หลังผิงเบื้องหลังบุคคลแห่งโอลิมปิค

หลังผิงเบื้องหลังบุคคลแห่งโอลิมปิค

เธอมีความสามารถสุดยอดในการตอบสนองอย่างรวดเร็วจากความเปลี่ยนแปลงทุกลมหายใจในสนาม เผชิญกับความบาดเจ็บ

ศัตรูที่แข็งแกร่ง เรียกร้องตลอดมาให้ลูกทีมวอลเลย์บอลหญิงกับตนเองใช้ท่าทีของผู้แข็งแกร่งแสดงให้ชาวโลกได้รู้ เธอเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งประวัติศาสตร์วอลเลย์บอลหญิงจีน เป็น “หนึ่งในนักตบผู้ยิ่งใหญ่” ในทศวรรษ 1980 ของวงการวอลเลย์บอลหญิงของโลก เธอคือผู้ที่ถูกขนานนามว่าไอ้หัวค้อนเหล็ก--หลังผิง แต่เกียรติยศอันเจิดจรัสมีประวัติอันน่าขมขื่นที่นับไม่ถ้วน

เธอคือ หลังผิง (郎平) ฉายานาม ไอ้ค้อนเหล็ก” สัญชาติจีน ชนชาติฮั่น เกิดที่เทียนจิน เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 1960 น้ำหนัก 71 กก. สูง 184 ซม. จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโก สหรัฐอเมริกา ลักษณะเด่นในอาชีพ คือ โด่งดังจากการเป็นผู้เล่นหมายเลข 4 ที่เป็นนักตบผู้ทำคะแนนสูงสุด

เธอได้รับคัดเลือกเข้าในกลุ่มเข้ารับการฝึกอบรมของทีมชาติในปี 1978 เข้าร่วมการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลกครั้งที่ 3 ในปี 1981 และ ร่วมมือกับผู้เล่นในทีมจนได้รับรางวัลชนะเลิศ นี่ไม่เป็นเพียงครั้งแรกที่ทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนได้ชนะเลิศระดับโลกเป็นครั้งแรก แต่ยังเป็นการชนะเลิศระดับโลกครั้งแรกของ 1 ใน 3 กีฬาบอลที่สำคัญของจีน ในครั้งนั้น หลังผิงได้ตำแหน่งนักกีฬายอดเยี่ยมประจำการแข่งขัน

ในปี 1985 หลังผิงลาออกอย่างเป็นทางการภายหลังการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก หลังจากนั้นเธอแต่งงานกับนักวอลเลย์บอลชาย ชื่อ ไป่ฝาน (白帆) แห่งทีม ปาอี ในปี 1987 โดยจัดงานแต่งงานที่โรงแรมปักกิ่ง ทั้งคู่เดินทางต่อไปที่ซานฟรานซิสโก และจัดตั้ง “มูลนิธิเพื่อการศึกษาของจีีนใหม่ โดยบริจาคทุนการศึกษาให้ส่วนหนึ่ง ส่วนเธอกับสามีก็ศึกษาต่อในสหรัฐอเมริกาด้วยทุนส่วนตัวและให้กำเนิดลูกสาวชื่อ ไป่ลั่งลั่ง (白浪浪) แม้ว่าก่อนไปสหรัฐอเมริกา หลังผิงจะมีเงินเก็บระดับหนึ่ง แต่ก็ใช้ไปมากในการแต่งงาน ชีวิตคู่ในสหรัฐอเมริกาจึงเป็นไปอย่างกระเบียดกระเสียน ด้วยเงื่อนไขของวีซ่านักเรียน หลังผิงไม่สามารถทำงานนอกมหาวิทยาลัยได้ นอกเหนือไปจากการเป็นโค้ชให้แก่ทีมวอลเลย์บอลหญิงของมหาวิทยาลัยนิวเม็กซิโกจนได้แชมป์ภาคตะวันออกในปี 1991

ในปี 1995 ทีมวอลเลย์บอลหญิงอยู่ในสภาพตกต่ำถึงขีดสุด หลังผิงได้รับคำสั่งให้กลับประเทศภายใต้ภาวะวิกฤตเช่นนี้ให้เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีน เธอทิ้งครอบครัว ทิ้งลูกสาวกลับปักกิ่งเพียงคนเดียว 

หลังผิงตัดสินใจหย่ากับสามีอย่างเป็นทางการที่สหรัฐอเมริกาในปี 1996 เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่ครอบครัวแยกกันอยู่ และได้รับรางวัลผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงยอดเยี่ยมประจำปี 1996 จากสหพันธ์วอลเลย์บอลระหว่างประเทศ

ในระหว่างที่ทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนกำลังค่อย ๆ ฟื้นขึ้นเป็นลำดับ เธอก็จำเป็นต้องเลือกที่จะลาออกจากตำแหน่งเองในปี 1999 ด้วยสาเหตุสารพัดตั้งแต่ความเจ็บป่วยของตนเอง คุณแม่ที่ป่วยหนักและต้องการผู้ดูแล ไปจนถึงลูกสาวที่ต้องการผู้ดูแล

เธอยังได้ทำทีมให้สโมสรในอิตาลีและได้แชมป์หลายวาระด้วยกันในช่วงปี 1989-2004 เรื่องที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มากคือ การรับเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลหญิงสหรัฐอเมริกาในปักกิ่งโอลิมปิคปี 2008 ที่บ้านของตัวเองจนได้เหรียญเงิน เธอถูกหาว่าเป็นผู้ทรยศและโจรขายชาติ แต่เธอก็แก้ข้อกล่าวหาว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงระดับโลกก็ล้วนแต่แข็งแกร่งทั้งนั้น ไม่ใช่ว่าฝีมือของเธอจะสามารถพลิกผันฝีมือทีมสหรัฐอเมริกาได้ในการรวมทีมก่อนแข่งเพียง 2-3 เดือน ทั้งนี้ เพราะว่าผู้เล่นทีมสหรัฐอเมริกาล้วนแต่เล่นทีมสโมสรอยู่ในอิตาลีเป็นส่วนใหญ่

หลายๆ ปี ของชีวิตอาชีพนักกีฬาที่ต้องแบกภาระการฝึกซ้อมอย่างหนัก ทำให้หลังผิงเกิดอาการเจ็บป่วยมากมายที่ติดตัวเธอไปตลอดชีวิต เท่าที่พอทบทวนได้ หลังผิงผ่านการผ่าตัดด้วยอาการบาดเจ็บกว่าสิบครั้ง ในจำนวนนั้นมีการผ่าตัดหัวเข่า 7 ครั้ง ทำสองข้างพร้อมๆ กัน 1 ครั้ง ยังมีกระดูกสะโพกงอก และผ่าตัดกระดูกต้นคอ 

การที่รัฐบาลจีนไม่ได้ช่วยเหลือค่ารักษาอาการบาดเจ็บที่ต้องไปทำถึงต่างประเทศก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่เธอจำเป็นต้องหาเงินจากอาชีพของตัวเอง ส่วนอีกเหตุผลหนึ่งคือปัญหาการเมืองภายในสมาคมวอลเลย์บอลของจีนที่มีการชิงดีชิงเด่นในช่วงที่เธอยังไม่มีอาวุโสเพียงพอ

-----------------------------

สู่ ‘หอแห่งเกียรติยศ’ หนึ่งเดียวในวงการวอลเลย์บอลเอเซีย

หลังผิง ได้รับเลือกด้วยเสียงเอกฉันท์ให้เข้าสู่ Hall of Fame ของวงการวอลเลย์บอลโลกในปี 2002 และเป็นนักวอลเลย์บอลจากเอเซียเพียงคนเดียวจนถึงปัจจุบันที่ได้รับเกียรติเช่นนี้ 

ในโอกาสครบรอบ 60 ปีแห่งการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 2009 เธอได้รับเลือกให้เป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดต่อวงการกีฬาของจีน 

ในปี 2016 เธอได้รับการขนานนามว่าเป็น บุคคลผู้สั่นสะเทือนประเทศจีน

ในปี 2013 หลังผิงกลับมารับตำแหน่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติจีนอีกครั้งหนึ่งและพยายามสร้างนักกีฬาหน้าใหม่อายุน้อยขึ้นมาทั้งหมดจนประสบความสำเร็จตามลำดับ 

โดยได้รองแชมป์โลกในปี 2014 และได้แชมป์โลกในปี 2015 ในที่สุด ภายใต้การฝึกสอนของหลังผิงโดยตรง 

ทั้งๆ ที่นักกีฬาในทีมคนแล้วคนเล่าต้องบาดเจ็บและถอนตัวจากการแข่งขัน 

จนกระทั่งล่าสุดยังได้นำทีมคว้าเหรียญทองโอลิมปิควอลเลย์บอลหญิง โดยเอาชนะเซอร์เบียด้วยแต้ม 3 - 1 เซ็ต เมื่อวันที่ 21 ส.ค.ที่เพิ่งผ่านมานี้เอง

ถ้าไม่มีฟ้าหลังฝน จะมีรุ้งที่สวยงามได้อย่างไร 

ทีมวอลเลย์บอลหญิงจีนก้าวขึ้นสู่เวทีโลกในทศวรรษที่ 80 ด้วยความเจิดจรัส แย่งชิงเอาตำแหน่งแชมป์วอลเลย์บอลหญิงระดับโลกมาถึง 3 ครั้ง ผลงานเช่นนี้จะปราศจากไปไม่ได้จากความทนทุกข์ลำบากของนักกีฬาที่อยู่เบื้องหลัง

เธอได้กล่าวแดกดันต่อผู้ที่ชื่นชมเธอในผลงานครั้งนี้ว่า ถ้าวันนั้นจีนเกิดแพ้เนเธอร์แลนด์มาอย่างหวุดหวิดบ้าง ไม่รู้ว่าจะยังมีผู้ชื่นชมอย่างนี้หรือไม่ คงจะถูกด่าไม่มีชิ้นดีมากกว่า

อ่านประวัติและผลงานของหลังผิง ได้ที่ http://en.wikipedia.org/wiki/Lang_Ping