คล้าย 'ป๋าเปรม' ไม่เหมือน 'บิ๊กสุ'

คล้าย 'ป๋าเปรม' ไม่เหมือน 'บิ๊กสุ'

ใครจะตีความอย่างไรก็ตาม

 กับคำว่า “...อยู่ด้วยกลไกประชาธิปไตยให้สง่างาม” ของ “ลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า “คสช.” อาจไม่สำคัญเท่ากับกระแสสังคมไทยในขณะนั้น จะเอาอย่างไร

กรณีถ้ารัฐธรรมนูญเปิดทางให้ “นายกฯคนนอก” แล้ว “ลุงตู่” คือคนคนนั้น

สถานการณ์ในขณะนี้ จึงคล้ายกับยุค “ป๋าเปรม”พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่รัฐธรรมนูญ เปิดช่องให้มี “นายกฯคนนอก” ได้

ขณะเดียวกัน “ป๋าเปรม” ก็มีความโดดเด่น ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เป็นจุดแข็ง ทั้งยัง “คุมกองทัพ” ได้ ในช่วงของการปฏิวัติรัฐประหาร ยังไม่ล้าสมัย

แต่ "จุดอ่อน"ในสมัย “ป๋าเปรม” ก็คล้ายกับทุกวันนี้ คือการเผชิญหน้ากับกระแสต่อต้านและเรียกร้องประชาธิปไตย เต็มใบและ นายกรัฐมนตรีมาจากการเลือกตั้ง

กระนั้น ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตของ “ป๋าเปรม” ทำให้กระแสต่อต้านไม่อาจทำอะไรได้ จึงยืนหยัดเป็นผู้นำอยู่ได้หลายสมัย

วันนี้พล.อ.ประยุทธ์ แพลมออกมาแล้วว่า พร้อม “อยู่ต่อ” และอยู่อย่าง “สง่างาม” ตามกติกา จึงน่าสนใจว่าอะไรคือ “จุดขาย” หรือ “จุดแข็ง” ของ “ลุงตู่”

ถ้าดูตั้งแต่ยึดอำนาจเข้ามา จนถึงวันนี้ สิ่งที่หลายคนเห็นตรงกันก็คือ ภาพของการเสียสละ ทำเพื่อบ้านเมือง ความซื่อสัตย์สุจริตก็เป็นที่ยอมรับ ส่วนบาดแผลเหวอะหวะก็ยังไม่มี คะแนนนิยมเริ่มมีให้เห็นเป็นกลุ่มก้อน อย่างผลการลงประชามติที่ผ่านมาเป็นเครื่องพิสูจน์ เพราะแม้จุดยืนพรรคเพื่อไทย และ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะ “ไม่รับ” ร่างรัฐธรรมนูญ แต่ประชามติก็ผ่านฉลุย

ส่วนถามว่าจะมีโอกาสเป็นเหมือน ยุค “บิ๊กสุ”พล.อ.สุจินดา คราประยูรหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับ “ลุงตู่” ในอนาคตเป็นสำคัญ

แต่ที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือ การยึดอำนาจของกลุ่ม บิ๊กสุกับ บิ๊กตู่อยู่บนพื้นฐานที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

ฝ่ายหนึ่งต้องการอำนาจแต่อีกฝ่ายหนึ่ง ถูกสถานการณ์บังคับให้ต้องทำ เพื่อผ่าทางตันทางการเมืองให้ประเทศเดินหน้า และแก้ไขความขัดแย้งแตกแยกในสังคม โดยมีประชาชนจำนวนไม่น้อยสนับสนุนอย่างชัดเจน

แต่ในอนาคต หาก “ลุงตู่” ได้เป็น “นายกรัฐมนตรี” ไม่ว่าจะอยู่ในกติกาแบบไหน อย่าลืมว่า “บิ๊กสุ” ก็มาตามกติกา เหตุใดจึงเกิด “พฤษภาทมิฬ” และจบลงอย่างไร ก็เป็นบทเรียนอยู่แล้ว

จึงอยู่ที่ “ลุงตู่” จะเลือกเป็น “รัฐบุรุษ” ที่สังคมไทยโหยหา หรือ “ทรราช” ที่จุดจบมีให้เห็นมานักต่อนักแล้ว ก็อยู่ที่ตัวท่านเอง