Why กับ What จบด้วย How งานสำเร็จอย่างมีความหมาย

Why กับ What จบด้วย How งานสำเร็จอย่างมีความหมาย

นักเรียนยอดฝีมือจากบ้านเมืองหนึ่ง ไปเข้าเรียนเลขกับนักเรียนที่สิงคโปร์ ยอดฝีมือคนนั้นรีบบอกวิธีทำแทบจะในทันที

ที่ครูเขียนโจทย์เลขเสร็จ ยอดฝีมือคนนั้นกลับกลายเป็นคนที่ผลการสอบแย่ที่สุด เมื่อการเรียนวิชานั้นสิ้นสุดลง นักเรียนคนเก่งคนนั้นแสนจะงวยงงว่าฉันรู้วิธีทำทุกข้อทุกโจทย์ ทำไม่ฉันไม่ได้เป็นที่หนึ่ง ทำไมฉันกลายเป็นหางแถวไม่ใช่หัวแถว จึงไปถามครูผู้สอนว่าทำไมตนไม่ได้เป็นหัวแถว คำตอบที่ได้คือในชีวิตจริงนั้น ความสำเร็จอย่างมีความหมาย คือสำเร็จแล้วเกิดประโยชน์กับตน เกิดประโยชน์กับคนอื่น ไม่ได้เริ่มต้นด้วยวิธีทำ แต่เริ่มต้นด้วยสาเหตุว่าทำไมต้องทำ ตามมาด้วยต้องทำอะไร วิธีทำคือทำอย่างไรนั้น เป็นเรื่องท้ายสุด

เราไม่อาจเรียกงานที่เสร็จสิ้นลงไปนั้นว่าความสำเร็จ หากงานที่เราทำเสร็จไปนั้นไม่มีคำตอบว่าเราทำไปเพื่ออะไร ถ้าตอบว่าทำตามที่ได้รับคำสั่ง หากอยากให้ผลงานมีความหมาย มีคุณค่าจริงๆ ก็ยังต้องตอบให้ได้ว่าที่ทำตามที่ถูกสั่งมานั้น คนสั่งบอกว่าทำไปแล้วจะเกิดอะไรด้วย ทำตามสั่งอย่างเดียวโดยไม่รู้ว่าทำไปตามวิธีนั้นเพื่อให้ได้อะไรขึ้นมา ทำไปโดยไม่รู้ว่าทุ่มเททำไปเพื่ออะไรนั้น แทบไม่ต่างไปจากเครื่องจักรกลอัตโนมัติที่ถูกสั่งอะไรก็ทำไปตามนั้น ซึ่งวันหน้าเครื่องจักรกลที่ทำได้แค่ตามสั่งกำลังมีพัฒนาการให้ทำได้ และคิดเองได้ในระดับหนึ่ง

หุ่นยนต์ที่ถูกสั่งให้ทำหน้าที่เคลื่อนย้ายชิ้นส่วนรถยนต์จากตำแหน่งหนึ่งไปยังอีกตำแหน่งหนึ่ง คิดเองได้ว่าตอนนี้ต้องหยุดการทำงานสักพัก ไม่ใช่หุ่นยนต์เหนื่อย แต่หุ่นยนต์ตอบได้ว่าทำไมต้องหยุด หยุดเพราะที่เก็บชิ้นส่วนเต็มแล้ว คนที่ทำได้แค่ตามสั่งนั้นวันนี้จึงแพ้แม้แต่หุ่นยนต์แล้ว

ดังนั้นถ้าอยากให้งานสำเร็จอย่างมีความหมาย ถามก่อนเสมอว่าฉันทำงานนี้เพราะเหตุใด และอะไรคือสิ่งที่ฉันกำลังพยายามทำอยู่ ก่อนที่จะทำตามวิธีการที่เคยทำเคยเห็นคนอื่นเขาทำมาก่อนหน้านี้ ขึ้นต้นงานด้วย Why และ What ก่อนเลือก How คือวิธีทำ อย่าขึ้นต้นด้วยวิธีทำ อย่าขึ้นต้นด้วยการเลือกเทคโนโลยีมาช่วยทำการงาน อย่าเลือกเทคโนโลยีตาม How โดยไม่ทราบ Why และ What เพราะนั่นกำลังหมายถึงความสำเร็จของงานที่ไร้ความหมาย งานเสร็จแต่ไร้ประโยชน์กับตนเองและคนอื่น เราจะขยันช่วยหาสารพัดวิธีที่โดดเด่นด้วยนวัตกรรมมาขนน้ำมันมากน้อยแค่ไหน ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด หากไม่รู้ก่อนว่ารถที่เราไปช่วยขนน้ำมันให้นั้นเป็นรถไฟฟ้า

จะสร้างความสำเร็จอย่างมีความหมาย ให้ขึ้นต้นด้วย Why คือตอบได้ว่าการงานของฉันช่วยสร้างคุณค่าอะไรให้กับองค์กรของฉัน พนักงานทำความสะอาดทำงานด้วยความเต็มอกเต็มใจมากขึ้น ถ้าได้รับการบอกกล่าวจากผู้บริหารว่าหน่วยงานของเราได้รางวัลคุณภาพเพราะส่วนหนึ่งมาจากความสะอาดของพื้นที่ทำงาน พนักงานทำความสะอาดรู้ Why คือรู้ว่าองค์กรจะได้รางวัลถ้าพื้นที่ทำงานสะอาด ต่อไปคือตอบตนเองให้ได้ว่าเราทำอะไร หรือ What ของเราคืออะไร พนักงานคนไหนกวาด คนไหนล้าง หลังจากนั้นค่อยว่ากันเรื่อง How คือจะทำวิธีใดจึงจะกวาดได้สะอาด จะใช้เครื่องมืออะไรมาช่วยในการกวาดให้สะอาดขึ้น เร็วขึ้น ความสำเร็จคือความสะอาด และเป็นความสำเร็จที่มีความหมาย คือเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้องค์กรได้รางวัลคุณภาพ

ผู้นำแบบจอมโปรเจคมักคิดแต่เรื่อง How คือทำอย่างไรกับเรื่องเดิมๆ แทนการนำอย่างมีวิสัยทัศน์ว่าทำไมเรายังต้องทำเรื่องนั้นเรื่องนี้ในยามที่บริบทเปลี่ยนแปลงไป รอบบ้านที่เคยเป็นนากลายเป็นโรงงานหมดแล้ว แต่ยังทำนาเหมือนเดิม เพียงแต่คิดเปลี่ยนจากใช้ควายไถนามาเป็นคูโบต้า โดยไม่ตอบว่าทำไมจึงต้องทำนาอยู่ตรงนี้

จอมโปรเจคคิดแต่จะหาวิธีทำใหม่ๆ กับเรื่องเก่า คิดอะไรไม่ได้ก็คิดเปลี่ยนชื่อหน่วยงาน เราจึงได้เห็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ในวงการทำงานกันเป็นประจำ การงานที่ไร้ความหมายขึ้นต้นด้วยHow ต่อท้ายด้วย What แต่จะหา Why ไม่เจอ เพราะถ้าเจอ Why จะรู้ทันทีว่าไม่ควรมี How นั้นอีกต่อไป