โลกธุรกิจ ที่หมุนเร็ว

โลกธุรกิจ ที่หมุนเร็ว

โลกของธุรกิจยานยนต์ ดูเหมือนจะหมุนเร็วกว่าโลกที่เราอยู่อาศัย

 และไม่ได้หมุนไปในทิศทางเดียว อาจหมุนกลับไปกลับมา การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน สิ่งที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมยานยนต์มีทั้งแข่งขัน เชือดเฉือน และในบางเวลาก็หันมาร่วมมือกัน และก็มีไม่น้อยที่อยู่กันสักพักก็เลิกรากันไป

ถึงวันนี้อาจจะไม่สามารถบอกได้ทั้งหมดว่า ใครกำลังทำอะไรกับใคร แต่เอาเฉพาะที่เป็นข่าวสารปรากฏออกมาก็เห็นได้มากมาย มีการเชื่อมต่อธุรกิจ ต่อยอดสายพันธุ์กันเต็มไปหมดทั่วโลก ทั้งหมดนี้ก็มีเป้าหมายแค่ไม่กี่อย่าง คือ สร้างตลาดใหม่ ปกป้องตัวเองจากคู่แข่ง และลดต้นทุน เป็นต้น 

ในอดีตเมื่อนานมาแล้ว การพัฒนารถแต่ละรุ่นมีต้นทุนที่สูง แต่ละค่ายจะพัฒนาแพลทฟอร์มขึ้นมามากมาย เกือบรุ่นต่อรุ่น หมายถึงหากจำหน่ายรถ 10 รุ่น ก็ต้องพัฒนาแพลทฟอร์ม 10 แพลทฟอร์ม ต่อมาก็เริ่มวิธีลดต้นทุน จำนวนรุ่นเท่าเดิม แต่แพลทฟอร์มอาจจะลดลงเหลือ 5 หรือ 3 หรือ 2 แพลทฟอร์มเท่านั้น

จากนั้นก็เริ่มไปไกลขึ้น เป็นการใช้แพลทฟอร์มข้ามยี่ห้อกัน แต่ละค่ายไม่พยายามทำในสิ่งที่ตนเองไม่ถนัด แต่ใช้การซื้อหรือจ้าง หรือแลกเปลี่ยนกันแทน ดังนั้นรถยนต์ที่อยู่บนท้องถนนทำวันนี้ หากแกะจนเห็นไส้เห็นพุง อาจพบว่ามีต้นกำเนิดที่เดียวกัน

ความเคลื่อนไหวล่าสุด เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัวรถต้นแบบ X-Class pick up อย่างเป็นทางการ หลังจากมีข่าวคราวออกมาก่อนหน้านี้สักพักใหญ่ๆ

เป็นการเข้าสู่ตลาดปิกอัพของเมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นครั้งแรก ซึ่งเข้าใจว่าค่ายรถหรูจากเยอรมนี คงเห็นโอกาสในการทำตลาดในบางพื้นที่ เช่น อเมริกา หรือ แอฟริกา เป็นต้น

แต่สำหรับเมืองไทย โดยส่วนตัวผมว่าคงจะยาก ไม่ใช่เฉพาะแค่ราคา แต่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ในไทยค้ำคออยู่ แต่ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่า รถปิกอัพมีภาพลักษณ์ที่ไม่ดี เพียงแต่ว่าลูกค้ายี่ห้อนี้ไม่น่าจะคุ้น

ก่อนหน้านี้บ้านเรา เคยมีคนลองทำตลาดปิกอัพราคาหรูมาแล้ว คือ โฟล์คสวาเก้น อมาร็อก ที่นำเข้ามาจำหน่ายด้วยค่าตัว 1.8 ล้านบาท แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ

สำหรับ X-Class pick up เป็นการร่วมมือกับนิสสัน หรือจะพูดอีกอย่างว่าให้นิสสันพัฒนาให้จาก รถปิกอัพ นาวาร่า ก็ได้เช่นกัน แต่ว่านี่คือต้นแบบ หน้าตาของรถที่จะจำหน่ายจริง คงต้องรอดูกันปีหน้า แต่ก็เชื่อว่าไม่หนีไปจากที่เห็นมากนัก 

และเมื่อพูดถึงนิสสัน ช่วงนี้ก็ยังมีความเคลื่อนไหวอื่นๆ จากการที่กลุ่มพันธมิตร เรโนลต์-นิสสัน เข้าซื้อหุ้น 24% ในมิตซูบิชิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชัน และซีอีโอ คาร์ลอส โกส์น เตรียมจะเข้านั่งควบซีอีโอเป็นบริษัทที่ 3

จะเห็นได้ว่าการเชื่อมโยงของธุรกิจยานยนต์ปัจจุบันไขวักันไปมามากกมาย และอาจจะไม่จบเพียงเท่านี้ อย่างน้อยก็ยังไม่มีใครรู้ว่า การเข้าไปในมิตซูบิชิ เป็นการถาวร หรือว่ามีสัญญาซ้อนสัญญาอยู่อีกหรือไม่

โลกธุรกิจยานยนต์ ไม่เคยหยุดหมุนจริงๆ