วางยารัฐมนตรี

ผูมีสิทธิออกเสียง 51 ลานคน จะไดใชไปออกเสียงประชามติวา เห็นชอบ หรือ ไมเห็นชอบ ตอ “รางรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช...” การออกเสียงประชามติครั้งนี้ สะทอนเจตนารมณของประชาชนวา ตองการเห็นประเทศชาติบานเมืองกาวไปในทิศทางใด และอนาคตประชาชนคนไทย

ฉะนั้นไม่แปลกก่อนที่จะลงประชามติ ย่อมมีสิ่ง “กวนใจ” รายล้อมให้กับรัฐบาลได้เสมอ อาจเป็นการวัดความแกร่งของรัฐบาลคสช.ก็เป็นได้ แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่พี่น้องประชาชน ที่จะเลือกให้ประเทศชาติเป็นแบบไหน 

งานนี้เชื่อเถอะ...เมื่อถึงวันนั้น การลงประชามติยังไงก็ผ่าน... วันนี้อาการกวนน้ำให้ขุ่นเป็นเรื่องปกติ

จะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม รัฐบาลยังคงต้องตั้งหน้าตั้งตาบริหารประเทศกันต่อไป แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้องชาวบ้าน ตอนนี้ไปไหนมาไหน  มีแต่คนบ่นเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ทำนองเศรษฐกิจมันแย่ ของขายไม่ได้ เงินไม่มี 

ฉะนั้นเป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องเร่งมือกับเรื่องนี้ คงต้องไขลานรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ช่วยกันทำงานมากขึ้น 

ที่สำคัญอย่าปล่อยให้ข้าราชการประจำตั้งเรื่อง ชงเรื่องจนเกินเหตุ ไม่เช่นนั้นก็จะเหมือนหลายๆ กระทรวงที่กำลังเผชิญอยู่เวลานี้ บางแห่งปล่อยให้เจ้ากระทรวงขาประจำ จัดการเองเบ็ดเสร็จ จนกลายเป็นเรื่องเป็นราวอยู่ในเวลานี้ในการจัดซื้อจัดจ้าง ทำเอารัฐมนตรีมึนพูดไม่ออกบอกไม่ถูก

บางกระทรวง ทีมงานและที่ปรึกษา ดูเหมือนจะหวังดีกับรัฐมนตรีเสียเหลือเกิน พยายามผลักดันเรื่องใส่พานให้รัฐมนตรี เสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ ตัวอย่างเห็นชัดๆ กรณี การขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 10 พ.ค.2559 รายงานการตรวจสอบข้อเท็จจริง และการแก้ปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม จากการทำเหมืองแร่ของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส 

แต่การประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อ 7 มิ.ย.2559 กลับมีข้อสรุปทำนองว่า มติคณะรัฐมนตรีเมื่อ 10 พ.ค.2559 เป็นการรายงานเกี่ยวกับผลการตรวจสอบ ของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพจากการทำเหมืองแร่ทองคำ ในรูปแบบวิดิทัศน์ โดยไม่มีเอกสารเสนอคณะรัฐมนตรี จึงเห็นควรให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรี 10 พ.ค.2559 

เป็นเรื่องน่าประหลาดใจเสนอเรื่องเข้าคณะรัฐมนตรี ไม่ถึงเดือน สุดท้ายเสนอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีไปแบบเงียบๆ 

งานนี้ ไม่รู้ว่าเจตนาดีหรือวางยารัฐมนตรี ยังโชคดีที่ "ไหวตัวทัน" ไม่อย่างนั้นมีหวังรัฐบาลนี้ต้องจ่าย “ค่าโง่” กันอีก 

 แต่ที่แน่ๆ เดือนส.ค.นี้ อาจจะเห็นการปรับเปลี่ยนคณะรัฐมนตรี(ทีมเศรษฐกิจ) ก็เป็นได้