อุปนิสัยเพื่อการทำงานในอนาคต

อุปนิสัยเพื่อการทำงานในอนาคต

การทำงานกับคนแต่ละยุคสมัยต้องมีอุปนิสัยที่เหมาะสมกับยุคนั้น เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ใครเปลี่ยนงานบ่อยๆ

ถือเป็นคนที่ล้มเหลวในชีวิตการทำงาน แต่วันนี้ใครที่ไม่ยอมเปลี่ยนงานตามเวลาอันสมควร อาจถูกมองว่าอ่อนด้อยในฝีมือ อนาคตการงานจะอยู่ในมือของคนซึ่งเกิดมาพร้อมกับความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วของเทคโนโลยี และเกิดขึ้นมาในวาระที่โลกกำลังเผชิญหน้ากับสารพัดปัญหา นิสัยการทำงานที่ก่อให้เกิดความสำเร็จในวันหน้าจึงแตกต่างไปจากวันวาน

อุปนิสัยที่สำคัญประการแรกสำหรับการทำงานในอนาคตที่ผู้คนเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศให้รวดเร็วและกว้างขวางกว่าวันนี้มากมายนักคือ ทำงานอย่างโปร่งใส จะทำอะไรในวันหน้าต้องมีคำอธิบาย มีคำตอบสำหรับคนร่วมงาน วันหน้าจะสั่งอะไรให้ใครทำตามโดยปราศจากคำอธิบายจะไม่ง่ายเหมือนวันนี้ เพราะวันหน้าความลับหายากกว่าวันนี้ ดังนั้นจะทำอะไร อย่าคิดปกปิด วันนี้เริ่มฝึกทำงานอย่างเปิดเผยโดยไม่มีอะไรซุกซ่อนไว้นั่นแหละจะสร้างความสำเร็จได้ยืนยาวต่อเนื่องไปถึงอนาคต

อุปนิสัยที่สองสำหรับสร้างความสำเร็จในอนาคตคือยอมรับการเปลี่ยนแปลง อย่ายึดติดกับวิธีการเดิมๆ หรือแม้แต่ความสำเร็จที่มีมาแต่ดั้งเดิม อะไรที่เป็นความสำเร็จในวันนี้ต้องท้าทายว่า หากปัจจัยที่สนับสนุนความสำเร็จนั้นเปลี่ยนแปลงไป เราจะรักษาความสำเร็จนั้นไว้ต่อไปได้อย่างไร เคยมีเส้นสายส่งงานให้เป็นประจำ แต่ในความโปร่งใสเส้นสายย่อมไม่เหมือนแต่ก่อน ถ้าเส้นสายหายไปแล้วเราจะต้องเปลี่ยนแปลงอย่างไร วันนี้ต้องเริ่มคิดกันใหม่ว่าอะไรที่ไม่เปลี่ยนแปลงนั้นเป็นเรื่องไม่ปกติ อะไรที่เปลี่ยนแปลงนั่นแหละที่เป็นปกติ อย่าต่อต้านคัดค้านการเปลี่ยนแปลงเพียงเพราะการเปลี่ยนแปลงนั้นทำให้เราพ้นจากความสะดวกสบายในการทำงานตามแบบที่คุ้นเคย ให้คิดใหม่ว่าการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งคือโอกาสก้าวหน้าใหม่ๆ สำหรับตัวฉัน

อุปนิสัยสำคัญต่อมาคือร่วมมือกับคนอื่นเป็นความสำเร็จแบบข้ามาคนเดียวหาได้ยากในวันที่เราอยู่กับ Sharing Economy ที่มีการแบ่งปันกันตั้งแต่ซื้อของมาแบ่งกันใช้ ไปทัวร์กับคนที่รู้จักกันในเฟสบุค จนกระทั่งแบ่งปันที่พักกับคนต่างชาติต่างภาษา การร่วมมือกับคนอื่นเป็นนั้นไม่ใช่แค่ติดต่อคบค้ากันอยู่ในกลุ่มไลน์เดียวกัน แต่งานวันหน้าเป็นงานที่สำเร็จได้จากการทำงานร่วมกันของคนที่มีทักษะแตกต่างกันมีการร่วมมือกับคนอื่นที่รู้จักกันบ้าง ไม่รู้จักกันบ้างจนกลายเป็นเรื่องปกติของการงานในวันหน้า

โลกวันหน้า การงานในโลกไซเบอร์จะปะปนไปกับการงานในโลกจริงจนแยกจากกันได้ยาก คนที่เราทำงานด้วยอาจอยู่คนละซีกโลก ดังนั้นจะต้องร่วมมือทำงานกับคนอื่นเป็น คือรู้ว่าใกล้แค่ไหนจึงจะเกิดงานได้ ไกลแค่ไหนจึงจะรักษาความเป็นส่วนตัวของตนเองไว้ได้ ใกล้แค่ไหนจึงจะทราบว่าไว้ใจได้หรือไม่ได้ ไกลแค่ไหนจึงจะไม่เกินเลยความเป็นผู้ร่วมงาน วันหน้าต้องตระหนักไว้เสมอว่าเราต้องร่วมมือกับคนหลากหลาย แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนที่เราร่วมมือด้วยนั้นคือเพื่อน

วันหน้าการงานกับชีวิตส่วนตัวปะปนกันมากกว่าวันนี้ จากการมีสารพัดเครื่องมือที่ทำให้ทำงานกันได้ทุกที่ทุกเวลา อุปนิสัยอีกอย่างหนึ่งที่นำไปสู่ความสำเร็จในอนาคต คือรู้จักคุณค่าของคนจากมุมมองรอบด้าน ไม่ใช่เห็นคุณค่าของคนจากการงานเท่านั้น ในยามที่โลกเผชิญหน้ากับสารพัดปัญหาที่คุกคามการกินดีอยู่ดีของผู้คน จะดูว่าใครดีไม่ดี ดูแค่การงานไม่พอแล้ว วันหน้าคุณค่าของคนรวมไปถึงเรื่องรอบตัว งานดีหมายถึงดีไปถึงเรื่องรอบตัวอื่นๆ ด้วย ดีไปถึงชีวิตที่บ้าน ดีไปถึงคนใกล้ชิด ดีไปถึงชุมชนรอบตัว ถ้าเอาแต่ทุ่มเททำงานจนไม่มีเวลาให้กับคนใกล้ชิด ไม่มีอะไรเหลือแบ่งปันให้ชุมชนรอบตัว วันหน้าจะไม่บอกว่าทำงานดี เพราะดีไม่ครบรอบด้าน

วันหน้าเป็นวันของเจ้าภาพ มากกว่าเจ้านาย ถ้าอยากประสบความสำเร็จในวันหน้า ต้องปรับนิสัยชอบสั่งมาเป็นชอบประสานงาน เจ้าภาพประสานสารพัดเรื่องกับผู้คนสารพัดความเชี่ยวชาญ ด้วยสารพัดวิธีการในการประสานงาน เจ้าภาพประสานงานเพื่อให้การงานนั้นประสบความสำเร็จ ลองนึกภาพงานแต่งงานที่เจ้าภาพทำตัวเป็นเจ้านายของผู้มาร่วมงานดูแล้ว ลองคิดต่อไปว่างานแต่งงานนั้นจะเป็นอย่างไร จะล้มเหลว หรือประสบความสำเร็จกันแน่