รื้อทีมเศรษฐกิจ

รื้อทีมเศรษฐกิจ

หลังผ่านพ้นการลงประชามติ “รางรัฐธรรมนูญ” ไป

 กระบวนการต่อไปคงต้องเป็นเรื่องของ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะปรับแก้ร่างรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับคำถามประกอบ (คำถามพ่วง) อย่างไร ก็ต้องว่ากันไป

ที่แน่ๆ ตอนนี้เริ่มมีเสียงเล็ดลอดในส่วนของ คณะรัฐมนตรีออกมาเป็นระลอกๆ ทำนองคงต้องใช้จังหวะนี้ ปรับคณะรัฐมนตรีกันเสียที เพราะการบริหารงานของเจ้ากระทรวงที่นั่ง กุมบังเหียน” กันแต่ละแห่ง ช่วงที่ผ่านมาผลงานเป็นอย่างไร คงเป็นที่รู้ๆ กัน 

มีเสียงเล็ดลอดหนาหูเหลือเกิน การปรับคณะรัฐมนตรีรอบนี้เป้าใหญ่คงอยู่ที่ “ทีมเศรษฐกิจ” ของรัฐบาล รวมไปถึงกระทรวงทางด้านสังคมและความมั่นคง คงจะมีผสมผสานกันไป  การบริหารงานที่ผ่านมาแต่ละกระทรวงเป็นอย่างไรก็รู้ๆ กันอยู่ 

 ที่ผ่านมาน่าจะเห็น ฝีไม้ลายมือ” รัฐมนตรีแต่ละคนกันแล้ว หนักไปกว่านี้ดูเหมือนจะมี รัฐมนตรีที่โลกลืม” อยู่เหมือนกัน ฉะนั้นหากต้องมีการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรีเกิดขึ้นก็ไม่แปลก เพื่อให้การบริหารงานเดินไปข้างหน้าได้ ในภาวะที่บ้านเมือง และเศรษฐกิจเป็นอย่างนี้

แต่ที่แน่ๆ เวลานี้เป้าใหญ่อยู่ที่กระทรวงเศรษฐกิจ และคงมีกระทรวงอยู่ในใจอย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจหลายเก้าอี้ คงมีทั้งปรับออกและสับเปลี่ยน ด้วยเหตุผลเพื่อความเหมาะสมกับภารกิจที่เป็นอยู่

กระทรวงที่อยู่ในข่ายต้องเปลี่ยน หัวโขน” เห็นทีจะหนีไม่พ้นกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กระทรวงการคลัง หรือแม้แต่กระทรวงคมนาคม อยู่ในข่ายที่ รองนายกฯสมคิด กำลังครุ่นคิดอย่างหนักว่า จะจัดการอย่างไร 

เหตุผลที่ต้องการปรับทีมเศรษฐกิจใหม่ เพราะต้องการให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลงทุนหรือการท่องเที่ยว ที่เป็นหัวใจสำคัญของการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ 

แว่วๆ รอบนี้ รองนายกฯสมคิด กำลังจะขอเข้าไปกำกับดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเองซะด้วย ส่วนจะออกหัวหรือก้อยที่ไหนอย่างไรอย่าได้กะพริบตา เชื่อเถอะ มันจะเกิดขึ้นในไม่ช้านี้  

ไม่เฉพาะแต่กระทรวงเศรษฐกิจ กระทรวงด้านความมั่นคง ด้านสังคม และการศึกษา ก็มีเสียงเล็ดลอดทำนองต้องปรับเปลี่ยนเช่นกัน ครับท่าน...!!