คิดได้ใต้ฝักบัว

ที่จะเกิดขึ้นในแต่ละวันนั้น สามารถเริ่มต้นง่ายๆ จากอารมณ์และกิจกรรมที่เราทำในช่วงเช้าเลยครับ ลองมาดูกันนะครับว่าทำอย่างไรถึงทำให้แต่ละวันมีความสุขและความสำเร็จในการทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งเล็กๆ ที่เราอาจจะมองข้ามไปครับ

เริ่มจากเริ่มต้นแต่ละวันด้วยอารมณ์ที่ดี มีงานวิจัยจาก Ohio State University ที่พบว่าอารมณ์ของพนักงานในตอนเช้าส่งผลต่ออารมณ์ที่พนักงานคนนั้นจะมีตลอดทั้งวัน และยังสงผลต่อมุมมองของพนักงานต่อลูกค้า และปฏิกริยาที่พนักงานมีต่อลูกค้าไปตลอดทั้งวันด้วย ดังนั้นถ้าในช่วงเช้าเราสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ให้เรามีอารมณ์ที่ดีได้ ก็สามารถที่จะส่งผลต่ออารมณ์ของเราตลอดทั้งวัน และยังส่งผลต่อมุมมองและปฏิสัมพันธ์ที่เรามีต่อบุคคลรอบข้างอีกด้วยนะ

เมื่อเรามีความสุขแล้วคำถามต่อไป คือทำอย่างไรจะทำให้เราสามารถคิดสิ่งต่างๆ ได้? มีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ Imagine: How Creativity Works ที่ระบุไว้ว่าเราจะมีความคิดสร้างสรรค์เมื่อเรารู้สึกผ่อนคลาย เมื่อสมองเรารู้สึกผ่อนคลายแล้ว จะทำให้มีการใช้งานสมองข้างชวามากขึ้น ซึ่งคำถามที่สำคัญต่อมาคือในช่วงไหนที่เรานั้นจะผ่อนคลายที่สุด?

คำตอบอาจจะดูแปลก แต่ก็เป็นความจริงที่หลายๆ ท่านอาจจะมองข้ามไปนะครับ นั้นคือระหว่างที่เราอาบน้ำครับ (ที่สำคัญต้องเป็นการอาบน้ำจากฝักบัวด้วยนะครับ ไม่ใช่อาบในอ่าง) จากหนังสือชื่อWired to Create ผู้เขียนได้ระบุไว้เลยครับ ว่าร้อยละ 72 ของคน จะมีความคิดหรือไอเดียใหม่ๆ เกิดขึ้นระหว่างการอาบน้ำ (ฝักบัว)

ท่านผู้อ่านเคยเกิดความรู้สึกไหมครับว่าเมื่อมีน้ำอุ่นๆ ไหลลงมาจากฝักบัวมากระทบตัวเรา อยู่ดีๆ หลายๆ เรื่อง หลายๆ ความคิดที่อยู่ในสมองเราก็จะกระจ่างขึ้นมา เหมือนกับว่าช่วงที่เราอาบน้ำเป็นช่วงที่เราผ่อนคลาย ไม่คิด หมกมุ่นเรื่องงานต่างๆ ดังนั้นการที่เราลืมสิ่งที่เรากำลังคิด และทำให้สมองผ่อนคลายกลับกลายเป็นการกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ของเราขึ้นมา ผมเองก็มีประสบการณ์คิดได้ใต้ฝักบัวมาหลายเรื่องครับ จำได้ว่าตอนที่ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกนั้น หลายๆ เรื่องที่คิดเท่าไรก็คิดไม่ออก ก็มาคิดได้สำเร็จใต้ฝักบัวนี้แหละครับ

หลังจากตื่นเช้ามา หากิจกรรมที่ทำให้อารมณ์ดี และ อาบน้ำใต้ฝักบัวแล้ว เราก็จะเริ่มคิดตั้งเป้าหมายแล้วว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง อย่างไรก็ดีเป้าที่เราตั้งไว้ตอนเช้าก็ใช่ว่าจะสามารถทำได้สำเร็จทันที ซึ่งคราวนี้ปัญหาก็จะเกิดขึ้นกับเป้าที่ยังทำไม่สำเร็จครับ เพราะสมองเราก็จะทำหน้าที่เหมือน app ชั้นดี ที่จะขึ้น notification มาก่อกวนจิตใจเราตลอดเวลา ว่ายังมีเป้าหรือแผนอะไรที่ยังทำไม่สำเร็จบ้าง (มีบทความใน Journal of Experimental Social Psychology ที่ระบุว่าการมีเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่ยังไม่บรรลุ จะส่งผลการทำงานอื่นๆ) ทำให้เรามีความรู้สึกทั้งกังวล กระวนกระวาย และส่งผลต่อการทำงานไปตลอดทั้งวัน

ดังนั้นวิธีการที่ดีที่สุดคือการจดครับ ผมเองพบว่าเมื่อจดในสิ่งที่วางแผนไว้ว่าจะทำ (ถึงแม้ยังไม่ได้ทำ) จะเป็นการทำให้สมองเราโล่งขึ้นมา และเจ้า notification ที่เคยมีก็จะหายไปครับ ทำให้สมองเราโล่งและพร้อมที่จะทำงานต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ เนื่องจากจดสิ่งที่ต้องทำลงไปนั้นก็จะเป็นการแจ้งสมองเราว่าเราได้ปิดงานแล้ว ความกังวล กระวนกระวายก็จะหายไป สมองเราก็จะโล่งขึ้น แต่ไม่ใช่ว่าจดแล้วเอาไปทิ้งนะครับ จดแล้วเมื่อถึงเวลาและโอกาสก็ต้องหยิบขึ้นมาทำด้วยนะครับ

สรุปง่ายๆ นะครับว่าตื่นเช้ามาอยากจะให้แต่ละวันมีความสุขความสำเร็จในการทำงานก็อย่าลืมหากิจกรรมที่ทำให้เราอารมณ์ดีในตอนเช้า อาบน้ำใต้ฝักบัว และ จดในสิ่งที่คิดนะครับ 

ป.ล. บทความนี้ผมก็คิดออกมาได้ใต้ฝักบัวเหมือนกันครับ