พระผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจ

พระผู้ทรงเป็นแรงบันดาลใจ

Inspiration VS. Motivation ​วันนี้ พวกเราพี่น้องคนไทย คงมีความรู้สึกไม่ต่างกัน

​..เหมือนดวงใจสลาย นาทีที่ได้ยินข่าวที่ไม่อยากฟัง​

​เราต่างรับรู้ได้ ถึงใจที่รวมหลอมเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมกับพี่น้องนับสิบๆล้าน

​ที่ร่วมโศกาอาดูร กับการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่นักหนา เมื่อรับรู้ว่า.. พ่อ เสด็จสวรรคต

​ผ่านมาได้จากวันนั้น... ดิฉันมั่นใจว่าหลายท่านก็ยังมีประสบการณ์คล้ายกัน

​คือ เราต่างมีความกระหายที่เอ่อล้นจนเต็มตื้น อยากลุกยืน เพื่อทำอะไรดีๆ อยากทำอะไรให้ใครๆบ้าง

​ตามทางที่พ่อทำไว้ให้เห็น

​เป็นแรงบันดาลใจ ที่ยากที่ใครที่ไม่เคยสัมผัสจะเข้าใจ

​เราจึงได้ปลาบปลื้ม ตื้นตัน เมื่อเห็นสิ่งที่เป็นปรากฏการณ์ใหม่ในสังคมไทย ที่เราร่วมแรงร่วมใจ ใครมีความรู้ความสามารถใดๆ ต่างนำมาทุ่มเทใช้ แบ่งปันให้กันยามนี้ อย่างเต็มที่ เต็มพลัง เต็มความสามารถ

ไม่ว่าจะเป็นแจกน้ำ ทำโบว์ เก็บขยะ ร้องเพลง ทำอาหาร หรือ นำรถจักรยานยนต์คู่ชีพ มาคอยให้บริการฟรี สำหรับน้องพี่ที่อยากมีโอกาสร่วมถวายความอาลัย

ความดีที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน เปรียบประหนึ่งดวงอาทิตย์ที่ทรงพลัง เปล่งแสงทองเรืองรองสว่างไสว

​ส่องตรง ลงที่ใจ ทำให้ใครๆนับแสนนับล้าน อยากทำอะไรดีๆ

​แบบที่เห็นพระองค์ท่านทรงทำ ทรงนำทาง

ในฐานะวิทยากร หัวข้อหนึ่งที่ดิฉันสนใจ คือ เรื่องผู้นำ กับ “การสร้างแรงบันดาลใจ”

ได้หารือเรื่องเนื้อหากับเพื่อนอาจารย์จากมหาวิทยาลัย Stanford ที่สอนเรื่องเดียวกัน

​เราพบว่าหลายครั้ง ผู้นำมักเสาะแสวงหาหนทาง “สร้างแรงจูงใจ” หรือ “Motivate” ผู้ตาม โดยส่วนใหญ่ มีมุขง่ายๆคล้ายกัน คือ ต้องมีของจูงใจ ล่อใจให้เขาขยับ กระตุ้นให้เขาปรับพฤติกรรม

ไม่ว่าจะเป็นรางวัล หรือผลตอบแทนใดๆ

แต่พบว่า เมื่อใดเงินไม่มี งานอาจไม่เดิน!

เมื่อตัวล่อหายไป พฤติกรรมผู้ตามก็ฟุบฝ่อ ขอกลับไปเป็นดั่งเดิม

​ดิฉันและเพื่อนครู จึงมักคุยกันถึงความแตกต่าง ระหว่าง การสร้างแรงจูงใจ Motivation และ การสร้างแรงบันดาลใจ Inspiration

ซึ่งมีเส้นแบ่งบางๆ แต่ทำให้ 2 ปัจจัย สร้างผลลัพธ์ที่ต่าง ห่างไกลกันได้อย่างยิ่ง เพราะ

​Motivation เน้นการจูงใจ โดยใช้ปัจจัยภายนอก หรือ ที่มหาวิทยาลัย Stanford ให้ชื่อว่า Leading Outside - In

Inspiration เป็นการดึงพลังอลังการจากข้างใน Leading Inside - Out

​ที่สำคัญ แรงบันดาลใจ หลั่งมาเองจากข้างใน ไม่มีใครบังคับได้

หากแค่ล่อหลอกด้วยสิ่งภายนอก ถือเป็นเพียงแค่ “แรงจูงใจ”

หยุดจูง ก็หยุดไป ยื้อกันกลับไปกลับมา

ที่น่าสนใจ “กำลังภายใน” ที่เราต่างมีมากมาย แต่มักไม่ค่อยได้ใช้เต็มที่

สาเหตุหนึ่ง คงเป็นเพราะเรานำออกมาใช้ยังไม่ค่อยเป็น

​แต่มิใช่ว่าเราไม่เคยเห็นมัน

​อาทิ ท่านผู้อ่านคงเคยมีประสบการณ์ที่เมื่อได้ทำอะไรที่ชอบ ที่รัก มักทำได้โดยไม่ต้องพักเหนื่อย ชั่วโมงและนาที ที่เคยเดินเอื่อยๆ กลับเหมือนบินฉิว ปลิวหาย กว่าจะเงยหน้าจากหนังสือเล่มโปรด หรือ สวนขวดที่บรรจงประดิดประดอย เช้าหาย กลายเป็นบ่ายคล้อย ใกล้เย็น

ยามคนเรารู้สึกมีแรงบันดาลใจ เราจะมีพลัง มีความมุ่งมั่น มีความสุขใจได้อย่างน่ามหัศจรรย์

เฉกเช่นในวันนี้ แม้ยามที่เราต่างทุกข์ใจ น้ำตายังไหลริน พี่น้องคนไทยก็ยังมีแรงบันดาลใจ พร้อมลุกขึ้นมาทำภารกิจจิตอาสา

​มิใช่เพราะมีปัจจัยล่อ มิใช่เพราะรอสิ่งตอบแทน

แต่เป็นเพราะพระองค์ท่าน ทรงเป็นแรงบันดาลใจจาก Inside Out

ทรงเป็นต้นแบบให้เรา ว่าการเสียสละอย่างแท้จริงเป็นเช่นไร

ดั่งพระราชดำรัส ที่ว่า

ทำงานกับฉัน ฉันไม่มีอะไรจะให้ นอกจากการมีความสุขร่วมกันในการทำประโยชน์ให้กับผู้อื่น

​เรามาช่วยกันยืนยันกับพระองค์ท่านว่า

​แม้แสงทองที่เคยส่องสว่างไสว..จะลับไป

​แต่ประกายที่พระองค์ทรงจุดไว้ในใจเรา

​จะยังคงเป็นแรง ที่นำให้เราทำสิ่งดีๆต่อ ไม่มีท้อ ไม่มีถอย

​หากทำเช่นนี้ได้..

​น่าจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้เราได้เกิดเป็นข้ารองพระบาท

​ทุกๆชาติ นับต่อแต่นี้ไป..