ค่าเสียหายจำนำข้าว เผือกร้อน'ประยุทธ์'

ค่าเสียหายจำนำข้าว เผือกร้อน'ประยุทธ์'

พลันที่นายมนัส แจ่มเวหา อธิบดีกรมบัญชีกลาง

 ในฐานะประธานคณะกรรมการความรับผิดทางแพ่ง กระทรวงการคลัง ออกมาแถลงผลการสอบสวน ความรับผิดโครงการจำนำข้าว ให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหม คิดเป็นวงเงินเพียง 3.5 หมื่นล้านบาท

 เผือกร้อนจะถูกโยนกลับไปที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอีกครั้ง

ด้วยเหตุยังมีข้อแตกต่างในข้อคิดเห็นที่มากเกินไป ระหว่างคณะกรรมการสอบสวนเบื้องต้นชุด จิรชัย มูลทองโร่ย ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ที่วางตัวเลขถึง 2.86 แสนล้าน แต่คณะกรรมการของคลังกลับคิดเพียง 3 โครงการเหลือเพียง 1.7 แสนล้านบาทและให้นางสาวยิ่งลักษณ์รับผิดชอบแค่ 20%

พร้อมกับมีข้อสังเกตวิธีการคำนวน ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินหรือสตง. ส่งไปถึงมือนายกฯแล้ว

ประเด็นที่คณะกรรมการชุดมนัส อาจะละเลยไปมีหลายประการ กรณีการเรียกค่าเสียหายเต็มจำนวน ถ้าฝ่ายต้องชดใช้ฟ้องศาลปกครอง ซึ่งศาลอาจวินิจฉัยว่าผู้ชดใช้ต้องรับผิดเพียงบางส่วนก็ได้ ศาลไม่ได้ยกฟ้องเลย อาจไม่เป็นตามความเห็นของมนัสก็ได้ที่แถลงทำนองศาลยกฟ้อง รัฐเสียหายไม่ได้อะไรเลย

ถัดมาตามมาตรา 8 วรรคท้าย พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่ ปี 2539 บัญญัติว่า กรณีที่การละเมิดเกิดจากเจ้าหน้าที่หลายคน มิให้นำหลักเรื่องลูกหนี้ร่วมมาใช้บังคับ และเจ้าหน้าที่แต่ละคนต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทน เฉพาะส่วนของตนเท่านั้น เห็นได้จากกรณีจีทูจีเก๊

ที่ต่างคนต่างมีหน้าที่ทำตามอำนาจหน้าที่ของตนเอง

กรณีจำนำข้าว นางสาวยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้บริหารสูงสุด ทั้งเป็นนายกรัฐมนตรีและประธานคณะกรรมการนโยบายข้าว ถูกกล่าวหาว่า ปล่อยปละละเลยไม่ระงับยับยั้งโครงการจำนำข้าว ปล่อยให้โครงการดำเนินต่อไปจนรัฐเสียหาย การวินิจฉัยว่าก่อให้เกิดความเสียหาย  2-3 โครงการ ก็เป็นเหตุเป็นผล โครงการแรก โครงการสองอาจยังไม่ทราบ ้

แต่กรณี 20 %ที่มาที่อธิบายความยังไม่ชัดเจนมากนัก มีกฎระเบียบกฎหมายรองรับหรือไม่ หรือเพียงคิดและทำตามกันมา  ต้องไม่ลืมว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐผู้ใด มีอำนาจ เทียบเท่าอดีตนายกฯที่ไม่ระงับยับยั้งโครงการ จึงเป็นผู้ร่วมทำละเมิด ที่จะมีผลให้อดีตนายกฯรับเพียง 20 % 

ที่สำคัญหากอดีตนายกฯรับ 20 % มีผู้ที่ทำละเมิดร่วมมีกี่คน มีการกระทำอย่างไรที่เป็นการละเมิด มีระดับความร้ายแรงเพียงใด หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ระดับล่าง มีอำนาจในการยับยั้งหรือไม่ และต้องไม่ลืมว่าระหว่างการดำเนินโครงการมีการเสนอให้ลดราคาจำนำลง แต่ในที่สุดก็ตัดสินให้กลับไปรับจำนำราคาเดิม

การดำเนินการโครงการต่อไปทั้งที่มีข้อทักท้วง จากหน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง จนเกิดความเสียหาย ใช่ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง หรือไม่ 

หลังจากเผือกร้อนนี้โยนกลับไปที่นายกฯ เพราะความเห็นและตัวเลขที่ต่างกันมากเกินไป นายกฯอาจขอให้คณะกรรมการทบทวนใหม่หรืออาจให้หาตัวผู้ชดใช้ร่วม

ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องตอบกับสาธารณะให้ได้ ใครต้องรับชดใช้ความเสียหายส่วนที่เหลือ