Shenzhen - Hong Kong Connect …ก้าวใหม่ที่น่าจับตาของตลาดหุ้น

Shenzhen - Hong Kong Connect …ก้าวใหม่ที่น่าจับตาของตลาดหุ้น

Shenzhen - Hong Kong Connect …ก้าวใหม่ที่น่าจับตาของตลาดหุ้นจีน

หลังผลการประชุมธนาคารกลางทั้งญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา ตลาดหุ้นค่อนข้างที่จะตอบรับผลในด้านบวก โดยทั้ง 2 ธนาคารกลางยังคงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิมตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงการลงทุนที่ทั่วโลกต้องจับตากำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ คือ Shenzhen – Hong Kong Stock Connect ที่ทางการจีนอนุมัติแผนการไปเมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ตลาดหุ้นจีนเริ่มกลับมาเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้น เพราะตลาดหุ้น Shenzhen เป็นตลาดหุ้นที่มีมูลค่าตลาดสูงถึงเกือบ 22 ล้านล้านหยวนและเป็นบริษัทจดทะเบียนทางด้านเทคโนโลยีของจีนที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโตที่รวดเร็ว

การเปิด Shenzhen-Hong Kong Connectนั้น เป็นไปตามนโยบายที่ทางการจีนต้องการเปิดเสรีตลาดทุนมากขึ้น โดยโครงการนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และเปิดรับนักลงทุนจากภายนอกให้เข้ามาลงทุนในแผ่นดินใหญ่ได้ง่ายขึ้น (ผ่านการเปิดบัญชีในฮ่องกง) จากที่ก่อนหน้านี้ นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนในจีนแผ่นดินใหญ่จะต้องขออนุมัติโควต้าการซื้อขายหุ้นจากทางการจีน (QFII) ก่อน ซึ่งเมื่อ 2 ปีก่อนทางการจีนก็อนุมัติการเชื่อม Hong Kong – Shanghai Stock Connect มาแล้ว ก็ทำให้ตลาดหุ้นจีนพุ่งขึ้นมาแรงในช่วงเวลาเพียง 8 เดือน

ทั้งนี้ คณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CRSC) คาดว่าจะเปิดซื้อขายหุ้นข้ามตลาดระหว่างตลาดหุ้นเซิ่นเจิ้นกับตลาดหุ้นฮ่องกง (Shenzhen-Hong Kong Connect) ได้ในประมาณเดือนพฤศจิกายน ทำให้ในช่วงระหว่างนี้เริ่มมีเงินลงทุนจากนักลงทุนในจีนออกไปลงทุนในฮ่องกงเพิ่มขึ้น โดยส่วนหนึ่งจากค่าเงินหยวนที่อ่อนค่าลง นักลงทุนในจีนก็พยายามที่กระจายการลงทุนไปต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยในปัจจุบันอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินหยวนอยู่ที่ 6.67 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนกว่าช่วงต้นปีประมาณ 3% และ DB คาดว่าค่าเงินหยวนจะอ่อนค่าลงอีกราว 5% เป็น 7 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนี้

โดยทางการจีนจะจำกัดปริมาณการซื้อขายสุทธิระหว่างวันที่ 1.3 หมื่นล้านหยวนต่อวันสำหรับการซื้อขายจากฮ่องกงไปแผ่นดินใหญ่ (Northbound) และ 1.05 หมื่นล้านหยวนสำหรับการซื้อขายจากแผ่นดินใหญ่ไปฮ่องกง (Southbound) ของทั้ง Shenzhen-Hong Kong Connect และ Hong Kong-Shanghai Stock Connect

การเชื่อม 2 ตลาดนี้ นักวิเคราะห์คาดว่านักลงทุนต่างชาติจะมีการตอบรับที่ดีกว่า Hong Kong-Shanghai Stock Connect เนื่องจากตลาดหุ้นเซิ่นเจิ้นเป็นแหล่งรวมบริษัทในกลุ่มที่กำลังเติบโตได้เร็ว ทั้งเทคโนโลยี ยา และระบบพลังงานสะอาด เช่น บริษัท BYD ที่เป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์เคลื่อนที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก ได้พัฒนาบริษัทมาผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังไฟฟ้ารายใหญ่ของจีน หรือบริษัท Gree Electric Appliances Inc. of Zhuhai ที่เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทแอร์คอนดิชั่นที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการผลิตกว่า 10 ล้านเครื่องต่อปี

สำหรับประโยชน์ในอนาคตของการเชื่อมตลาดหุ้นทั้ง 2 ตลาดของจีนกับตลาดหุ้นฮ่องกงนั้น ย่อมมีผลทำให้ MSCI จะพิจารณานำหุ้นจีนเข้ารวมในการคำนวนดัชนี MSCI Emerging Markets ในการประชุมก่อนเดือนมิถุนายน 2560 ซึ่งดัชนี MSCI Emerging Markets นี้เป็นดัชนีที่ผู้จัดการการลงทุนนิยมใช้ในการอ้างอิงกองทุนรวมที่ลงทุนในตลาดประเทศกำลังพัฒนาที่มีมูลค่าราว 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทำให้เม็ดเงินของการลงทุนทั่วโลกจะมาให้น้ำหนักลงทุนในตลาดหุ้นจีนเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น จากที่ทางการจีนเปิดการเชื่อมตลาดหุ้นระหว่างเซิ่นเจิ้นกับตลาดหุ้นฮ่องกง ย่อมเป็นโอกาสที่น่าสนใจที่นักลงทุนจะกลับมาให้น้ำหนักกับตลาดหุ้นจีนเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงปลายปีที่แล้วตลาดหุ้นจีนปรับตัวลดลงมามาก ทำให้เปิด Upside ในการสร้างกำไรเพิ่มขึ้น และตลาดหุ้นจีน H-shares ยังคงมีราคาถูกกว่า A-shares อยู่ค่อนข้างมาก โดยพิจารณาจากดัชนี AH Premium ที่สะท้อนถึงส่วนต่างราคาระหว่างหุ้นจีนที่มีการซื้อขายในสองตลาด (Dual Listed) หุ้น A-shares แพงกว่า H-shares อยู่ราว 22%

หากท่านใดมีข้อข้องใจเกี่ยวกับการวางแผนการเงินของตนเอง สามารถส่งคำถามของท่านมาได้ที่ [email protected] ครับ