Smart SMEs ต้องอ่านหนังสือ!

Smart SMEs ต้องอ่านหนังสือ!

ผมมีโอกาสเดินทางไปเมืองพอร์ตแลนด์ รัฐออริกอน สหรัฐอเมริกา ตั้งใจไว้นานแล้วว่า จะไปสัมผัสกับร้านหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ชื่อ Powell's

ผมใช้เวลาเกือบทั้งวันอยู่ที่ร้านหนังสือนี้ จึงอยากนำเสนอรายละเอียดที่น่าสนใจ เพื่อให้ท่านผู้ประกอบการ SME ที่ทำธุรกิจกิจร้านหนังสือบ้านเราได้เป็นไอเดียในการปรับปรุงกิจการ และอยากให้ท่านผู้ประกอบการ SME ได้หันมาสนใจอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มพูนความรู้ที่เป็นประโยชน์ในการทำธุรกิจที่มีวิทยาการใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย

ร้านหนังสือ“พาวส์” (Powell’s) เป็นร้านหนังสือมือสอง ที่ขายหนังสือใหม่ด้วย ตั้งอยู่ในตึก 3 ชั้น อยู่บนพื้นที่ 4 มุมถนน ใจกลางเมืองพอร์ตแลนด์ การตกแต่ง การจัดวางหนังสือมีความเป็นเอกลักษณ์ โดยวางหนังสือแต่ละประเภทไว้ในห้องที่ทาสีต่างกัน เรียกชื่อห้องตามชื่อสีนั้น เช่น ห้องสีทอง ห้องสีแสด  แต่ละห้องจะมีหนังสือที่แยกประเภทเป็นหมวดหมู่ สะดวกต่อการค้นหา เช่น ห้องสีชมพู เป็นห้องเกี่ยวกับหนังสือธรรมชาติวิทยา ห้องสีแดง เป็นห้องหนังสือเกี่ยวกับการท่องเที่ยว และหนังสือต่างประเทศ ในห้องนี้มีชั้นหนังสือไทยมือสองด้วย

ร้านแห่งนี้มีจุดกำเนิดที่เมืองชิคาโก โดยหนุ่มนักศึกษาปริญญาโท ชื่อ Michael Powell ที่ยืมเงินเพื่อนๆ จำนวน 3,000 เหรียญ เปิดร้านหนังสือเล็กๆ ตามความฝันของตัวเอง เมื่อแรกเริ่มเปิดร้านปรากฏว่า ขายดีมาก จนสามารถใช้หนี้เพื่อนได้ในเวลาเพียงสองเดือน โดยพ่อของ Michael ที่เกษียณแล้วมาช่วยขาย แล้วนำแนวคิดมาเปิดร้านที่เมืองพอร์ตแลนด์ ในปี ค.ศ.1971 เมื่อกิจการดีขึ้นขยายสาขาเล็กๆ ออกไปอีก 6 สาขา ทั่วเมืองพอร์ตแลนด์ ที่น่าสนใจคือการคงเอกลักษณ์ของร้านที่จำกัดอยู่เพียงไม่กี่สาขา และเปิดเว็บไซต์ขายหนังสือมือสอง ตั้งแต่ปี ค.ศ.1994 ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ทันสมัยมาก

ภายในร้าน มีร้านกาแฟที่มีลูกค้ามาเข้าคิวซื้อ ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ เป็นแหล่งนัดพบแลกเปลี่ยนความรู้ การจัดร้านที่มีเอกลักษณ์ของตนเอง มีมนต์สะกดให้อยู่นานแตกต่างจากร้าน Barnes & Noble หรือ Borders ที่มีสาขาอยู่เป็นจำนวนมาก ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่คนทั่วโลกต้องแวะมาเยือนเมื่อมาเที่ยวเมืองปลอดภาษีแห่งนี้ 

Powell's Book ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านหนังสือ แต่ยังเป็นแลนด์มาร์คของนักอ่านทั่วประเทศ เป็นตัวแทนจัดงานเปิดตัวนักเขียนมามากกว่า 500 ท่าน เป็นศูนย์รวมนิทานและจินตนาการสำหรับเด็ก แหล่งเวิร์คชอป สำหรับนักเขียน เกมเมอร์ เป็นที่รวมตัวของชมรมและสมาคมหนังสือต่างๆ เป็นแหล่งให้บริการด้านหนังสือกับคนรักการอ่านจากทั่วโลก ผ่านทางเว็บไซต์ ในแง่ของการค้นคว้า การขายหนังสือทางออนไลน์ ทั้งยังมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างโอกาสพัฒนาสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะการสรรหาหนังสือใหม่ๆ มาบริการลูกค้าอยู่เสมอ

ปัจจุบันคนอเมริกัน อ่านหนังสือ 1-5 เล่ม ต่อปี 25%, 6-10 เล่มต่อปี 15%, 11-50 เล่มต่อปี 20% และอ่านหนังสือมากกว่า 50 เล่มต่อปี 8% อ่านหนังสือแบบเล่ม 50% อ่านผ่าน E-book 19% ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่า คนยังนิยมอ่านหนังสือแบบเล่มอยู่อีกเยอะมาก ทำให้ Amazon หันมาเปิดร้านขายหนังสือแบบเป็นร้านจริงๆ ในเมืองซีแอตเทิล เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว และมีแผนจะขยายขึ้นเป็นร้อยๆ สาขา 

Sandeep Mathrani ซีอีโอของ General Growth Properties (GGP) บริษัทเจ้าของห้างสรรพสินค้าหลายแห่งในสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า Amazon มีแผนจะเปิดร้านขายหนังสือถึง 400 สาขา และจะเป็นคู่แข่งสำคัญของ Barnes & Noble ที่มีร้านขายหนังสือถึง 640 สาขา The Washington Post เปิดเผยว่า แม้เราจะอยู่ในยุคที่ E-book กำลังเฟื่องฟู และธุรกิจสื่อแบบดั้งเดิม กำลังค่อยๆ หายไป แต่ว่าร้านหนังสือมือสองในสหรัฐ กลับได้รับความนิยม ผู้คนส่วนหนึ่งยังหลงใหลหนังสือเก่าและบรรยากาศของร้านหนังสือ มีปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้คนยังเข้าร้านหนังสือมือสอง เช่น การเข้าสู่ยุคของ Baby Boom Generation การสวนกระแส Digital ของคนบางกลุ่ม รวมถึงความต้องการสถานที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมของชุมชน เป็นต้น 

ตอนต่อไปผมจะนำเสนอว่า ทำไม SME ที่จะอยู่รอดได้ต้องอ่านหนังสือ และธุรกิจร้านหนังสือบ้านเราจะปรับตัวอย่างไรเพื่อความอยู่รอดครับ