อุดมเดช VS สุรเชษฐ์

อุดมเดช VS สุรเชษฐ์

แม้ว่าล่าสุดน้ำหนักของผู้ที่จะรับตำแหน่ง ครม.ส่วนหน้า หรือ “รัฐมนตรีดับไฟใต้"

จะตกไปอยู่ที่ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และว่ากันว่าปรากฎชื่อชัดเจนเป็นที่เรียบร้อยอยู่ในหนังสือที่ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ ตั้งแท่นรอท่านนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาลงนาม

000  แต่ก็ยังคงมีเสียงคัดค้านวงในเอง ว่าคนที่เหมาะสมมากกว่าในสถานการณ์นี้อาจจะเป็น พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รมช.ศึกษาธิการ... เพราะนโยบายแก้ปัญหาชายแดนภาคใต้ขณะนี้ เน้นไปที่การสร้างเศรษฐกิจ การเข้าถึงมวลชน รวมไปถึงการแก้ไขปัญหาโรงเรียนปอเนาะ และโรงเรียนตาฎีกา บางแห่ง ที่อาจมีผลต่อการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างรัฐกับชาวบ้านในพื้นที่  

000 ขณะที่สเปกของนายทหารทั้ง 2 คน แตกต่างชัดเจน และเสมือนเป็นการชี้ชัดฟันธงว่านโยบายภาคใต้จากนี้ไปจะเป็นอย่างไร ในขณะที่ พล.อ.สุรเชษฐ์ ลงพื้นที่ภาคใต้ต่อเนื่องเพื่อดูแลด้านการศึกษา และการทำมวลชน แต่ พล.อ.อุดมเดช ก็จะได้ภาพของทหาร” ที่ถูกส่งตรงไปจากกระทรวงกลาโหม... ทั้งยังถูกตั้งคำถามด้วยว่าเคยนั่งเป็น ผบ.ทบ.มาก่อน แต่ก็ไม่ปรากฎผลงานแก้ปัญหาภาคใต้ให้เห็นเป็นรูปธรรม

000  อย่างไรก็ตามการตัดสินใจครั้งสุดท้าย...อยู่ที่ท่านนายกฯ ว่าจะเลือกใช้งานใคร และต้องการคุณสมบัติเช้นในในสถานการณ์นี้ และนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ เพื่อพิสูจน์ว่า 35 ปี 11 คณะทำงานที่ผ่านมา...ครั้งนี้จะเป็นคำตอบสุดท้า่ย”  

000 ส่วนกรณี ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ร้องป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ทั้งกรณีลูก-เมีย นั้น พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. บอกว่าเมื่อมีการร้องก็ต้องมีการตรวจสอบ ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริง และระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน

000 เมื่อถูกถามว่าเรื่องที่สังคมสนใจเช่นนี้ ป.ป.ช.จะเร่งรัดให้ดำเนินการหรือไม่ ได้คำตอบว่าต้องดำเนินการไปตามขั้นตอน และยังบอกไม่ได้ว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อไหร่... บอกแต่เพียงว่ามีนโยบายเร่งรัดเรื่องค้างเก่ากว่า 2 พันเรื่องให้เสร็จภายใน 2 ปีข้างหน้า... ก็เลยไม่รู้ว่าเรื่องค้างใหม่จะไปจบเอาเมื่อไหร่ !!!

 ..................................

อัชชาวดี [email protected]