ยกหนึ่งเป็นของฮิลลารี!

ยกหนึ่งเป็นของฮิลลารี!

ดูดีเบทรอบแรก 90 นาทีระหว่างฮิลลารี คลินตันกับโดนัล ทรัมป์

เช้าเมื่อวานแล้ว ผมให้คะแนนเธอชนะคู่แข่งอย่างชัดเจนครับ

โพลหลังการโต้วาทีของซีเอ็นเอ็น บอกว่าคนอเมริกันที่ได้ดูรายการนี้ ให้ฮิลลารี 62% ขณะที่ให้ทรัมป์ 27%

ส่วนตัวผมให้ 65-35%

ยังมีอีกสองยกที่จะต้องเกาะติดกันอย่างเหนียวแน่นต่อไป

ผมติดตามการถ่ายทอดสดตั้งแต่ 8.00 น. เมื่อวานขณะเดินทางไปร่วมอภิปรายเรื่อง สู่สังคมนวัตกรรม ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจากมือถือ และให้คะแนนทั้งสองคนตลอดทาง อีกทั้งยังติดตามที่หลายสำนักในสหรัฐฯตั้งหน่วย Fact-Check ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบว่าทั้งสองคนใครพูดความจริงหรือนำเสนอข้อมูลเท็จบ้าง

บางสำนักบอกว่าจับโกหกทรัมป์ได้ 16 ครั้ง แต่ฮิลลารี 0 ซึ่งก็อาจจะเข้าข้างกันมากไปหน่อย แต่ก็สะท้อนถึงปัญหา ความน่าเชื่อถือในข้อเท็จจริง ของทรัมป์ไม่น้อย

แต่ใครที่ได้ดูการถ่ายทอดสด ก็จะพอจะเห็นว่าฮิลลารีซ้อมการบ้านมาอย่างดี อีกทั้งยังใช้รอยยิ้มของเธอเอาชนะท่าทีลุกลี้ลุกลนของทรัมป์ จนพิธีกรเลสเตอร์ โฮล์ทต้องเตือนเขาสองสามครั้งว่า สองนาทีนี้เป็นของคุณคลินตันครับ

ทรัมป์พยายามแทรกระหว่างที่ฮิลลารีพูด โดยเฉพาะหากเป็นประเด็นที่เธอโจมตีเขา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เขายังไม่ได้เปิดเผย รายละเอียดการเสียภาษีซึ่งเธอบอกว่าทรัมป์ต้องมี “อะไรซ่อนเร้นอยู่” แน่นอน

เขาโต้ว่าถ้าฝ่ายตรวจบัญชีที่เรียกว่า audit ตรวจเสร็จเขาจะเปิดเผยแน่นอน ยิ่งทำให้น่าสงสัยว่าทำไมเขาต้องรอไปอีก ในเมื่อเป็นจุดอ่อนที่ถูกโจมตีมาตลอด

แน่นอนว่าทรัมป์เตรียมาอัดฮิลลารี เรื่องที่เธอใช้เซอร์ฟเวอร์อีเมล์ส่วนตัว ระหว่างที่เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ และเธอก็คงจะรู้ว่าคู่แข่งจะต้องยกเรื่องนี้ มาฟาดฟันเธอระหว่างการดีเบท

กลยุทธของฮิลลารีคือการยอมรับว่า เป็นความผิดพลาดของดิฉันเอง” ทำให้ประเด็นนี้จบลง ทรัมป์ไม่อาจรุกต่อได้

วิเคราะห์สไตล์ของทรัมป์แล้ว น่าสงสัยว่าที่ปรึกษาไม่ได้ฝึกให้เขาวางลีลา ให้เป็นผู้ใหญ่มากกว่าที่เขาแสดงออก

ยิ่งหน้าจอทีวีเห็นหน้าทั้งสองคนระหว่างการอภิปราย ยิ่งตอกย้ำถึงความเป็น เด็ก” ของทรัมป์ที่สั่นหน้า ทำจมูกย่น หน้านิ่วคิ้วขมวด ขณะที่ฟังฮิลลารีแจกแจงว่า ทำไมเขาจึงไม่มีคุณสมบัติพอที่จะเป็นประธานาธิบดี

ทรัมป์พยายามขัดคอด้วยคำวา ไม่จริง ไม่จริง อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งไม่ช่วยให้เกิดภาพทางบวกสำหรับเขาเลย

เพราะฮิลลารีคงได้รับการฝึกระหว่างซ้อมว่าให้ยิ้มกว้างเอาไว้ วางมาดใจเย็น ไม่แทรกระหว่างทรัมป์พูดแม้จะเห็นว่าเขาพูดเรื่องไม่จริง และรักษาอารมณ์ขันไว้ ทำให้เห็นทรัมป์เป็นคนไร้เหตุไร้ผลไปเลย

ภาพสุขุมหนักแน่นที่ออกมาหน้าจอ สร้างคะแนนให้กับเธอมากกว่าคู่แข่ง

ทรัมป์พยายามจะเน้นว่าเขาดูมี พลัง” หรือ stamina มากกว่าฮิลลารี ถ้าเป็นภาษาไทยก็ต้องบอกว่า ฮิลลารีพยายามแสดง “วุฒิภาวะ” ได้ดีกว่าทรัมป์มาก

คนที่เชียร์ทรัมป์คงพยายามจะจับว่าฮิลลารีดูโทรมจากที่ หน้ามืดเป็นลม เมื่อสองสัปดาห์ก่อนหรือเปล่า แต่ถ้าดูภาพทางจอโทรทัศน์ จะเห็นว่าเธอมีสีหน้าท่าทางคล่องแคล่วไม่น้อยไปกว่าทรัมป์เลย เธออายุ 68 เขา 70 แล้ว

ดีเบทรอบสองกำหนดไว้วันที่ 9 ตุลาคมที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน เซ็นต์หลุยส์ ส่วนรอบสามและสุดท้ายจะจัดปลายเดือนตุลาคม ก่อนวันเลือกตั้งไม่เกินสองสัปดาห์ที่ลัส เวกัส

แน่นอนว่าทรัมป์จะต้องไปซ้อมอย่างหนัก เพื่อเรียกคะแนนคืนมาจากฮิลลารี ซึ่งก็ประมาทไม่ได้กับอารมณ์ และความคาดหวังของผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียง ณ วันที่ 8 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้

สำหรับมวยเอกคู่นี้ ชนะคะแนนยังไม่ดีพอ ต้องน๊อคคู่ต่อสู้เท่านั้น!