ทำวีซ่าเกาหลี แก้ปัญหาคนไทยถูกส่งกลับได้หรือ

ทำวีซ่าเกาหลี แก้ปัญหาคนไทยถูกส่งกลับได้หรือ

ปัญหานักท่องเที่ยวจากเมืองไทยไปเกาหลีใต้แต่โดนกักตัวและส่งกลับอย่างเสียทั้งเงินทั้งความรู้สึกนั้นมีมานานแล้ว

นอกจากจะแก้ไขไม่ได้ ทั้งกลับยังรุนแรงขึ้น ที่ปรากฏออกสื่อในยุคนี้มากหน่อย ส่วนหนึ่งเพราะสื่อกระแสหลักหันมาเน้นข่าวดราม่ากระตุ้นอารมณ์ผู้คนจากสื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น คนจึงยิ่งรู้และกล่าวขวัญกันเป็นวงกว้าง ทางแก้ปัญหาคนที่อยากไปเที่ยวจริงๆ แต่โดนส่งกลับอย่างนี้ มีคนจำนวนไม่น้อยเสนอว่าให้เกาหลีบังคับใช้วีซ่ากับคนไทยเพื่อการคัดกรองคนเข้าประเทศในระดับหนึ่ง แต่แนวคิดนี้ไม่น่าจะได้ผลจริงในทางปฏิบัติ ด้วยเหตุผลของธรรมชาติ ต.ม.เกาหลี และวิสัยผู้ค้าแรงงานไทย ทั้งยังกระทบต่อเกียรติภูมิของชาติและโอกาสของนักเดินทางไทยในที่อื่นๆ ทั่วโลกด้วย

เกาหลีใต้เป็นประเทศพัฒนาแล้วที่ยังต้องการแรงงานราคาถูก ในการประคับประคองเศรษฐกิจฐานล่างของตนอย่างมหาศาล แรงงานที่ต้องการมีทั้งในรูปของแรงงานมีทักษะ สามารถทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมได้ หรือแรงงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะใดนอกจากความอึด สามารถทำงานในไร่นาที่ชาวเกาหลีส่วนใหญ่ไม่ทำกันแล้ว  คนที่จะไปค้าแรงงานเกือบทั้งหมดจะไปลงเครื่องที่อินชอน โดยแฝงมากับทัวร์กรุ๊ป เพราะตลาดทัวร์มักเริ่มที่นี่ (ปูซานเมืองอันดับสองพึ่งเปิดตลาดไม่นาน) แล้วกระจายไปโซล ซูวอน หรือล่องใต้ต่อไป ไม่มีใครมาโดดเป็นโรบินฮู้ดที่เกาะเชจู ซึ่งมีน้ำล้อมรอบ เดินทางต่อไปพื้นที่ส่วนอื่นของประเทศไม่ได้

เมื่อดีมานด์สูง ซัพพลายก็ตามมาป้อน แรงงานข้ามชาติเป็นเรื่องของการไหลจากที่ต่ำไปที่สูง ขณะที่คนไทยไม่อยากทำงานระดับล่างในประเทศของตนจนเป็นเหตุให้ต่างด้าวเข้ามาสวมช่องว่างแทนด้วยการรู้เห็นจากเจ้าของกิจการหรืออาจมีหลิ่วตาจากเจ้าหน้าที่รัฐบางคน คนไทยจำนวนไม่น้อยกลับอยากไปค้าแรงงานเกาหลีใต้ที่เงินดีกว่าโดยการสมยอมของเจ้าของกิจการหรืออาจจะเจ้าหน้าที่รัฐบางคนเช่นกัน  ธุรกิจหาคนเฟื่องฟูมาก ในเฟสบุ๊คก็มีชัดแจ้ง ส่วนหนึ่งเข้าไปแล้วก็สร้างปัญหาสังคมให้กับเขา ทัศนคติของคนเกาหลีบางคนจึงมองแรงงานผิดกฎหมายในภาพลบ เลยไปถึงอคติทางเชื้อชาติ จึงไม่แปลกที่ ต.ม.เกาหลีจะจับตามองคนไทยโดยรวมเป็นพิเศษ และพร้อมที่จะตัดสิทธิ์การเข้าเมืองไว้ก่อน ถ้าสงสัยเพียงนิดเดียว

การใช้วีซ่าคัดกรองนั้นไม่รับประกันว่าจะเปลี่ยนทัศนคติของ ต.ม.เกาหลีบางคนได้ แม้จะมีวีซ่า ต.ม.เกาหลียังถือสิทธิคัดกรองเป็นของตัวเอง ต.ม.ชาติตะวันตกก็เช่นกัน แม้จะมีวีซ่าและหลักฐานประกอบอยู่ในมือ ก็ยังมีคนไทยถูกเรียกสอบสวนในห้องเฉพาะมิใช่น้อย การที่จะทำให้คนที่มีอคติเลิกอคตินี้นั้นเป็นเรื่องใหญ่มาก เช่น ต้องส่งเสริมความเข้าใจวัฒนธรรมอย่างจริงจัง ยกระดับประเทศไทยให้เป็นประเทศพัฒนาแล้ว หรือแม้แต่เปลี่ยนการอบรมเลี้ยงดูของคนเกาหลี

ส่วนหนึ่งที่ ต.ม.เกาหลีต้องโหด เพราะการลักลอบเข้าเมืองจะไม่ได้ลดลงแม้จะใช้วีซ่า เพราะฝ่ายคนที่อยากไปค้าแรงงานก็จะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้วีซ่า หลักฐานปลอมหาได้ง่าย แต่ที่สำคัญคือผู้ที่จะไปค้าแรงงานใช้หลักฐานจริงเป็นส่วนใหญ่ พวกเขาไม่กลัวติดแบล็คลิสท์โดยทางการเกาหลี และไม่กลัวคำขู่ที่ปรับเงินจริงไม่ได้ของบริษัททัวร์ พวกเขารู้ว่าว่าสภาพแวดล้อมที่พวกเขาต้องเผชิญหากหลบไปทำงานได้นั้นไม่ได้สวยหรู พวกเขากะจะเก็บเงินรอบเดียวแล้วไม่กลับมาประเทศนี้อีกแล้ว  พวกเขาจึงจะแห่กันไปทำงานที่ประเทศนี้เหมือนเดิม ตราบเท่าที่ยังมีดีมานด์และเงื่อนไขเหมือนเดิม การยุติการค้าแรงงานต้องหยุดยั้งให้จริงจังทั้งที่ไทยและเกาหลีใต้

การยกเว้นการตรวจลงตรานั้นเป็นผลดีต่อประเทศเจ้าบ้านในแง่ของรายรับจากการเดินทางท่องเที่ยว เพราะความง่ายของการเข้าประเทศปลายทางก็เป็นเงื่อนไขแรกของนักท่องเที่ยว  สำหรับประเทศที่ต้องพึ่งพาคนต่างชาติมาอุดหนุนเศรษฐกิจของตนผ่านทางการเข้ามาชมของดีของประเทศนั้น ไทยกับญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างอันดีของการเปิดฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาติเป้าหมาย ถึงแม้ว่าจะไม่สบายใจกับนักท่องเทียวนอกรีตและผู้ลักลอบค้าแรงงานบ้าง แต่รายรับที่เข้าประเทศเยอะกว่าหลายร้อยหลายพันเท่าจึงทำให้ประเทศเหล่านี้คงการฟรีวีซ่าแก่บางชาติต่อไป เกาหลีใต้ก็เช่นกัน วัฒนธรรมเคป็อบของเขามีส่วนในการนำเงินรายได้เข้าสู่ภาคการท่องเที่ยวและขยายต่อจนเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจ ดังที่กล่าวว่าความง่ายของการเข้าประเทศปลายทางเป็นเงื่อนไขแรกของนักท่องเที่ยว ถ้าหากเข้ายาก มีขั้นตอนวุ่นวายไม่สะดวกคนไทยก็จะไม่ไปเที่ยวเกาหลีใต้ คนที่คิดจะไปต้องเสียเงินมากขึ้นและอาจมีทางเลือกน้อยลงในการเดินทาง

การยกเลิกวีซ่าแบบต่างตอบแทนเคยเป็นแนวทางของรัฐบาลสมัยหนึ่งเพื่อเกียรติภูมิของชาติ ขณะที่ไทยให้วีซ่าฟรีหรือ on arrival แก่ประเทศใหญ่และชาติที่พัฒนาแล้ว ไทยกลับไม่ได้เช่นนั้นบ้าง นี่คือการถูกปฏิบัติที่ไม่เท่าเทียม คนไทยสามารถเดินทางโดยไม่ใช้วีซ่าได้แค่สามสิบประเทศ แต่มาเลเซียได้เป็นร้อย นี่คือการถูกมองว่าไม่เท่าเทียม  ในขณะที่ชาติอื่นดำเนินการเพื่อศักดิ์ศรีนี้ ถ้าไทยเราจะจำกัดสิทธิ์ตนเองที่เคยมีอยู่แล้วกับเกาหลีใต้ ก็น่าจะส่งผลถึงการเข้าใจระหว่างประเทศในภาพลักษณ์ของคนไทยด้วย