คิดแบบใหม่กับกิจการดั้งเดิม

คิดแบบใหม่กับกิจการดั้งเดิม

สถาบันเอ็มไอทีได้ให้รางวัลมูลค่าเกือบสี่สิบล้านบาทกับผู้ริเริ่มประกอบกิจการแบบใหม่สี่กิจการ ภายใต้โครงการส่งเสริม

เศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อแสดงให้เห็นทั่วกันว่าสามารถคิดแบบใหม่กับกิจการต่าง ๆที่เคยกระทำอยู่ เพื่อยกระดับคุณค่าของกิจการนั้นให้เพิ่มมากขึ้น โดยที่กิจการดั่งเดิมที่ปรับมาคิดแบบใหม่นี้ส่งผลให้สังคมดีขึ้นอีกด้วย ไม่ใช่แค่การสร้างธุรกิจที่มีกำไรมากๆ เหมือนสมัยก่อนแต่เป็นกิจการที่ใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีดิจิทัล มาดัดแปลงวิธีทำใหม่ และสร้างคุณค่าใหม่ให้กับสังคมพร้อมกันไปด้วย

กิจการแรกที่ได้รางวัลนี้คือ99Degrees Custom ซึ่งเป็นกิจการตัดเย็บเสื้อกีฬาต่าง ๆ ที่ทุกวันนี้เสื้อกีฬายี่ห้อฝรั่งทั้งหลายแหล่ล้วนแต่ต้องย้ายโรงงานมาอยู่แถวเมืองจีนบ้าง ย้ายมาใกล้ ๆบ้านเราบ้าง เพื่อลดต้นทุนการผลิตในการส่งไปขายทั่วโลก แต่99Degrees Customสามารถตั้งโรงงานในเมืองใหญ่ของอเมริกา โดยมีต้นทุนไม่แตกต่างไปจากการย้ายไปผลิตที่ประเทศอื่น 99Degrees Customดำเนินการโดยพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญสูง ทำงานร่วมกับระบบการผลิตโดยหุ่นยนต์ มีการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความเร็วและความคล่องตัวในการผลิตทำให้ผลิตได้ในต้นทุนไม่แตกต่างจากการผลิตจากประเทศที่มีค่าแรงต่ำ 99Degrees Customเป็นตัวอย่างของการคิดแบบใหม่สำหรับกิจการตัดเย็บเสื้อผ้า ซึ่งเดิมเคยถูกย้ายฐานการผลิตไปที่อื่น โดยวิธีการผสมผสานการผลิตด้วยคนร่วมกับหุ่นยนต์

กิจการที่สองคือ Year up ซึ่งทำกิจการฝึกอบรมอาชีพให้กับคนหนุ่มสาวในชุมชนด้อยโอกาส โดยคิดใหม่แตกต่างจาก การฝึกอบรมวิชาชีพที่มุ่งเน้นการแสวงหากำไรจากค่าฝึกอบรมที่มีอยู่ในปัจจุบัน หรือหากเป็นไปเพื่อการช่วยเหลือสังคมก็เป็นการฝึกอาชีพง่าย ๆ ไม่ใช่การฝึกเพื่อให้เป็นผู้ปฏิบัติงานวิชาชีพที่มีความสลับซับซ้อน Year up เริ่มแนวทางใหม่หลังจากที่พบความจริงว่ายังมีคนหนุ่มสาวในชุมชนด้อยโอกาสกว่าหกล้านคนที่ยังไม่มีความรู้ความสามารถเพียงพอที่จะทำงานวิชาชีพที่สลับซับซ้อน เช่นงานทางด้านเทคโนโลยี ในขณะที่มีความต้องการคนที่มีความสามารถระดับนี้ได้อยู่ไม่น้อยกว่ายี่สิบล้านคน Year up จึงทำตัวเป็นคนกลางจับคู่ระหว่างความสามารถที่องค์กรธุรกิจต้องการ กับคนที่เหมาะสำหรับพัฒนาให้มีความสามารถนั้น จากชุมชนด้อยโอกาส คนที่เหมาะสมจะได้รับการฝึกวิชาชีพตามที่องค์กรต้องการภายในระยะเวลาหกเดือน แล้วไปฝึกงานจริงกับองค์กรที่ต้องการคนที่มีความสามารถนั้นอีกหกเดือน

หมายความว่าในเวลาแค่หนึ่งปี คนจากชุมชนด้อยโอกาสนั้นอาจได้ทำงานวิชาชีพในองค์กรชั้นนำหลายองค์กรที่เข้าร่วมมือกับYear up ซึ่งค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรมไม่ได้เรียกเก็บจากคนที่เข้ามาฝึก แต่ได้มาจากการสนับสนุนขององค์กรที่ต้องการคนที่มีความสามารถนั้นในลักษณะของcloud sourcing คือหลาย ๆองค์กรเล็กบ้างใหญ่บ้าง ช่วยกันลงขันคนละเล็กคนละน้อย โดยผลตอบแทนคือจะได้คนทำงานตามที่ต้องการ Year upเป็นตัวอย่างของการคิดแบบใหม่กับกิจการฝึกวิชาชีพที่สลับซับซ้อน ที่เปลี่ยนจากค่าอบรม มาเป็นการสนับสนุนจากองค์กรธุรกิจจำนวนมากๆ สนับสนุนรายละเล็กรายละน้อยเพื่อแลกกับการมีพนักงานที่มีความสามารถตรงกับที่ส่วนรวมต้องการ ซึ่งเหมือนกับกิจการที่สี่ที่ได้รับรางวัล คือLABORATORIA ต่างกันแค่การมุ่งเน้นเฉพาะการสร้างความสามารถในการประกอบอาชีพเขียนโปรแกรมให้กับสาวๆ จากชุมชนด้อยโอกาสในอเมริกาใต้สามสี่ประเทศ LABORATORIA ค้นหาสาวๆ ที่มีศักยภาพมาฝึกเป็นนักเขียนโปรแกรมตามที่องค์กรธุรกิจต้องการ วันนี้กิจการของLABORATORIAกำลังขยายตัวไปในอีกหลายประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้

กิจการที่สี่ คิดเรื่องการบริการสุขภาพใหม่ โดยเปลี่ยนจากการให้การรักษาพยาบาล มาเป็นการรักษาและป้องกันการเจ็บป่วย โดยมีทีมที่ปรึกษาด้านสุขภาพร่วมกันดูแลและให้คำแนะนำการดูแลสุขภาพ คนป่วยหนึ่งคนจะมีทีมที่ปรึกษาที่มีหลายคนช่วยกันดูแล แต่ที่น่าสนใจคือแทนที่จะเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลตามรายการรักษาต่าง ๆ กิจการดูแลสุขภาพที่ชื่อว่าIora เรียกเก็บเงินค่าใช้บริการโดยรวม ทำให้ทีมที่ปรึกษาด้านสุขภาพมีอิสระที่จะเลือกใช้บริการทางการแพทย์ได้ตามความเหมาะสมกับอาการเจ็บป่วยของผู้ป่วยคนนั้น Ioraคิดใหม่ว่าแทนที่จะตั้งรับตอนที่เจ็บป่วยแล้วเข้ามารักษา กลายเป็นมีทีมที่ปรึกษามาช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิดตั้งแต่ก่อนเจ็บป่วย คิดแบบใหม่ในเรื่องการตั้งราคา กลายเป็นราคาเหมาจ่ายแทนที่จะกระจายราคาไปตามรายการที่รับการรักษา

ตัวอย่างที่กล่าวมานี้บอกได้ว่า งานเดิมสามารถคิดแบบใหม่ได้ทั้งนั้น ถ้าไม่ยึดติดมากเกินไป