

สิ่งสำคัญคือการเพิ่มประสิทธิภาพให้การทำงานของตัวเว็บไซต์ดียิ่งขึ้นด้วยการนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความต้องการ ถูกที่ถูกเวลา Right Time , Right Context, และถูกคน

แนวคิดเดิมของการการทำเว็บไซต์คือการ ทำเว็บหนึ่งรูปแบบ ผู้ใช้ทั้งหมดที่เข้ามาจะเห็นเว็บไซต์ในรูปแบบหน้าตาเดียวเป็นแนวคิดแบบเก่า one to millions แต่ด้วยเทคโนโลยีเว็บไซต์ในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่การทำการตลาดด้วยเนื้อหาและต้องการสร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้เป็นรายบุคคล personalize ด้วยการวิเคราะห์แบบเชิงลึก โดยไม่มีเงื่อนไขเรื่องอุปกรณ์ (Devices) ใดๆ ทั้งสิ้น

การทำงานระบบเว็บที่ว่านี้จะเก็บที่มาของการเข้าเว็บไซต์ มาจาก Social Media, มาจากการค้นหาด้วยคำค้นหาอะไร, สนใจเนื้อหาประเภทอะไร, เคยได้อ่านบทความอะไรในครั้งก่อน, เก็บเป็นหมวดหมู่และระยะเวลาในการเยี่ยมชมลึกไปถึง, ช่วงเวลาและอุปกรณ์ที่ใช้ในการเข้าเว็บไซต์ในแต่ละครั้ง หากเป็นลูกค้าอยู่แล้วก็ยังสามารถเยี่ยมโยงข้อมูล ระบบ CRM ยิ่งทำให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้ามากขึ้นในแบบรายบุคคล

การทำรูปแบบนี้ทำให้ประสบการณ์ในการเข้าใช้งานเว็บไซต์จะแตกต่างไปทันที เมื่อทำงานร่วมกับ Digital Asset อื่นๆ นำไปสู่การทำ Marketing Automation ในอนาคตได้เพราะการใช้เทคโนโลยีลักษณะนี้จะทำให้ธุรกิจเข้าใจ Consumer Journeys ซึ่งเป็นหัวใจของการวางกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลในยุคถัดจากนี้

จะเห็นว่าหัวใจสำคัญของการทำ Digital Marketing ยุคถัดไปจะให้ความสำคัญกับการใช้ข้อมูลต่างๆ ในทุกๆ กิจกรรมผนวกรวมกันนำมาวิเคราะห์ในการวางกลยุทธ์การตลาดในแบบรายบุคคล ให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ดีที่สุด ดีต่อตัวลูกค้าและดีต่อธุรกิจเอง