จีนเป็นไทย

จีนเป็นไทย

ขณะที่กำลังเขียนคอลัมน์ ผมนอนบนเปล

ชื่นชมธรรมชาติอันงดงาม น้ำทะเลสีคราม สลับกับหมู่เกาะอันดามัน

วันก่อนผมตระเวนไปทั่วเกาะภูเก็ต เห็นการขยายตัวของเมืองออกไปอย่างรวดเร็ว เมืองเริ่มแออัด ผู้คนหน้าเคร่งเครียด

ผมแวะคุยกับเพื่อนเก่า ในซอกหลืบของร้านกาแฟเล็ก ๆ เพื่อนผมบ่นให้ฟังว่าหากินตอนนี้ฝืดเคือง คนร่วมอาชีพกัน ทะเลาะแย่งลูกค้ากัน มันเป็นการแก่งแย่งเพื่อความอยู่รอด เพื่อนผมบอกอย่างนั้น

เพื่อนพาผมไปโน่นมานี่ ชี้โน้นชี้นี้ให้ดูสิ่งปลูกสร้างสารพัด เพื่อนชี้ไปที่บางจุด บอกว่านี่มีคนมีสีถือหุ้น ผมก็ยังไม่เชื่อ แต่เพื่อนบอกว่า ให้ไปถามคนภูเก็ตเขารู้กันทั้งเมือง

อยู่ภูเก็ตนานไม่ได้ อึดอัด ผมจับรถมาต่อเรือหนีความวุ่นวายมาอยู่เกาะ

อาทิตย์ก่อน คอลัมน์นี้เขียนถึงคนจีน คนหนึ่ง ว่าเข้าข่ายนอมินีหรือไม่ ไม่ได้เอ่ยชื่อใครหรอกครับ แค่อยากให้ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ตรวจสอบ

ผมก็ได้หนังสือฉบับหนึ่ง ลงชื่อ ชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ ตำแหน่งประธานบริษัทกั่วลี่กรุ๊ป จำกัด ส่งมา บอกขอชี้แจง

เข้าใจในบัดนั้นว่า ชี้แจงแทนชาวจีนที่ผมไม่ได้เอ่ยชื่อถึงกระมัง

ไม่เป็นไร ถือว่านี่ เป็นชี้แจงจาก ชัยณัฎฐ์ ดังนี้ คือ

1. เดินทางมาจากจีนหวังพึ่งพระบรมโพธิสมภาร ประกอบสัมมาชีพสุจริต เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ได้ work permit ตามขั้นตอน และเมื่อแต่งงานกับหญิงไทย มีลูกด้วยกันจึงได้สัญชาติไทย เป็นพลเมืองไทยถูกต้อง

2. เมื่อรัฐส่งเสริมธุรกิจ จึงเปิดศูนย์แสดงสินค้า อัญมณี ที่นอนยางพารา สมุนไพร จำหน่ายสินค้าให้นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูเก็ต นำเงินเข้าประเทศ ทั้งหมดนี้มีหุ้นส่วนคนไทย มิได้เป็นนอมินีใคร

3. คนงานเป็นคนไทยสร้างรายได้ กระจายรายได้หมุนเวียนในประเทศ

ชัยณัฐร์ บอกว่า กั่วลี่กรุ๊ป คือบริษัทคนไทย

ขอจบการชี้แจงเพียงเท่านี้ ส่วนผมไกวแปลโยนไปมา ทะเลหอมลมมาปะทะใบหน้า วันนี้ทะเลสวยยิ่งกว่ากะไร